คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สำเนียง ด้วงมหาสอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 561 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้จอดรถในปั๊มน้ำมัน และอำนาจในการรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัย
การที่จำเลยยินยอมให้บุคคลอื่นนำรถเข้าไปจอดในบริเวณปั๊มน้ำมันของจำเลย โดยปั๊มได้รับเงินค่าจอดเป็นประโยชน์ตอบแทนเมื่อปั๊มปิดจะมีรั้วเหล็กปิดกั้นหน้าปั๊มใส่กุญแจมีคนเฝ้าปั๊มไว้ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าทางปั๊มได้รับมอบทรัพย์สินไว้เพื่อดูแลเก็บรักษาไว้ในอารักขาของตน เป็นการรับฝากทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 แม้ทางปั๊มจะมีประกาศว่าให้เช่าเป็นที่จอดรถ รวมทั้งระบุข้อความในใบรับเงินและเงื่อนไขต่าง ๆ ซึ่งไม่ต้องรับผิดก็เป็นการกระทำของจำเลยฝ่ายเดียว บุคคลภายนอก มิได้มีข้อตกลงตามนั้น อันจะทำให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติ ของจำเลยที่ 1 ไปในรูปลักษณะของนิติกรรมอย่างอื่น ซึ่งไม่ใช่ลักษณะ ของการรับฝากทรัพย์
ตามกรมธรรม์ประกันภัยกำหนดให้บริษัทอยู่ยนต์ จำกัดเป็นผู้มีสิทธิที่จะได้รับค่าเสียหาย บริษัทดังกล่าวจึงอยู่ในฐานะของผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะความวินาศภัยอันเกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจที่จะเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 880

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการครอบครองทรัพย์สินโดยเจตนา ผู้รับมรดกมีสิทธิในส่วนที่ครอบครองแยกต่างหาก
เจ้าของที่ดินมารดาจำเลยที่ 1,2 กู้เงิน เมื่อตายแล้วจำเลยที่ 2 กู้เงินโจทก์เพิ่ม และเจ้าหนี้เดิมทำเป็นสัญญาที่จำเลยที่ 2 กู้ขึ้นใหม่ ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ใช้หนี้โจทก์ โจทก์ยึดที่ดินส่วนที่จำเลยที่ 1 ครอบครองเป็นส่วนสัดแล้วไม่ได้ จำเลยที่ 1 ร้องขัดทรัพย์ได้ ไม่ใช่เจ้าของรวมที่จะต้องขอกันส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินที่เป็นโมฆะ และสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้ตายกู้ยืมเงินผู้ร้องไปโดยทำสัญญากับผู้ร้องว่าถ้าชำระหนี้ไม่ได้จะโอนที่ดินทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องเป็นการชำระหนี้แทน เป็นการตกลงกันให้เอาทรัพย์สินชำระหนี้แทนเงินกู้ยืม โดยมิได้คำนึงถึงราคาทรัพย์สินในเวลาและสถานที่ส่งมอบ ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง ตกเป็นโมฆะตามวรรคสาม ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบังคับให้มีการโอนที่ดินมรดกเป็นการชำระหนี้แก่ผู้ร้องโดยเจาะจง คงมีแต่สิทธิขอให้บังคับชำระหนี้อันเป็นสิทธิของเจ้าหนี้โดยทั่วไป
ผู้มีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นถ้ามิใช่ทายาทหรือพนักงานอัยการก็จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งหมายความว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทางมรดกหรือในทางพินัยกรรม หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินในกองมรดก ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้มิใช่เป็นผู้ที่จะได้ประโยชน์ถ้าหากกองมรดกมีผู้จัดการมรดก หรือเสียประโยชน์ถ้าหากกองมรดกไม่มีผู้จัดการมรดก คดีนี้ผู้ตายยังมีทายาทอยู่ ถึงแม้ไม่มีผู้จัดการมรดก ผู้ร้องก็สามารถฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิแก้คำให้การก่อนศาลพิพากษาและอายุความความผิดอันยอมความได้
ในคดีอาญากฎหมายหาได้จำกัดว่าจำเลยมีสิทธิขอแก้คำให้การได้เพียงครั้งเดียวไม่ ตราบใดที่ศาลยังมิได้พิพากษาแม้จะนัดฟังคำพิพากษาไว้แล้ว ก็ไม่เป็นการตัดสิทธิจำเลยที่จะยื่นคำร้องขอแก้คำให้การเมื่อมีเหตุอันควรในคดีความผิดอันยอมความได้ ศาลเห็นว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ตามกฎหมาย ย่อมมีเหตุอันควรที่จะอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การโดยการถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ต่างวัตถุ หักกลบลบกันไม่ได้ ศาลไม่งดบังคับคดี
จำเลยเป็นหนี้ต้องชำระเงินโจทก์ตามคำพิพากษา จำเลยกลับฟ้องโจทก์ขอให้ขายห้องพิพาทแก่จำเลย วัตถุแห่งหนี้ต่างกัน หักกลบลบกันไม่ได้ จึงงดการบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การเพื่อยกข้อต่อสู้ใหม่ก่อนวันชี้สองสถาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันชี้สองสถานโดยยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่อีกว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือที่พิพาทแล้ว จำเลยทำได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(3),180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107-108/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ความเสียหายเป็นพับกันไป
ความเสียหายฐานละเมิดเกิดจากความประมาทเลินเล่อของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งร้ายแรงพอ ๆ กัน จึงพับกันไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีป่าไม้ต้องระบุรายละเอียดการเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่บรรยายตามกฎหมาย ฟ้องขาดองค์ความผิด
มาตรา 38 พระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 บังคับแก่กรณีนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ต่อไปจากที่ ๆ ระบุไว้ เมื่อฟ้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงขาดองค์ความผิดลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานข่มขืนฯ ร่วมกันกระทำผิด แม้ผู้ร่วมกระทำผิดมิได้ลงมือเองก็มีความผิดตามกฎหมาย
่ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงนั้นเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำผิดได้ โดยผู้ร่วมกระทำผิดไม่จำต้องเป็นผู้ลงมือกระทำชำเราด้วยกันทุกคน เพียงแต่คนใดคนหนึ่งกระทำชำเราผู้ร่วมกระทำผิดทุกคนก็มีความผิดฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ทั้งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 บัญญัติแต่เพียงว่า "ผู้ใดกระทำชำเรา ฯลฯ" หาได้บัญญัติให้ลงโทษแต่เฉพาะชายเท่านั้นไม่ แม้จำเลยจะเป็นหญิงแต่เมื่อร่วมกระทำผิดกับชายกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ประกอบกับมาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานข่มขืนฯ เป็นความผิดร่วมกระทำได้ แม้จำเลยหญิงไม่ได้ลงมือเองก็มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 277
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงนั้นเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำผิดได้ โดยผู้ร่วมกระทำผิดไม่จำต้องเป็นผู้ลงมือกระทำชำเราด้วยกันทุกคน เพียงแต่คนใดคนหนึ่งกระทำชำเราผู้ร่วมกระทำผิดทุกคนก็มีความผิดฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ทั้งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 บัญญัติแต่เพียงว่า 'ผู้ใดกระทำชำเราฯลฯ' หาได้บัญญัติให้ลงโทษแต่เฉพาะชายเท่านั้นไม่ แม้จำเลยจะเป็นหญิงแต่เมื่อร่วมกระทำผิดกับชายกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ประกอบกับมาตรา 83
of 57