พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดิน สิทธิเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ และการฟ้องขับไล่
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าที่พิพาทได้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ออกโฉนดเป็นส่วนสัดแล้วจำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่พิพาท ประสงค์จะขอทำกินต่อไปอีก 5 ปี โจทก์ไม่ยินยอม คำแถลงของโจทก์จำเลยตามที่ศาลชั้นต้นจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว มิใช่เป็นการแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ที่จะทำการเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 20 เท่านั้น แต่เป็นการแถลงรับข้อเท็จจริงบางประการอันเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ก็ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินและการเช่าปากเปล่า ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและพิพากษาคดีได้
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าที่พิพาทได้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ออกโฉนดเป็นส่วนสัดแล้วจำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่พิพาท ประสงค์จะขอทำกินต่อไปอีก 5 ปี โจทก์ไม่ยินยอม คำแถลงของโจทก์จำเลยตามที่ศาลชั้นต้นจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว มิใช่เป็นการแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ที่จะทำการเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 20 เท่านั้น แต่เป็นการแถลงรับข้อเท็จจริงบางประการอันเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ก็ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2801/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม: ศาลไม่ต้องไต่สวน และต้องมีพฤติการณ์พิเศษ
กรณีที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลาของคู่ความนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 มิได้บัญญัติไว้ว่าศาลจะต้องทำการไต่สวนเสียก่อน และการขยายระยะเวลาจะพึงกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลานำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลโดยอ้างว่าผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์ผิดนัดในการชำระค่าที่ดินและโจทก์ไม่มีเงินรายได้อื่นเพียงพอที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาล ข้ออ้างดังกล่าวไม่นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมได้
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลานำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลโดยอ้างว่าผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์ผิดนัดในการชำระค่าที่ดินและโจทก์ไม่มีเงินรายได้อื่นเพียงพอที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาล ข้ออ้างดังกล่าวไม่นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2776/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การโต้เถียงข้อเท็จจริงเรื่องการชำระหนี้และการหักกลบลบหนี้ โดยอ้างอิงมาตรา 653 ไม่ถือเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
โจทก์ฎีกาความว่า การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยอมฟังข้อนำสืบของจำเลยแต่เพียงวาจาว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้โดยไม่มีพยานเอกสารใด ๆ นำสืบสนับสนุนให้น่าเชื่อ เป็นเหตุให้โจทก์เสียเปรียบในเชิงคดีทั้ง ๆ ที่สัญญากู้ยังมิได้เวนคืน แทงเพิกถอนหรือมีการจดแจ้งว่าได้ชำระหนี้แล้ว โจทก์เห็นว่าการรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวยังขาดเหตุและผลอยู่ ข้อสำคัญที่ปรากฏในสำนวนคดีนี้ก็คือ หนี้ในสัญญากู้นั้นมิได้มีการเวนคืนเอกสารสัญญากู้หรือเพิกถอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 กรณีจึงรับฟังไม่ได้ว่าได้มีการชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วดังที่จำเลยกล่าวอ้างนำสืบมาแต่ต้น ข้อความในฎีกาดังกล่าว เป็นการฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงว่าจำเลยยังมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เพียงแต่อ้างมาตรา 653 มาหักล้างข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบในข้อที่ว่าได้หักกลบลบหนี้กับโจทก์แล้วเท่านั้นหาได้เป็นข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพื่อเอาชนะคดีโดยชัดแจ้งไม่ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องบังคับเปิดทางจำเป็น ไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากประเด็นต่างจากคดีก่อนที่อ้างสัญญา
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ใช้ถนนที่จำเลยสร้างขึ้นในที่ดินของจำเลย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดทางจำเป็นในที่ดินของจำเลย จึงเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นฟ้องซ้ำ: สัญญาใช้ทาง vs. ทางจำเป็น แม้ประเด็นต่างกันก็ไม่ถือว่าฟ้องซ้ำ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ใช้ถนนที่จำเลยสร้างขึ้นในที่ดินของจำเลย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดทางจำเป็นในที่ดินของจำเลย จึงเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2710/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการยุติของข้อหา: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อหาที่ยุติแล้ว แม้มีการอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์แต่เพียงฐานเดียว เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ ต้องถือว่าข้อหาฐานรับของโจรเป็นอันยุติไปแล้ว การที่จำเลยอุทธรณ์ในข้อหาฐานรับของโจรว่าเป็นฟ้องซ้ำจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีแต่อย่างใด ไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรอีกศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2639/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการและการมีสิทธิฟ้องขอเลิกห้างหุ้นส่วน
ก. หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยมิได้นำรถยนต์ที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนนำมาลงหุ้นไปจดทะเบียนโอนเป็นทรัพย์สินของจำเลย ปล่อยให้ซ่อมแซมรักษาและเก็บผลประโยชน์กันเอง จัดทำบัญชีค่าใช้จ่าย ของจำเลยว่ามีค่าซ่อมรถยนต์ค่าซื้ออะไหล่ ค่าน้ำมัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง เอาใบเสร็จค่าน้ำมันรถยนต์ ของตนมาลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายของจำเลย และใบเสร็จรับเงินถูกแก้ไขจำนวนเงินและราคาให้สูงกว่าความเป็นจริง ถือได้ว่า ก. ปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบส่อไปในทางทุจริต เป็นการละเมิดข้อบังคับของจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจึงมีสิทธิฟ้องขอให้เลิกห้างจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1057(1) และ มาตรา 1080
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2626/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส.3 ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเข้าครอบครองยึดถือ จึงจะสมบูรณ์
การโอนสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)นั้น อาจทำได้โดยสมบูรณ์ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 ทวิ ซึ่งเป็นการทำตามแบบของกฎหมายประการหนึ่ง กับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 ซึ่งไม่ต้องมีแบบอีกประการหนึ่ง แม้โจทก์จะมีหนังสือสัญญาซื้อขายที่พิพาท และผู้ขายทำหนังสือมอบอำนาจให้ไปจดทะเบียนโอนกับมอบหลักฐานเกี่ยวกับภาษีบำรุงท้องที่ทุกฉบับให้โจทก์ไว้ก็ตามเมื่อโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และยังมิได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาท โจทก์จึงยังไม่ได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งอยู่ในที่พิพาทนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2626/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส.3 ต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย มิฉะนั้นสิทธิยังไม่สมบูรณ์
การโอนสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) นั้น อาจทำได้โดยสมบูรณ์ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 ทวิ ซึ่งเป็นการทำตามแบบของกฎหมายประการหนึ่ง กับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 ซึ่งไม่ต้องมีแบบอีกประการหนึ่ง แม้โจทก์จะมีหนังสือสัญญาซื้อขายที่พิพาท และผู้ขายทำหนังสือมอบอำนาจให้ไปจดทะเบียนโอนกับมอบหลักฐานเกี่ยวกับภาษีบำรุงท้องที่ทุกฉบับให้โจทก์ไว้ก็ตามเมื่อโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และยังมิได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาท โจทก์จึงยังไม่ได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งอยู่ในที่พิพาทนั้น