คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เริ่ม ธรรมดุษฎี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3123/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: แม้เลขที่เช็คในฟ้องผิด แต่จำเลยทราบและไม่ได้โต้แย้ง ถือฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คเลขที่ 2034623 แต่ โจทก์ก็ได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าเช็คดังกล่าวนั้นปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องซึ่งเป็นเช็คหมายเลข 2035623 สำเนาท้ายฟ้องย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย ทั้งก่อนจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การโจทก์ก็ได้นำส่งต้นฉบับเช็คและใบคืนเช็คต่อศาลแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีโอกาสตรวจสอบต้นฉบับเช็คได้และจำเลยที่ 1 มิได้ให้การโต้แย้งเลยว่าไม่ได้ออกเช็คเลขที่ 2035623 แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจฟ้องโจทก์ดีว่าเช็คตามฟ้องนั้นคือเช็คเลขที่ 203562 จึงมิได้เสียเปรียบในการต่อสู้คดี คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3123/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การระบุเลขที่เช็คผิดพลาดเล็กน้อยในคำฟ้อง ไม่ทำให้คำฟ้องขาดความชัดเจน หากจำเลยทราบถึงรายละเอียดที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คเลขที่ 2034623 แต่ โจทก์ก็ได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าเช็คดังกล่าวนั้นปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้อง ซึ่งเป็นเช็คหมายเลข 2035623 สำเนาท้ายฟ้องย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย ทั้งก่อนจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การโจทก์ก็ได้นำส่งต้นฉบับเช็คและใบคืนเช็คต่อศาลแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีโอกาสตรวจสอบต้นฉบับเช็คได้และจำเลยที่ 1 มิได้ให้การโต้แย้งเลยว่าไม่ได้ออกเช็คเลขที่ 2035623แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจฟ้องโจทก์ดีว่าเช็คตามฟ้องนั้นคือเช็คเลขที่ 203562 จึงมิได้เสียเปรียบในการต่อสู้คดี คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3093-3094/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากเป็นโมฆะ หากมีเจตนาซ่อนเร้นการกู้เงิน
โจทก์ทำสัญญาขายฝากแก่จำเลย โดยโจทก์ยังไม่ได้รับเงินเป็นการอำพรางนิติกรรมการกู้เงินที่จะกู้เป็นงวด ๆ ในจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนเงินในสัญญาขายฝาก สัญญาขายฝากจึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรก ส่วนนิติกรรมสัญญากู้เงินตามงวดที่ถูกอำพรางไว้เป็นอันใช้บังคับได้ แม้การกู้เงินบางงวดมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ย่อมถือได้ว่า เอกสารการขายฝากเป็นนิติกรรมสัญญากู้เงินที่ทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อนิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะ จำเลยชอบที่จะคืนทรัพย์ตามสัญญาขายฝากและรับเงิน จำนวนที่ให้กู้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้อง: ศาลอนุญาตได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยก่อนนัดชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 เป็นเรื่องการทิ้งฟ้องมิใช่ทิ้งคำร้องขอถอนฟ้อง กรณีเรื่องถอนฟ้องมีบัญญัติไว้ในมาตรา 175 ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ โดยฟังคำคัดค้านของจำเลยนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่จำเลยจะถือเอาว่าเมื่อโจทก์มิได้นำส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้องให้จำเลยก่อนวันชี้สองสถานแล้ว เป็นการทิ้งคำร้องขอถอนฟ้องแสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะขอถอนฟ้องนั้นไม่มีกฎหมายสนับสนุนข้ออ้างดังกล่าวของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้อง: ศาลอนุญาตได้แม้ไม่ส่งสำเนาคำร้องก่อนนัดชี้สองสถาน หากจำเลยไม่คัดค้านการเลื่อนนัด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 เป็นเรื่องการทิ้งฟ้องมิใช่ทิ้งคำร้องขอถอนฟ้อง กรณีเรื่องถอนฟ้องมีบัญญัติไว้ในมาตรา 175 ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ โดยฟังคำคัดค้านของจำเลยนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่จำเลยจะถือเอาว่าเมื่อโจทก์มิได้นำส่งสำเนาคำร้องขอถอนฟ้องให้จำเลยก่อนวันชี้สองสถานแล้ว เป็นการทิ้งคำร้องขอถอนฟ้องแสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะขอถอนฟ้องนั้นไม่มีกฎหมายสนับสนุนข้ออ้างดังกล่าวของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3089/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินภาษีที่ชำระเกิน และการคิดดอกเบี้ยจากความผิดนัด
โจทก์เสียภาษีการค้าเกินอัตราให้แก่กรมสรรพากรจำเลยเป็นเรื่องหนี้เงินที่จำเลยเรียกเก็บผิดไปจากที่กฎหมายบัญญัติ เป็นเรื่องสิทธิเรียกร้องในหนี้เงิน เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิอย่างใดในเงินที่เรียกเก็บนั้น จำเลยก็ต้องคืนเงินอันมีจำนวนเงินที่เกินให้โจทก์ กรณีไม่ใช่เรื่องครอบครองปรปักษ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แม้เงินจำนวนนี้ไม่มีอยู่ที่จำเลย เพราะตกได้แก่ แผ่นดินและรัฐบาลได้ใช้จ่ายไปแล้วเพื่อการบำรุงประเทศ หรือโจทก์ได้บวกค่าภาษีที่ได้ชำระไปแล้วรวมเข้ากับต้นทุนสินค้าและจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ก็หาเป็นเหตุที่จะทำให้จำเลย ไม่ต้องรับผิดไม่
เมื่อจำเลยได้รับการทวงถามจากโจทก์โดยชอบแล้ว ไม่ยอมคืนเงินภาษีที่โจทก์ชำระเกิน ถือได้ว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด ต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัดเป็นต้นมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่จำเลยอ้างกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ และข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ อันมีค่าเช่าเดือนละห้าร้อยบาท จำเลยให้การว่าบ้านพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของนางล้อมนางล้อมมอบให้จำเลยดูแลแทน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงเป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลในกรณีอื่นออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละห้าพันบาท และจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์แม้ต่อมาศาลชั้นต้นให้เรียกนางล้อมเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำขอของโจทก์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านพิพาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยร่วมไม่ฎีกา ดังนี้ จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีขับไล่ที่จำเลยร่วมไม่ฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ อันมีค่าเช่าเดือนละห้าร้อยบาท จำเลยให้การว่าบ้านพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของนางล้อมนางล้อมมอบให้จำเลยดูแลแทน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงเป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลในกรณีอื่นออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละห้าพันบาท และจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์แม้ต่อมาศาลชั้นต้นให้เรียกนางล้อมเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำขอของโจทก์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านพิพาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยร่วมไม่ฎีกา ดังนี้ จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งที่ดินเพื่อตอบแทนการทำประโยชน์ แม้ไม่จดทะเบียน ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้ยันคู่สัญญาได้
โจทก์ตกลงจะแบ่งที่พิพาทให้จำเลยครึ่งหนึ่ง เพื่อตอบแทนการที่จำเลยเข้าถากถางที่พิพาท และปลูกไม้ยืนต้นจนให้ผล ข้อตกลงดังกล่าว แม้จะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 อันเป็นเหตุให้สิทธินั้นไม่บริบูรณ์เป็นทรัพยสิทธิ แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลสิทธิจำเลยอาจยกสิทธินั้นขึ้นยันโจทก์ ซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: การตัดสายห้ามล้อรถยนต์ ไม่ถึงขั้นร้ายแรงพอที่จะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
การที่จำเลยตัดสายห้ามล้อรถยนต์เพื่อมิให้โจทก์ออกจากบ้านยังห่างไกลต่อการที่จะฟังว่า จำเลยได้ทำร้ายโจทก์ และแม้โจทก์จำเลยทะเลาะกันเป็นประจำก็ฟังไม่ได้ว่าเป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516(3) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
of 25