พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนแร่ดีบุกของกลางแก่เจ้าของที่ไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.แร่
แม้จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบแร่ของผู้ร้องแล้วก็ตาม แต่เมื่อผู้ร้องได้ร้องขอแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องคืน โดยอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดซึ่งศาลฎีกาก็ได้พิพากษาชี้ขาดแล้วว่าคำพิพากษาที่ให้ริบแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด และตามพระราชบัญญัติแร่ฯ ก็มีข้อบัญญัติมิให้ริบทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด จึงต้องคืนแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องแก่ผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: คำฟ้องเดิมกับคำฟ้องใหม่ที่มีสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับเดียวกัน
ผู้จัดการมรดกในฐานะตัวแทนของทายาทรวมทั้งโจทก์ในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสี่ออกจากที่พิพาท คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ในคดีนี้มาฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสี่ออกจากที่พิพาทเดียวกันอีก ฟ้องทั้งสองจึงเป็นคำฟ้องเรื่องเดียวกัน เพราะสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับเป็นอย่างเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัย กรณีศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาลดค่าปรับในคดีสัญญาประกัน
โจทก์ทั้งสองในฐานะพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ. กับ จ. ผู้ต้องหาไว้ จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัว พ. กับ จ. จำเลยผิดสัญญาประกันคนละฉบับฉบับละ 50,000 บาททุนทรัพย์สำหรับคดีนี้จึงแยกออกตามสัญญาประกันแต่ละฉบับเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลดค่าปรับลงจากสัญญาละ 35,000 บาทเป็นสัญญาละ 10,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาดุลพินิจในการลดค่าปรับ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิครอบครองที่ดินเพื่อปรับปรุงผลผลิต ไม่ถือเป็นทำลายทรัพย์
ผู้เสียหายไม่มีเงินใช้หนี้ น. จึงยินยอมให้ น.กู้เงินจากจำเลยโดยมอบที่พิพาทซึ่งเป็นของผู้เสียหายให้จำเลยไว้เป็นประกันเงินกู้และทำประโยชน์ต่างดอกเบี้ย กับ ให้จำเลยมีสิทธิใช้ที่พิพาททำประโยชน์ตามที่เห็นสมควรครั้งแรกจำเลยตัดฟันต้นยางพาราพันธุ์เก่าเพื่อปลูกยางพาราพันธุ์ดี เพื่อให้ยางพาราให้ผลดีมากขึ้นในอนาคตผู้เสียหายคัดค้าน แต่มิได้ดำเนินการประการใด การที่จำเลยปลูกต้นยางพาราพันธุ์ดีเพิ่มเติมและตัดฟันต้นยางพาราตาม ฟ้องอีก จึงเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้ครอบครองที่พิพาท ถือไม่ได้ว่ามีเจตนาทำลายทรัพย์หรือทำให้เสียทรัพย์ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องถอนคืนที่ดินเนื่องจากประพฤติเนรคุณ: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้ไม่ได้ระบุเวลาขอความช่วยเหลือ
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดิน เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์พยายามพบและพูดกับจำเลยเพื่อขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิต จำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบและไม่ยอมพูดด้วย แม้มิได้กล่าวว่าโจทก์ไปขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยเมื่อใด โจทก์ยากจนเมื่อใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเกี่ยวพันกับยาเสพติด: ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องความผิดฐานครอบครอง แม้จำเลยฎีกาไม่ได้ในข้อเท็จจริง
แม้ข้อหาฐานมียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนไว้ในครอบครองจะต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็เป็นความผิดที่เกี่ยวพันกับความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนนั้น เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ชุดเดียวกันเป็นที่สงสัยและเป็นพิรุธ ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ยกฟ้องถึงความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจฉบับต่างประเทศที่มีคำแปลไทย และการปิดอากรแสตมป์ที่ถูกต้อง
ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีที่ทำขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศและมีคำแปลเป็นภาษาไทยนั้น เป็นเอกสารที่ทำขึ้นและส่งต่อศาลชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 46 แล้ว ถึงแม้จะปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับภาษาต่างประเทศเท่านั้นก็เป็นการปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับตราสารชอบด้วยมาตรา 118 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จึงรับฟังเป็นพยานเอกสารได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับปากแล้วไม่ทำตาม ไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หากไม่มีเจตนาหลอกลวงตั้งแต่แรก
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า จำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ โดยจำเลยจัดพิมพ์หนังสือบันทึกเหตุการณ์เขมรฆ่าโหดคนไทย 30 ศพการจำหน่ายหนังสือดังกล่าวจำเลยโฆษณาแก่ประชาชนและโจทก์ว่า จำเลยจะนำเงินรายได้ไปช่วยซื้ออาวุธให้ราษฎรชายแดนคุ้มครองหมู่บ้าน เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อตกลงซื้อหนังสือดังกล่าว 2 เล่ม เป็นเงิน40 บาท จำเลยจำหน่ายหนังสือดังกล่าวได้เงิน 200,000บาท จำเลยได้รับเงินค่าหนังสือจากโจทก์แล้วกลับนำเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวและผู้อื่น ไม่นำไปซื้ออาวุธเพื่อแจกจ่ายราษฎรชายแดน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ดังนี้ ข้อความที่ปรากฏในฟ้องแสดงเพียงว่าจำเลยรับจะทำอะไรแล้วไม่ทำตามรับเท่านั้นการไม่ทำตามรับดังที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง แม้ในฟ้องจะมีคำว่าจำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ แต่เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดจะพบว่าไม่มีการหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการมีทนาย – การพิจารณาคดีอาญาที่ถูกต้อง – การพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฟ้องจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ,78 ฯลฯ อัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามเรื่องทนาย พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 ศาลต้องพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อนาของผู้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าขายโดยไม่แจ้งตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 41วรรคแรก ผู้ให้เช่านาจะขายนาที่ให้เช่าได้ต่อเมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้เช่านาแปลงนั้นทราบพร้อมทั้งราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงิน และถ้าผู้เช่านาแสดงความจำนงจะซื้อนาแปลงนั้นใน 30 วันนับแต่วันที่แจ้งผู้ให้เช่านาจะต้องขายนาแปลงดังกล่าวให้ผู้เช่านาในราคาและตามวิธีการที่ได้แจ้งไว้ ที่กฎหมายให้แจ้งเป็นหนังสือก็เพื่อให้เป็นหลักฐานไม่ประสงค์จะให้กล่าวอ้างกันลอยๆเพื่อคุ้มครองผู้เช่านา เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ให้เช่าได้ขายนาที่ให้เช่าให้จำเลยทั้งสอง โดยไม่มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบก่อนเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา41 วรรคหนึ่ง ย่อมมีผลตามมาตรา 41 วรรคสี่ ให้โจทก์ผู้เช่านามีสิทธิซื้อนาจากจำเลยผู้ซื้อในราคาและตามวิธีการชำระเงินที่ผู้ให้เช่านาได้ขายให้แก่จำเลย