คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1337

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 210 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ชายตลิ่งริมน้ำเป็นสาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิขับไล่จำเลย
ที่ชายตลิ่งเป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน. เมื่อไม่อยู่หน้าที่ดินโจทก์. แม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินมาก่อนจำเลย. โจทก์ก็ไม่มีสิทธิขอให้ขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะเข้ายึดถือเพื่อตน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนทรัพย์สินของผู้อื่นในที่พิพาท แม้ยังไม่ชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ ถือเป็นทำให้เสียทรัพย์
ผู้เสียหายและจำเลยมีที่ดินติดต่อกัน ที่พิพาทอยู่ระหว่างที่สองแปลงนี้ แต่หลักหมุดเขตสูญหายไปหมด ทั้งสองฝ่ายต่างโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าที่พิพาทเป็นของใคร เพียงแต่รับว่าเสารั้วลวดหนามเป็นของผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ปลูกต้นกกไว้ด้วย เมื่อจำเลยรื้อลวดหนาม ขุดทำลายโคกปลูกมะพร้าว ทั้งได้ถอนต้นกกในที่พิพาทออกทั้งหมด การกระทำของจำเลยเป็นการทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 จำเลยจะอ้างว่าตนมีสิทธิทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336, 1337 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนรั้วและพืชผลในที่ดินพิพาท ถือเป็นการทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา แม้ยังพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์
ผู้เสียหายและจำเลยมีที่ดินติดต่อกัน ที่พิพาทอยู่ระหว่างที่สองแปลงนี้ แต่หลักหมุดเขตสูญหายไปหมด ทั้งสองฝ่ายต่างโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าที่พิพาทเป็นของใคร เพียงแต่รับว่าเสารั้วลวดหนามเป็นของผู้เสียหายผู้เสียหายได้ปลูกต้นกกไว้ด้วย เมื่อจำเลยรื้อลวดหนาม ขุดทำลายโคกปลูกมะพร้าว ทั้งได้ถอนต้นกกในที่พิพาทออกทั้งหมด การกระทำของจำเลยเป็นการทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 จำเลยจะอ้างว่าตนมีสิทธิทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336, 1337 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินและสิทธิของเจ้าของที่ดินติดกัน แม้ไม่มีทางสาธารณะ ก็มีหน้าที่จัดการบำบัด
ทางเดินในที่ดินของเอกชนซึ่งมีผู้ถือวิสาสะให้เป็นทางเดินเพื่อความสะดวกบางประการนั้นเมื่อเจ้าของมิได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายอย่างใดแล้ว ก็หาทำให้ทางเดินนั้นกลายสภาพเป็นทางสาธารณะไม่
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้น เมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินโดยต้นไม้: จำเลยมีหน้าที่จัดการบำบัดหากไม่มีทางสาธารณะคั่น
ทางเดินในที่ดินของเอกชนซึ่งมีผู้ถือวิสาสะใช้เป็นทางเดินเพื่อความสะดวกบางประการนั้นเมื่อเจ้าของมิได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายอย่างใดแล้ว ก็หาทำให้ทางเดินนั้นกลายสภาพเป็นทางสาธารณะไม่
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้นเมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์ที่สาธารณะและการรอนสิทธิของเจ้าของที่ดินริมน้ำ การปลูกสร้างกีดขวางเป็นเหตุให้เจ้าของที่ดินมีสิทธิฟ้องร้อง
ที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนแพอยู่อาศัยเป็นที่สาธารณประโยชน์เรือนแพของจำเลยอยู่ตรงหน้าที่ดินของโจทก์และใกล้ที่ดินของโจทก์ เห็นได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการที่จำเลยใช้ที่สาธารณประโยชน์ตรงหน้าที่ดินของโจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิปลูกสร้างกีดขวางการใช้ที่สาธารณประโยชน์หน้าที่ดินของโจทก์ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
โจทก์จำเลยจะทำสัญญาเช่าสาธารณสมบัติของแผ่นดินมิได้ แต่โจทก์อาจจะยินยอมให้จำเลยทำการกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ได้ และจะตกลงให้สินจ้างแลกเปลี่ยนในการที่โจทก์ยอมสละความสะดวกของตนก็ได้ แต่มิใช่เป็นการเช่า แม้จำเลยจะเคยเช่าที่ดินตรงที่ปลูกเรือนพิพาท เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและไม่ยินยอมให้เรือนพิพาทกีดขวางหน้าที่ดินต่อไปจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ไม่ได้ จำเลยต้องรื้อเรือนพิพาทออกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะประโยชน์ การกีดขวางการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้อื่น และสิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
ที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนแพอยู่อาศัยเป็นที่สาธารณประโยชน์ เรือนแพของจำเลยอยู่ตรงหน้าที่ดินของโจทก์และใกล้ที่ดินของโจทก์ เห็นได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการที่จำเลยใช้ที่สาธารณะประโยชน์ตรงหน้าที่ดินของโจทก์จำเลยไม่มีสิทธิปลูกสร้างกีดขวางการใช้ที่สาธารณประโยชน์หน้าที่ดินของโจทก์ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
โจทก์จำเลยจะทำสัญญาเช่าสาธารณสมบัติของแผ่นดินมิได้ แต่โจทก์อาจจะยินยอมให้จำเลยทำการกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ได้ และจะตกลงให้สินจ้างแลกเปลี่ยนในการที่โจทก์ยอมสละความสะดวกของตนก็ได้ แต่มิใช่เป็นการเช่า แม้จำเลยจะเคยเช่าที่ดินตรงที่ปลูกเรือนพิพาท เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและไม่ยินยอมให้เรือนพิพาทกีดขวางหน้าที่ดินต่อไป จำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯไม่ได้ จำเลยต้องรื้อเรือนพิพาทออกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702-703/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินเหนือที่สาธารณะ: การรุกล้ำทำให้เดือดร้อนและเสียหายพิเศษ
จำเลยปลูกสร้างโรงเรือนและขุดคูบนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินกั้นหน้าที่ดินของโจทก์ ทำให้โจทก์ขาดความสะดวกในการไปมาและใช้ทรัพย์ เช่นนี้ถือได้ว่า โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนที่ปิดกั้นนั้นไปและไม่ให้เข้าเกี่ยวข้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน, การขุดดินโดยไม่บอกกล่าว, และเจตนาในการรบกวนการครอบครอง
(1) ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์นั้น มิใช่ความผิดต่อเนื่องอายุความจึงต้องเริ่มนับแต่วันกระทำผิด (2) ความผิดที่ยอมความกันได้ (ความผิดต่อส่วนตัว) แม้จะอยู่ในบังคับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ก็ดี แต่มาตรา 96 ได้บัญญัติอายุความให้สั้นกว่าอายุความในความผิดสามัญทั่วไป (3) ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1351 ไม่ได้หมายความว่าขุดที่ดินของเขาให้เสียหายได้ อนึ่ง แม้กฎหมายจะให้อำนาจไว้ตามมาตรา 1351 นี้ก็ดี แต่อำนาจนี้จะมีขึ้นก็ต่อเมื่อบอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควร (4) การไม่ได้บอกกล่าวและเข้าไปขุดดิน ตอกเสา ฯลฯในที่ดินของผู้อื่นโดยพลการ เป็นการกระทำโดยเจตนาแล้ว แม้จะต้องการแต่ประโยชน์ไม่คำนึงว่าใครจะเสียหาย ถ้าการนั้นเป็นการรบกวนการครอบครอง ก็ผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 ไม่ต้องมีเจตนาพิเศษอย่างใดอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินริมตลิ่ง vs. การกีดขวางการใช้ประโยชน์ที่ชายตลิ่งสาธารณะ
ที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น ผู้ใดจะอยู่มาช้านานเท่าใดก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ แต่ถ้าหากบุคคลอื่นเข้ามากั้นรั้วปลูกเรือนแพและสิ่งอื่นๆกีดขวางหน้าที่ดินของเจ้าของที่ดินที่ติดกับที่ชายตลิ่งเต็มหมด จนไม่สามารถใช้สอยชายตลิ่งเข้าออกสู่ลำแม่น้ำได้แล้ว ย่อมถือว่าเจ้าของที่ดินนั้นได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
of 21