พบผลลัพธ์ทั้งหมด 210 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งที่ดินริมตลิ่ง: ศาลชี้ขาดตามข้อตกลง หากวิธีแบ่งเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของ จำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้ และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้ว ก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดแบ่งที่ดินริมตลิ่งโดยไม่สืบพยาน ศาลชี้ขาดตามวิธีที่เสนอได้และเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของจำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้วก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้สิทธิในที่ดิน: การพิสูจน์ความเสียหายจากการถูกบังสายตาและการใช้ประโยชน์
ระหว่างที่ดินโจทก์และโรงเรือนจำเลยมีทางเดินและโรงเรือนผู้อื่นคั่นอยู่โจทก์จะฟ้องว่าโรงเรือนจำเลยบังที่ดินโจทก์โดยไม่ปรากฎว่าโจทก์เสียหายเป็นพิเศษอย่างใดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่พิพาทเพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ย่อมไม่มีทางที่จะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับสิทธิในที่ดิน: การพิสูจน์ความเสียหายจากการถูกบังสายตาและการเลือกฟ้อง
ระหว่างที่ดินโจทก์และโรงเรือนจำเลยมีทางเดินและโรงเรือนผู้อื่นคั่นอยู่โจทก์จะฟ้องว่าโรงเรือนจำเลยบังที่ดินโจทก์โดยไม่ปรากฏว่า โจทก์เสียหายเป็นพิเศษอย่างใดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่พิพาทเพราะการกระทำของจำเลยโจทก์ย่อมไม่มีทางที่จะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588-1589/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ชายเลนเป็นสาธารณสมบัติ แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดสิทธิ แต่หากมีสิ่งปลูกสร้างขัดขวางเจ้าของที่ดินติดต่อกัน ย่อมมีสิทธิเรียกร้อง
ที่พิพาทเป็นที่ชายเลนเพิ่งดอนเวลาน้ำขึ้นยังท่วมถึง จึงเป็นที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้ผู้ใดจะครอบครองนานสักเท่าใดก็หาได้กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองไม่ แต่ถ้าหากบุคคลอื่นเข้ามาปลูกสร้างทำการใดๆ เป็นการขัดขวางต่อเจ้าของที่ดินที่ติดต่อกับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ย่อมถือว่าเจ้าของที่ดินนั้นเป็นผู้เสียหายพิเศษ และเป็นโจทก์ฟ้องเรียกร้องให้ผู้ที่ขัดขวางสิทธิของตนระงับการขัดขวางหรือชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองที่ดิน: การสิ้นสุดสิทธิเมื่อสัญญาเช่าระงับ แม้ไม่ได้เป็นคู่สัญญา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งอยู่ตอนหน้าที่ดินโฉนดของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญาเช่า แล้วขัดขืน ไม่ยอมทำสัญญาใหม่ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะก็ตาม เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทอยู่หน้าที่ ดินของโจทก์จริงและการที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาทก็โดยภริยาจำเลยขอเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยก็รู้เห็นด้วย แต่มิได้เป็นคู่สัญญาเพราะโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นคนตาบอด ทำสัญญาเช่าแล้วภริยาจำเลยก็ปลุกเรือนขึ้น จำเลย ก็มาอยู่ด้วยดังนี้ เมื่อภริยาจำเลยผู้เช่าถูกโจทก์ฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ต่อไปได้ เมื่อ จำเลยขัดขืนโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองที่ดินโดยไม่เป็นคู่สัญญาเช่า: การฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินซึ่งอยู่ตอนหน้าที่ดินโฉนดของโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญาเช่า แล้วขัดขืนไม่ยอมทำสัญญาใหม่ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะก็ตาม เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทอยู่หน้าที่ดินของโจทก์จริง และการที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาทก็โดยภริยาจำเลยขอเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยก็รู้เห็นด้วยแต่มิได้เป็นคู่สัญญาเพราะโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นคนตาบอด ทำสัญญาเช่าแล้วภริยาจำเลยก็ปลูกเรือนขึ้น จำเลยก็มาอยู่ด้วยดังนี้ เมื่อภริยาจำเลยผู้เช่าถูกโจทก์ฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ต่อไปได้ เมื่อจำเลยขัดขืนโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าของที่ดินเมื่อมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางเข้าออก แม้ที่ดินยกให้เป็นถนนหลวงแล้ว
ปลูกสร้างโรงเรือนบนถนนหลวงปิดกั้นหน้าที่ดินและบ้านเรือนโรงตลาดของผู้อื่น ทำให้เขาขัดข้องไม่สะดวกแก่การไปมาค้าขาย ขาดผลประโยชน์ที่เคยได้ดังนี้ เขาย่อมมีสิทธิฟ้องให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ปิดกั้นนั้นไปและเรียกค่าเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ประโยชน์ที่สาธารณะสมบัติ: การรบกวนสิทธิผู้ใช้ประโยชน์ก่อน
ที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น ผู้ใดหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองแต่ประการใด ไม่
แต่เมื่อมีผู้ไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่สาธารณะสมบัติดังกล่าวแล้วมีผู้อื่นไปรื้อเสียแล้วปลูกโรงของตนขึ้นแทนบ้างเช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นการรบกวนสิทธิของผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกในอันที่จะใช้ที่สาธารณะสมบัตินั้น และถือว่าผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงย่อมมีสิทธิฟ้องให้ผู้ปลูกโรงเรือนทีหลัง รื้อโรงเรือนที่ปลูกนั้นไปให้พ้นที่นั้นได้
แต่เมื่อมีผู้ไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่สาธารณะสมบัติดังกล่าวแล้วมีผู้อื่นไปรื้อเสียแล้วปลูกโรงของตนขึ้นแทนบ้างเช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นการรบกวนสิทธิของผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกในอันที่จะใช้ที่สาธารณะสมบัตินั้น และถือว่าผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงย่อมมีสิทธิฟ้องให้ผู้ปลูกโรงเรือนทีหลัง รื้อโรงเรือนที่ปลูกนั้นไปให้พ้นที่นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ที่สาธารณะสมบัติ - การรบกวนสิทธิ - ความเสียหายเป็นพิเศษ
ที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น ผู้ใดหามีกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองแต่การใด ไม่.
แต่เมื่อมีผู้ไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่สาธารณะสมบัติดังกล่าวแล้ว มีผู้อื่นไปรื้อเสียแล้วปลูกโรงของคนขึ้นแทนบ้าง เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นการรบกวนสิทธิของผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกในอันที่จะใช้ที่สาธารณะสมบัตินั้น และถือว่า ผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงย่อมมีสิทธิฟ้องให้ผู้ปลูกโรงเรือนทีหลัง รื้อโรงเรือนที่ปลูกนั้นไปให้พ้นที่นั้นได้
ประชุมใหญ่
แต่เมื่อมีผู้ไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่สาธารณะสมบัติดังกล่าวแล้ว มีผู้อื่นไปรื้อเสียแล้วปลูกโรงของคนขึ้นแทนบ้าง เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นการรบกวนสิทธิของผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกในอันที่จะใช้ที่สาธารณะสมบัตินั้น และถือว่า ผู้ปลูกโรงเรือนคนแรกได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงย่อมมีสิทธิฟ้องให้ผู้ปลูกโรงเรือนทีหลัง รื้อโรงเรือนที่ปลูกนั้นไปให้พ้นที่นั้นได้
ประชุมใหญ่