พบผลลัพธ์ทั้งหมด 210 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิเจ้าของที่ดินจากการกีดขวางการใช้ถนนส่วนกลาง และการก่อสร้างปิดกั้นแสงลม
ถนนทุกสายในหมู่บ้านรวมทั้งถนนซอย ที่จำเลยสร้างประตูเหล็กปิดกั้นเป็นถนนที่เจ้าของที่ดินผู้จัดสรรสร้างไว้เพื่อเป็นที่สาธารณูปโภคแก่เจ้าของที่ดินและบ้านในหมู่บ้านทุกแปลง โจทก์เคยใช้ถนนซอย ดังกล่าวเป็นที่กลับรถยนต์มาก่อนที่จำเลยจะสร้างประตูเหล็กปิดกั้น เมื่อถนนซอย นี้ติดกับด้านข้างที่ดินของโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิใช้ในการกลับรถยนต์ได้ ถนนซอย ดังกล่าวจึงมิใช่มีไว้เพียงเพื่อเป็นทางเข้าออกบ้านของจำเลยเท่านั้น การที่จำเลยทำประตูเหล็กปิดกั้นจึงทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้กลับรถยนต์ได้ แม้ประตูเหล็กไม่ได้ใส่กุญแจโจทก์สามารถที่จะเปิดประตูกลับรถยนต์ได้ แต่การกระทำดังกล่าวไม่เป็นการสะดวก การที่จำเลยทำประตูเหล็กปิดกั้นถนนซอยจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่สะดวกในการใช้ประโยชน์ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรื้อประตูเหล็กออกไปได้ แม้ลักษณะของอาคารที่จำเลยสร้างจะเป็นการสร้างหลังคาคลุมถนนซอย มีความสูงเหนือกำแพงรั้วด้านข้างของบ้านโจทก์ก็ตาม แต่เป็นการสร้างติดกับรั้วบ้านโจทก์ หลังคาของอาคารเกือบจะติดกับหลังคาบ้านโจทก์ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแม้จะมีช่องว่างระหว่างรั้วบ้านโจทก์กับหลังคาอาคารเพื่อให้แสงสว่างและลมผ่านไปได้ แต่แสงสว่างและลมก็ไม่สามารถผ่านไปได้ตามปกติเหมือนอย่างเช่นที่ไม่มีหลังคาอาคาร การที่จำเลยสร้างอาคารคลุมถนนซอย สาธารณะโดยไม่มีสิทธิที่จะทำได้ ปิดบังทางของแสงสว่างและลมที่จะเข้าไปในบ้านของโจทก์ได้ตามปกติย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียงได้รับความเสียหายหรืออย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเกินกว่าที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นได้ตามปกติ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้ออาคารออกไปจากถนนซอย สาธารณะได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3424/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ที่สาธารณสมบัติชายตลิ่ง - การรุกล้ำที่ดิน - ความเสียหายที่ควรคาดหมาย
การที่เรือนโรงของจำเลยปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งอยู่ระหว่างหน้าที่ดินโจทก์กับคลอง มิได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์ ทั้งมีมาก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดินนั้นมา แม้โจทก์จะมีอาชีพทำประมง แต่ก็ปรากฏว่าโจทก์ก็ยังสามารถนำเรือประมงเข้าออกที่ดินของโจทก์ได้พฤติการณ์ดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2455/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้ออาคารตามคำพิพากษาศาลฎีกา: การพิจารณาความสูงที่แท้จริงและการไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเกินควร
คำพิพากษาศาลฎีกาสั่งให้จำเลยรื้ออาคารเหลือความสูง 8 เมตรโดยไม่ได้ระบุชัดแจ้งว่าวัดจากจุดไหนถึงจุดไหน จำเลยได้รื้ออาคารออกไปแล้ว 2 ชั้น เหลือพื้นชั้นที่ 3 เป็นหลังคา ถ้าวัดส่วนสูงสุดของอาคารถึงพื้นที่ทำการจะสูง 8.59 เมตร แต่ถ้าวัดถึงพื้นโดยรอบอาคารจะสูง 7.90 เมตร หากจะให้จำเลยรื้อออกอีก 1 ชั้น ก็จะทำให้อาคารของจำเลยมีความสูงต่ำกว่า 8 เมตรมาก ทั้งจะเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยมากเกินควร สำหรับห้องคลุมบันไดนั้นห่างจากผนังตึกที่ติดกับอาคารของโจทก์ 4 เมตร และผนังตึกของอาคารพิพาทห่างจากชายคาบ้านโจทก์ถึง 3 เมตร รวมแล้วห่างจากชายคาบ้านโจทก์ 7 เมตร ไม่มีผลที่จะบังลมหรือแสงอาทิตย์ที่จะเข้าบ้านโจทก์ได้ จำเลยจึงไม่ได้กระทำการฝ่าฝืนคำพิพากษาศาลฎีกาแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4008/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างรุกล้ำที่ดิน neighbors ละเมิดสิทธิ ได้รับอนุญาตมิชอบ คดีไม่ขาดอายุความ
การที่จำเลยได้ทำการก่อสร้างเพิ่มเติมโรงภาพยนตร์แล้วมายื่นขออนุญาตต่อกรมโยธาธิการในภายหลัง แม้จะได้รับอนุญาตก็เป็นการอนุญาตที่มิชอบ เมื่อจำเลยร่วมกันกระทำละเมิดโดยใช้สิทธิในทางแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จนโจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เสียสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจติดต่อกันนับแต่ก่อสร้างเพิ่มเติมเสร็จตลอดมาจนปัจจุบัน คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ โจทก์ทั้งสองมีสิทธิที่จะกำจัดความเดือดร้อนรำคาญให้สิ้นไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 446.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4008/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างรุกล้ำที่ดินละเมิดสิทธิ, อายุความ, การรื้อถอนและค่าเสียหาย
การที่จำเลยได้ทำการก่อสร้างเพิ่มเติมโรงภาพยนตร์แล้วมายื่นขออนุญาตต่อกรมโยธาธิการในภายหลัง แม้จะได้รับอนุญาตก็เป็นการอนุญาตที่มิชอบ เมื่อจำเลยร่วมกันกระทำละเมิดโดยใช้สิทธิในทางแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จนโจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เสียสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจติดต่อกันนับแต่ก่อสร้างเพิ่มเติมเสร็จตลอดมาจนปัจจุบัน คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ โจทก์ทั้งสองมีสิทธิที่จะกำจัดความเดือดร้อนรำคาญให้สิ้นไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 446
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีรอนสิทธิ – การใช้ประโยชน์จากคลองสาธารณะ – ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นพิเศษ
จำเลยจอดเรืออยู่ในคลองห่างจากเขตที่ดินโจทก์ 18 เมตรเศษและจำเลยจอดเรือมาก่อนโจทก์เป็นเจ้าของบ้านที่ปลูกอยู่ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์ใช้คลองได้สะดวกเพราะมีสะพานท่าเทียบเรือสาธารณะติดกับหน้าที่ดินโจทก์ จำเลยหาได้จอดเรือปิดบังหน้าที่ดินโจทก์ อันเป็นการใช้สิทธิของตนจนเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เสียหายเป็นพิเศษไม่ ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1305/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในพระเครื่องที่บรรจุในเจดีย์: สิทธิของเจ้าของเดิม vs. การครอบครองของวัด
จำเลยและ ย. บรรจุพระเครื่องพิพาทไว้ในเจดีย์บรรจุกระดูกของบรรพบุรุษซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพระอุโบสถวัดโจทก์ เพื่อให้ลูกหลานเซ่นไหว้เมื่อย.ตายจำเลยก็ยังไปเคารพกราบไหว้ตามประเพณีขาวจีนตลอดมาไม่เคยสละละทิ้งดังนี้ พระเครื่องพิพาทซึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์ดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย โจทก์เจาะเจดีย์เอาพระเครื่องพิพาทไป จำเลยติดตามเอาคืนจากโจทก์ได้ ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2531).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1305/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่บรรจุในเจดีย์: สิทธิของเจ้าของเดิมยังคงอยู่ แม้ตั้งอยู่ในพื้นที่วัด
จำเลยและ ย. บรรจุพระเครื่องพิพาทไว้ในเจดีย์บรรจุกระดูกของบรรพบุรุษซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพระอุโบสถวัดโจทก์ เพื่อให้ลูกหลานเซ่นไหว้ เมื่อ ย. ตาย จำเลยก็ยังไปเคารพกราบไหว้ตามประเพณีขาวจีนตลอดมาไม่เคยสละละทิ้งดังนี้ พระเครื่องพิพาทซึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์ดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย โจทก์เจาะเจดีย์เอาพระเครื่องพิพาทไป จำเลยติดตามเอาคืนจากโจทก์ได้ ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2531)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2531)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกปาดทางสาธารณะและการละเมิดสิทธิการเข้าออกที่ดิน แม้มีทางอื่น
คดีก่อนจำเลยถูกพนักงานอัยการศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องข้อหาบุกรุกทางสาธารณะ ศาลแขวงมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้ ยกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าที่พิพาทอยู่นอกเขตทางสาธารณะและเป็นที่ดินของจำเลย แต่โจทก์ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนด้วย ดังนั้นจะถือเอาคำเบิกความของพยานและข้อเท็จจริงที่ศาลแขวงวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย มารับฟังในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากทางสาธารณประโยชน์เป็นคดีนี้หาได้ไม่
การที่จำเลยปลูกสร้างโรงเรือนบนทางสาธารณประโยชน์ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินโจทก์ แม้โจทก์จะมีทางเข้าออกทางอื่นได้แต่เมื่อได้ความว่าไม่สะดวกการกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์.
การที่จำเลยปลูกสร้างโรงเรือนบนทางสาธารณประโยชน์ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินโจทก์ แม้โจทก์จะมีทางเข้าออกทางอื่นได้แต่เมื่อได้ความว่าไม่สะดวกการกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำทางสาธารณะและการละเมิดสิทธิในที่ดิน แม้มีทางเข้าออกอื่นแต่ไม่สะดวก ศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย
คดีก่อนจำเลยถูกพนักงานอัยการศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องข้อหาบุกรุกทางสาธารณะ ศาลแขวงมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด ให้ยกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า ที่พิพาทอยู่นอกเขตทางสาธารณะและเป็นที่ดินของจำเลย แต่โจทก์ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนด้วย ดังนั้นจะถือเอาคำเบิกความของพยานและข้อเท็จจริงที่ศาลแขวงวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย มารับฟังในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากทางสาธารณประโยชน์เป็นคดีนี้หาได้ไม่ การที่จำเลยปลูกสร้างโรงเรือนบนทางสาธารณประโยชน์ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินโจทก์ แม้โจทก์จะมีทางเข้าออกทางอื่นได้แต่เมื่อได้ความว่าไม่สะดวก การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์