คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อนุวัตร บุนนาค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 54 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษทางอาญา: ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะกำหนดโทษจาก 3 ปี เป็น 1 ปี 6 เดือน เป็นการแก้ไขเล็กน้อย
การโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ประเด็นใหม่ที่มิได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตาม ป.ว.พ. มาตรา 225
โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแต่มิได้ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับจำเลยตามฟ้อง ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ไม่มีอำนาจมอบให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแทน การบอกกล่าวบังคับจำนองจึงไม่มีผลนั้น เป็นการอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามป.ว.พ. ม. 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331-332/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับโอนสิทธิเช่าที่ยังมิได้เข้าครอบครองทรัพย์สิน ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ และการพ้นวิสัยของสัญญาเช่า
ผู้รับโอนสิทธิการเช่าโดยที่ยังไม่เคยเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่านั้น ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่อยู่ในทรัพย์สินที่เช่า (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 916/2503)
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นอ้างศาลก็ยกขึ้นเองได้
จำเลยที่ 1 ให้โจทก์เช่าช่วงตึกแถวพิพาทโดยมีข้อสัญญาระหว่างกันว่า ถ้าจำเลยจะขายตัวทรัพย์ที่เช่าจะต้องแจ้งให้โจทก์ทราบก่อนข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่หมายความถึงการโอนสิทธิการเช่าด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าและสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็เป็นสัญญาเช่าตึกแถวมิใช่เช่าสิทธิ จึงเป็นการพ้นวิสัยไม่มีผลบังคับได้ การที่จำเลยที่ 1 โอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นจึงกระทำได้โดยชอบ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้เพิกถอนการโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย และการพิจารณาเหตุแห่งการกระทำ
จำเลยใช้ดุ้นฟืนยาว 1 ศอก ตีศีรษะผู้ตาย 2 ทีจนกะโหลกศีรษะผู้ตายแตกยุบถึงมันสมอง เป็นการตีโดยแรงที่อวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายทันที ดังนี้จำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญในคดี จึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
โจทก์ประกันภัยทรัพย์สินไว้แก่บริษัท อ. โดยกำหนดความรับผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย เช่นนี้เมื่อโจทก์ฟ้องบริษัท อ.ให้รับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว แม้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อ. จะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญในคดีจึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
โจทก์ประกันภัยทรัพย์สินไว้แก่บริษัท อ. โดยกำหนดความรับผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย เช่นนี้เมื่อโจทก์ฟ้องบริษัท อ. ให้รับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวแม้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อ. จะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4065/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีโกงเจ้าหนี้ต้องบรรยายองค์ประกอบความผิดครบถ้วน โดยเฉพาะการรู้ว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิทางศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า จำเลยได้โอนขายที่ดินตามโฉนดฉบับที่จำเลยนำไปมอบให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ โดยรู้อยู่ว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของตนได้ใช้สิทธิหรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้จำเลยชำระหนี้ อันเป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4065/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานโกงเจ้าหนี้ต้องระบุชัดเจนว่าจำเลยรู้วันที่เจ้าหนี้ใช้สิทธิทางศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า จำเลยได้โอนขายที่ดินตามโฉนดฉบับที่จำเลยนำไปมอบให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ โดยรู้อยู่ว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของตนได้ใช้สิทธิหรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้จำเลยชำระหนี้ อันเป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3979/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิพากษาคดีแพ่งต้องยึดข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์และถูกโจทก์ฟ้องคดีอาญาจนศาลพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุด แต่จำเลยก็ไม่รื้อบ้านออกไปจากที่พิพาท กลับเข้าไปอยู่อีกจึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาโดยตรง ซึ่งการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดหลังได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยต่อ ไม่เป็นลาภมิควรได้
จำเลยฟ้องโจทก์ผู้ทำละเมิดเรียกค่าเสียหายในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัย เงินที่จำเลยได้รับจากโจทก์ผู้ทำละเมิด คืนให้ผู้รับประกันภัยต่อแล้ว เป็นการชำระหนี้ที่มีมูลอันชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นลาภมิควรได้
of 6