พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องเป็นหนี้ชนิดเดียวกันและมีคู่กรณีร่วมกัน การฟ้องหย่าไม่ใช่หนี้เงิน จึงไม่อาจหักกลบลบหนี้กับค่าอุปการะเลี้ยงดูได้
จำเลยร้องขอให้ศาลงดการบังคับคดีไว้อ้างว่าเป็นกรณีที่สามารถหักกลบลบหนี้กับคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 อีกคดีหนึ่งได้ ปรากฏว่าคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 นั้นเป็นการฟ้องหย่าและในคำร้องของจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ที่ 1 ชำระหนี้เป็นเงินให้แก่จำเลยด้วย แต่หนี้ที่ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระในคดีนี้เป็นหนี้เงิน ดังนั้นคดีทั้งสองนี้ จึงมิได้เป็นวัตถุแห่งหนี้เป็นหนี้อย่างเดียวกัน นอกจากนั้นคดีนี้ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสาม คนละจำนวนแยกต่างหากจากกัน แต่ในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 นั้น จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 เพียงผู้เดียวมิได้ฟ้องโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ด้วยถึงหากศาลจะพิพากษาให้จำเลยชนะคดีในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 ก็ไม่อาจนำหนี้ไปหักกลบลบหนี้กับหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้ของโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ได้ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ในอันที่จำเลยจะขอให้งดการบังคับคดีไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2320/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์ทำร้าย: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิมว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
จำเลยเพิ่งรู้จักหญิงผู้เสียหายได้ 1 วัน วันรุ่งขึ้นก็ชวนผู้เสียหายไปที่ห้องทำงานของจำเลย แล้วใช้เน็คไทรัดคอ ชกต่อย ใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้เสียหายที่ใกล้ลิ้นปี่ลึกถึงเยื่อหุ้มหัวใจ ดังนี้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2295/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิในสัญญาเช่า: การยินยอมให้ใช้เช็คแทนหนังสือค้ำประกัน ถือเป็นการสละผลบังคับตามสัญญา
ในสัญญาเช่ามีข้อสัญญาว่าผู้เช่าต้องให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกันความเสียหายในทรัพย์สินที่เช่าให้ไว้แก่ผู้ให้เช่า แต่ผู้ให้เช่ามิได้ถือว่าหน้าที่จัดให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกันเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อผู้เช่าสั่งจ่ายเช็คให้ผู้ให้เช่ายึดถือไว้แทนหนังสือค้ำประกันของธนาคารผู้ให้เช่าก็ยินยอม กรณีจึงถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้สละ ผลบังคับตามสัญญาเช่าข้อดังกล่าวเสียแล้ว ผู้เช่าย่อมไม่ตกเป็นผู้ผิดสัญญาเช่าเพราะมิได้จัดให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกัน ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า และฟ้องขับไล่ผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2295/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่า: การยินยอมให้ใช้เช็คแทนหนังสือค้ำประกัน ถือเป็นการสละสิทธิ
ในสัญญาเช่ามีข้อสัญญาว่าผู้เช่าต้องให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกันความเสียหายในทรัพย์สินที่เช่าให้ไว้แก่ผู้ให้เช่า แต่ผู้ให้เช่ามิได้ถือว่าหน้าที่จัดให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกันเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อผู้เช่าสั่งจ่ายเช็คให้ผู้ให้เช่ายึดถือไว้แทนหนังสือค้ำประกันของธนาคาร ผู้ให้เช่าก็ยินยอม กรณีจึงถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้สละผลบังคับตามสัญญาเช่าข้อดังกล่าวเสียแล้ว ผู้เช่าย่อมไม่ตกเป็นผู้ผิดสัญญาเช่าเพราะมิได้จัดให้ธนาคารทำหนังสือค้ำประกัน ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าและฟ้องขับไล่ผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงานของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์และการแจ้งความเท็จ
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้รับการแต่งตั้งโดยอำนาจของกฎหมายให้ปฏิบัติราชการของกรมแรงงานตามที่กฎหมายกำหนดอำนาจและหน้าที่ไว้ทั้งฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานของคณะกรรมการดังกล่าวมิฉะนั้นมีความผิดและมีโทษทางอาญาคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงานของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์: อำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทและการบังคับตามกฎหมาย
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้รับการแต่งตั้งโดยอำนาจของกฎหมาย ให้ปฏิบัติราชการของกรมแรงงานตามที่กฎหมายกำหนดอำนาจและหน้าที่ไว้ ทั้งฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานของคณะกรรมการดังกล่าวมิฉะนั้นมีความผิดและมีโทษทางอาญา คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อบกพร่องคำฟ้องอุทธรณ์และการพิจารณาคดีโดยศาลอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้อุทธรณ์มิได้ลงชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องอุทธรณ์หรือสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ล่วงเลยเวลาที่จะปฏิบัติแล้ว เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อบกพร่องคำฟ้องอุทธรณ์และการพิจารณาคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้อุทธรณ์มิได้ลงชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องอุทธรณ์หรือสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ล่วงเลยเวลาที่จะปฏิบัติแล้ว เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2288/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเลี้ยวขวาเมื่อมีสัญญาณไฟจราจรลูกศรสีเขียว และข้อยกเว้นการใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับทางร่วมทางแยก
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 51 (2) (จ) ที่บัญญัติว่าเมื่อรถอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถทางเดียวกันผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เลี้ยวขวาไปได้ เป็นบทที่ใช้บังคับแก่ผู้ขับขี่ในทางเดินรถที่ไม่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร หากในทางเดินรถใดมีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรบังคับไว้โดยเฉพาะ ผู้ขับขี่ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาณและเครื่องหมายจราจรนั้นตามมาตรา 21, 22
การที่จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์เลี้ยวขวาที่บริเวณสี่แยก ในขณะที่มีสัญญาณไฟจราจรลูกศรสีเขียวชี้ให้เลี้ยวขวานั้น จำเลยที่ 2 ซึ่งขับขี่รถมาในทางตรงและมีสัญญาณไฟจราจรสีแดงมีหน้าที่จะต้องหยุดรถอยู่หลังเส้นให้รถหยุดตามมาตรา 22 (2) จะนำมาตรา 51 (2) (จ) มาใช้บังคับในทางเดินรถที่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรหาได้ไม่ เมื่อรถที่จำเลยที่ 2 ขับมาชนรถที่จำเลยที่ 1 ขับขณะเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงมิได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยประมาท
การที่จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์เลี้ยวขวาที่บริเวณสี่แยก ในขณะที่มีสัญญาณไฟจราจรลูกศรสีเขียวชี้ให้เลี้ยวขวานั้น จำเลยที่ 2 ซึ่งขับขี่รถมาในทางตรงและมีสัญญาณไฟจราจรสีแดงมีหน้าที่จะต้องหยุดรถอยู่หลังเส้นให้รถหยุดตามมาตรา 22 (2) จะนำมาตรา 51 (2) (จ) มาใช้บังคับในทางเดินรถที่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรหาได้ไม่ เมื่อรถที่จำเลยที่ 2 ขับมาชนรถที่จำเลยที่ 1 ขับขณะเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงมิได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2288/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางร่วมแยกที่มีสัญญาณไฟจราจร ต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟ มิอาจอ้างอิงบทบัญญัติทั่วไป
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 51(2)(จ) ที่บัญญัติว่าเมื่อรถอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถทางเดียวกันผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เลี้ยวขวาไปได้ เป็นบทที่ใช้บังคับแก่ผู้ขับขี่ในทางเดินรถที่ไม่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร หากในทางเดินรถใด มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรบังคับไว้โดยเฉพาะผู้ขับขี่ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาและเครื่องหมายจราจรนั้นตามมาตรา 21, 22 การที่จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์เลี้ยวขวาที่บริเวณสี่แยกในขณะที่มีสัญญาณไฟจราจรลูกศรสีเขียวชี้ให้เลี้ยวขวานั้น จำเลยที่ 2 ซึ่งขับขี่รถมาในทางตรงและมีสัญญาณไฟจราจรสีแดงมีหน้าที่จะต้องหยุดรถอยู่หลังเส้นให้รถหยุดตามมาตรา 22(2) จะนำมาตรา 51(2)(จ) มาใช้บังคับในทางเดินรถที่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรหาได้ไม่ เมื่อรถที่จำเลยที่ 2 ขับมาชนรถที่จำเลยที่ 1 ขับขณะเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงมิได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยประมาท