คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา พานิชวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการโอนกรรมสิทธิ์: ผลของการยกเลิกการขายทอดตลาดต่อผู้ซื้อและผู้รับโอนสิทธิ
จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ได้นำ เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของ ส. ซึ่งได้นำมาประกันหนี้ ของจำเลยต่อศาลตามที่ได้อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ และ ได้นำออกขายทอดตลาด ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินได้ต่อมา ส. ยื่นคำร้องว่าการขายทอดตลาดของ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลมีคำสั่ง ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้น ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องพร้อมส่ง สำเนาคำร้องกับแจ้งวันนัดให้ผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ร้องที่ 1 ทราบ ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำแถลงว่า ผู้ร้อง ที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทโดยชอบ ขอให้ยกคำร้อง ของ ส. และผู้ร้องที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องที่ 2 แล้วผู้ร้องที่ 2 โอนให้ผู้ร้องที่ 3 ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิก การขายทอดตลาดที่ดินพิพาท มีการอุทธรณ์ฎีกาต่อมา โดย ผู้ร้องทั้งสามมิได้อุทธรณ์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของ ศาลฎีกา ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นเสีย เช่นนี้ เห็นได้ว่า ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการ บังคับคดีหากเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะยื่นคำร้องและ ขอสืบพยานเสียแต่ในชั้นไต่สวนคำร้อง ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดของ ส. หรืออุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ของศาลชั้นต้นที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นได้ แต่ ผู้ร้องที่ 1 ก็มิได้กระทำ ผู้ร้องที่ 1 จึงต้อง ผูกพันในผลแห่งคำสั่งศาลที่ว่าการขายทอดตลาดที่ดิน พิพาทไม่ชอบตามคำสั่งศาลที่ถึงที่สุด เมื่อการ ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทไม่ชอบผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ได้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ผู้ร้องที่ 2 ที่ 3เป็นผู้รับซื้อที่ดินพิพาทมาจากผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ มีสิทธิดีกว่าผู้ร้องที่ 1 ผู้โอน จึงไม่ได้กรรมสิทธิ ด้วยเช่นกัน ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้ง สาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากและผลของการมอบตั๋วเงินโดยไม่สลักหลัง
หนี้ที่เจ้าหนี้มีต่อลูกหนี้เป็นหนี้เงินฝาก โดยมีตั๋วเงินเป็นหลักฐานแห่งหนี้ สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้โอนให้แก่ ธนาคาร ก. จึงเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากดังกล่าว แม้เจ้าหนี้จะได้มอบตั๋วเงินซึ่งเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้แก่ธนาคาร ก. ไปพร้อมกับการทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ไม่เป็นการโอนตั๋วเงินอันจะต้องมีการสลักหลังตั๋วเงิน นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากและการส่งมอบตั๋วเงินเป็นหลักฐาน ไม่ถือเป็นการโอนตั๋วเงินต้องสลักหลัง
หนี้ที่เจ้าหนี้มีต่อลูกหนี้เป็นหนี้เงินฝาก โดยมีตั๋วเงิน เป็นหลักฐานแห่งหนี้ สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้โอนให้แก่ ธนาคาร ก. จึงเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากดังกล่าว แม้เจ้าหนี้จะได้มอบตั๋วเงินซึ่งเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้ แก่ธนาคาร ก. ไปพร้อมกับการทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ไม่เป็นการโอนตั๋วเงินอันจะต้องมีการสลักหลังตั๋วเงิน นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3333/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความและการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา
หากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ผู้ร้องก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลเพื่อใช้แทนผู้ชนะคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้อง ชำระเกี่ยวกับคำฟ้องอุทธรณ์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลนั้น ผู้ร้องก็ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระในชั้นนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระก่อนจึงค่อยกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความ แทนที่ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นางส.ร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้เป็นมารดา ทรัพย์สินที่อาจได้มาตามคำพิพากษาซึ่งจะตกได้แก่ผู้ร้องก็จะเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง มิใช่เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับสามี กรณีจึงมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องเข้า ไปจัดการ สินสมรสอันจะต้องจัดการร่วมกับสามี หรือต้องได้รับความยินยอมจากสามีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476,1477, และ 1478

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3220/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดคนต่างด้าวเข้าเมือง: อายุความ, กฎหมายเก่า, และความผิดต่อเนื่อง
จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ พ.ศ.2489ซึ่งในขณะนั้นใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 พระราชบัญญัติดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติความผิดในกรณีผู้เข้าอยู่โดยไม่ได้ยื่นรายการตามแบบกำหนดไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่เข้าช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองและเขตท่าสถานี หรือท้องที่ฯ การที่จำเลยเข้ามาดังกล่าวจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 สำหรับความผิดฐานเข้ามาโดยไม่มีหนังสือเดินทางอันถูกต้องตามกฎหมายนั้น แม้จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 ก็ตาม เมื่อฟังได้ว่าจำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ พ.ศ.2489 นับถึงวันฟ้อง คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว ส่วนฟ้องโจทก์ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81 นั้น เมื่อฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบันจำเลยจึงต้องมีความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3173/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำธุรกรรมหลังมีคำพิพากษาเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี: การกระทำที่เป็นการฉ้อฉลเจ้าหนี้
ผู้ร้องซึ่งเป็นสามีของจำเลย ทราบว่าจำเลยถูกฟ้องคดีนี้และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี หลังจากนั้นประมาณ6 เดือน ผู้ร้องและจำเลยจดทะเบียนหย่ากันโดยตกลงให้ทรัพย์พิพาทซึ่งเป็นสินสมรสตกได้แก่ผู้ร้องฝ่ายเดียว เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องกับจำเลยร่วมกันทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้จำเลยถูกยึดทรัพย์มาเพื่อการบังคับคดีเป็นการกระทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเสียเปรียบโจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาทมาดำเนินการบังคับคดีเอาชำระหนี้แก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเช็ค: ผู้ยึดถือเช็คแทนเจ้าของ ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คและไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์เป็นเพียงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบิดาโจทก์ให้เป็นผู้ช่วยเหลือดำเนินกิจการของห้างขายยา ซึ่งมิได้เป็นนิติบุคคลและเป็นของบิดาโจทก์แต่ผู้เดียวดังนั้นการที่สามีจำเลยนำเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือมามอบให้บิดาโจทก์เพื่อชำระหนี้ค่ายา และบิดาโจทก์มอบเช็คพิพาทให้โจทก์ไว้เพื่อใช้จ่ายในกิจการของห้างขายยา โจทก์ก็เป็นแต่เพียงผู้ยึดถือเช็คพิพาทไว้แทนบิดาโจทก์ การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์และธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไม่มีผลให้โจทก์กลายเป็นผู้มีเช็คพิพาทไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงินหรือผู้รับสลักหลัง หรือเป็นผู้ถือเช็คพิพาทไว้เพื่อตนตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงและไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3156/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการดำเนินคดีอย่างคนอนาถา: จำกัดเฉพาะค่าธรรมเนียมศาล ไม่ครอบคลุมหลักประกันการชำระหนี้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 การดำเนินคดีอย่างคนอนาถามีได้เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมศาลเท่านั้น แต่กรณีที่จะต้องนำหลักประกันมาประกันการชำระหนี้เพื่อขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษามิใช่เรื่องค่าธรรมเนียมศาล จึงจะขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3142/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก้ไขโทษจำคุกเกิน 50 ปี ตามกฎหมายอาญาใหม่ ศาลฎีกากลับคำพิพากษา
ระหว่างพิจารณาคดีของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 91 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 2 โดยบัญญัติความในมาตรา 91 ขึ้นใหม่ จะลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 50 ปีไม่ได้ เว้นแต่จะลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83 กระทงหนึ่ง จำคุกตลอดชีวิตและตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 อีกกระทงหนึ่ง จำคุก 3 ปีแต่เมื่อวางโทษจำคุกตลอดชีวิตในกระทงแรกแล้ว ก็ไม่ต้องนำโทษจำคุก 3ปีในกระทงหลังมารวมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการรอการบังคับคดีระหว่างการพิจารณาคำขอทุเลาการบังคับคดีชั้นฎีกา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รอฟังคำสั่งของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับไว้นั้น มีความหมายว่าให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับชั้นฎีกาของจำเลย ซึ่ง รวมถึงการรอการออกหมายเรียกเพื่อจับกุมและกักขังจำเลยด้วย ศาลชั้นต้น มีอำนาจมีคำสั่งเช่นนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2)
of 39