พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีติดตามทรัพย์จากลูกจ้างยักยอกและการค้ำประกันสัญญา
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ไว้ต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยักยอกเงินและทรัพย์สินของโจทก์ไป ที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่1 เป็นการใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิยึดถือทรัพย์ของโจทก์ไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาให้เจ้าของทรัพย์ใช้สิทธิเช่นนี้เว้นแต่จะถูกจำกัดด้วยอายุความได้สิทธิ เมื่อคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ยังไม่ขาดอายุความ ข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ต่อสู้ว่าคดี ของโจทก์ขาดอายุความ จึงฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีติดตามทรัพย์สินจากการยักยอกของลูกจ้าง และผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ไว้ต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยักยอกเงินและทรัพย์สินของโจทก์ไป ที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นการใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิยึดถือทรัพย์ของโจทก์ไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาให้เจ้าของทรัพย์ใช้สิทธิเช่นนี้เว้นแต่จะถูกจำกัดด้วยอายุความได้สิทธิ เมื่อคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ยังไม่ขาดอายุความ ข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ต่อสู้ว่าคดี ของโจทก์ขาดอายุความ จึงฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองและการซื้อที่ดินโดยไม่สุจริตของผู้ซื้อสืบจากผู้ครอบครองเดิม
พ. และ ม. ตกลงแบ่งที่ดินในโฉนดที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันออกเป็นสัดส่วน ต่างไม่รุกล้ำกัน ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตอนกลางที่พ.ครอบครองมาแต่เดิม เมื่อพ.ตายโจทก์บุตรพ. ได้ครอบครองต่อมาเกิน 10 ปี โดย ม. กับบุตรมิได้เข้าเกี่ยวข้อง ม. ยกที่ดินส่วนของตนให้นาย ม. ซึ่งเป็นบุตรจำเลยซึ่งเป็นบุตรสะใภ้ ม. และบ้านอยู่ห่างที่พิพาท 4 เส้นเศษเชื่อว่ารู้ถึงการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ จำเลยซื้อที่ดินจากนาย ม.จึงถือไม่ได้ว่าซื้อโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต การได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทของโจทก์โดยทางครอบครอง แม้ยังมิได้จดทะเบียนก็ใช้ยันจำเลยได้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ. ม.1299 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้คู่ความที่ไม่ถูกต้อง และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกแล้วผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องนั้น ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและพิจารณาต่อมาเฉพาะคดีเกี่ยวกับผู้จัดการมรดกยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งผู้รองที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำแถลงคัดค้าน ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ซึ่งมิได้เป็นผู้คัดค้านจึงมิใช่คู่ความในคดีเกี่ยวกับคำร้องนี้ เมื่อผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้จัดการมรดกลาออกจากตำแหน่งได้ ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 จึงมิใช่จำเลยอุทธรณ์ แต่ผู้จัดการมรดกเท่านั้นที่เป็นจำเลยอุทธรณ์ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของผู้ร้องแก่ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 โดยมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดก และศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาโดยมิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนนั้น จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยการพิจารณา ตามมาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 243(2) ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดกแล้วส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาคำอุทธรณ์ให้คู่ความที่ไม่ใช่จำเลยอุทธรณ์ เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกแล้วผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องนั้น ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและพิจารณาต่อมาเฉพาะคดีเกี่ยวกับผู้จัดการมรดกยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งผู้รองที่ 1ที่ 2 ยื่นคำแถลงคัดค้าน ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ซึ่งมิได้เป็นผู้คัดค้านจึงมิใช่คู่ความในคดีเกี่ยวกับคำร้องนี้เมื่อผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้จัดการมรดกลาออกจากตำแหน่งได้ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 จึงมิใช่จำเลยอุทธรณ์ แต่ผู้จัดการมรดกเท่านั้นที่เป็นจำเลยอุทธรณ์ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของผู้ร้องแก่ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 โดยมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดก และศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาโดยมิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนนั้น จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยการพิจารณา ตามมาตรา 247ประกอบด้วยมาตรา 243(2) ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดกแล้วส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกบริษัทโดยผลของกฎหมายและการตั้งผู้ชำระบัญชี
นายทะเบียนบริษัทขีดชื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ออกเสียจากทะเบียน และออกแจ้งความโฆษณาในหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้วบริษัทจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นอันเลิกกันตั้งแต่วันที่โฆษณาแจ้งความดังกล่าว ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1246 (5) ซึ่งเป็นกรณีที่บริษัทเลิกโดยผลของกฎหมาย ไม่มีความจำเป็นต้องสืบพยานถึงเหตุที่จะให้เลิกบริษัทจำเลยที่ 1 และเมื่อไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1 ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1246(6) บริษัทจำเลยที่ 1 จึงไม่อาจกลับคืนขึ้นทะเบียนได้
เมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยไม่มีผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง ถ้าศาลเห็นสมควร ศาลย่อมมีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ชำระบัญชีได้
เมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยไม่มีผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง ถ้าศาลเห็นสมควร ศาลย่อมมีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บริษัทเลิกโดยผลของกฎหมาย: การตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อไม่มีผู้ชำระบัญชีเดิม
นายทะเบียนบริษัทขีดชื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ออกเสียจากทะเบียน และออกแจ้งความโฆษณาในหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้วบริษัทจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นอันเลิกกันตั้งแต่วันที่โฆษณาแจ้งความดังกล่าวตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1246(5)ซึ่งเป็นกรณีที่บริษัทเลิกโดยผลของกฎหมายไม่มีความจำเป็นต้องสืบพยานถึงเหตุที่จะให้เลิกบริษัทจำเลยที่ 1 และเมื่อไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1246(6)บริษัทจำเลยที่ 1 จึงไม่อาจกลับคืนขึ้นทะเบียนได้
เมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยไม่มีผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง ถ้าศาลเห็นสมควร ศาลย่อมมีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานกรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ชำระบัญชีได้
เมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยไม่มีผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง ถ้าศาลเห็นสมควร ศาลย่อมมีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานกรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานในคดีค่าธรรมเนียมท่าเรือ: ประเด็นข้อพิพาทเรื่องประเภทสินค้า (น้ำมันเชื้อเพลิง) ต้องสืบพยาน
ข้อเท็จจริงบางประเด็นตามฟ้องและคำให้การจำเลยยังโต้เถียงกันอยู่ รับฟังเป็นยุติไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยการพิจารณา ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานโดยศาลชั้นต้นเมื่อข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ และประเด็นสินค้าเคมีเหลวเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่
ข้อเท็จจริงบางประเด็นตามฟ้องและคำให้การจำเลยยังโต้เถียงกันอยู่ รับฟังเป็นยุติไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยการพิจารณา ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3940/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดในการซื้อขายเช่าซื้อ: การผูกพันบริษัทจำเลยจากการชำระเงินผ่านตัวแทน
การที่บริษัทจำเลยให้ ธ.เป็นผู้จัดการเกี่ยวกับสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำกับบริษัทจำเลย เช่นเมื่อบริษัทจำเลยส่งสัญญาเช่าซื้อและเอกสารบางอย่างไปที่ร้านของ ธ.แล้ว ธ.นำไปให้โจทก์ลงชื่อในฐานะผู้เช่าซื้อ และส่งกลับไปให้บริษัทจำเลยจนสำเร็จเป็นสัญญาเช่าซื้อ ตลอดจนเมื่อโจทก์ชำระเงินค่าทะเบียนรถยนต์พิพาทให้บริษัทจำเลยบริษัทจำเลยก็ได้ส่งทะเบียนรถไปให้โจทก์โดยผ่าน ธ.และในการชำระเงินค่าเช่าซื้อ ธ.ก็เป็นผู้รับจากโจทก์แล้วเป็นผู้จัดส่งไปให้บริษัทจำเลย ครั้งสุดท้ายเมื่อโจทก์แจ้งให้บริษัทจำเลยทราบว่า โจทก์ได้ชำระเงินให้กับ ธ.ครบถ้วนแล้วขอให้บริษัทจำเลยโอนทะเบียนรถยนต์พิพาทให้โจทก์ บริษัทจำเลยก็แจ้งให้โจทก์ทราบว่าจะจัดการปัญหาระหว่างโจทก์กับ ธ.ซึ่งต่อมาบริษัทจำเลยก็ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่า ธ.รับเงินค่างวดครั้งสุดท้ายไว้จากโจทก์จริงและบริษัทจำเลยได้ให้ ธ.ส่งให้แก่บริษัทจำเลยแล้วพฤติการณ์ที่ ธ.กับบริษัทจำเลยปฏิบัติต่อกันดังกล่าวมาย่อมถือได้ว่า ธ.เป็นตัวแทนเชิดของบริษัทจำเลย