คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา พานิชวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2412/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมของผู้เยาว์ที่เกิดจากอุบายหลอกลวง ไม่ถือว่าเป็นการยินยอมโดยสมัครใจ ทำให้จำเลยมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์
การที่ผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 13 ปีเศษ ยินยอมไปกับจำเลยเพราะจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าจะพาผู้เสียหายไปซื้อผ้า แล้วพาผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเรานั้น ถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318 อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดหลายบท: การกระทำต่อเนื่องเพื่อประสงค์เดียวกัน
จำเลยเข้าไปจับนมผู้เสียหายขณะกำลังนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ผู้เสียหายวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน จำเลยวิ่งตามเข้าไปกอดจับนมผู้เสียหายในบ้านอีก การกระทำผิดของจำเลยตอนแรกกับตอนหลังเป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอนกันและเจตนาของจำเลยก็เพื่อกอดจับนมผู้เสียหายเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดหลายบท: การกระทำต่อเนื่องโดยมีเจตนาเดียวกัน
จำเลยเข้าไปจับนมผู้เสียหายขณะกำลังนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ผู้เสียหายวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน จำเลยวิ่งตามเข้าไปกอดจับนมผู้เสียหายในบ้านอีก การกระทำผิดของจำเลยตอนแรกกับตอนหลังเป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอนกัน และเจตนาของจำเลยก็เพื่อกอดจับนมผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2297/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารโยนความรับผิดโดยตัวแทนจำหน่ายสินค้าเชื่อ ก่อความเสียหายแก่ผู้อื่นและสังคม
จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเชื่อแก่ประชาชนปลอมเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานโยนความรับผิดแก่บุคคลอื่นที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อให้เกิดความเสียหายเป็นที่เดือดร้อนแก่สุจริตชนเป็นอย่างมากเช่นโจทก์คดีนี้ที่ต้องถูกฟ้องได้รับความเสียหายนับเป็นภัยแก่ประชาชนและสังคม จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะรอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2199/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความตายของผู้ต้องหาในระหว่างพิจารณาคดีอาญาทำให้สิทธิฟ้องระงับ
จำเลยตายระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงเป็นอันระงับไปโดยความตายของผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(1) ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวง: จำนวนเงินที่ฟ้องรวมทั้งหมด หากเกินหนึ่งหมื่นบาท คดีไม่อยู่ในอำนาจ
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 15 ประกอบด้วยมาตรา 22 (3) บัญญัติให้ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งซึ่งราคาทรัพย์สินที่พิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท นั้นจำนวนเงินที่ฟ้องนี้หมายถึง จำนวนเงินรวมกันในคำฟ้องที่โจทก์แต่ละคนฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระไม่ว่าจำนวนเงินดังกล่าวจะเกิดจากมูลหนี้รายเดียวหรือมูลหนี้หลายรายรวมกันก็ตาม เมื่อรวมจำนวนเงินที่ฟ้องในมูลหนี้เหล่านั้นแล้วมีจำนวนไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทคดีก็อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาหากรวมกันแล้วเกินหนึ่งหมื่นบาทคดีก็ไม่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวง: คำฟ้องรวมเกินหนึ่งหมื่นบาท คดีไม่อยู่ในอำนาจ
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 15 ประกอบด้วยมาตรา 22(3)บัญญัติให้ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งซึ่งราคาทรัพย์สินที่พิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทนั้นจำนวนเงินที่ฟ้องนี้หมายถึง จำนวนเงินรวมกันในคำฟ้องที่โจทก์แต่ละคนฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระไม่ว่าจำนวนเงินดังกล่าวจะเกิดจากมูลหนี้รายเดียวหรือมูลหนี้หลายรายรวมกันก็ตามเมื่อรวมจำนวนเงินที่ฟ้องในมูลหนี้เหล่านั้นแล้วมีจำนวนไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทคดีก็อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาหากรวมกันแล้วเกินหนึ่งหมื่นบาทคดีก็ไม่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2048/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้หลังอายุความสิ้นสุด และผลกระทบต่อการยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้
การรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 นั้น ต้องกระทำกันขึ้นก่อนที่กำหนดอายุความนั้นจะสิ้นสุดลง ส่วนการรับสภาพหนี้ที่กระทำหลังจากอายุความสิ้นสุดลงแล้วนั้นถือว่าลูกหนี้ละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความนั้นแล้วตามมาตรา 192 จะยกเอาอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1976/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแจ้งความเท็จ/เบิกความเท็จ ต้องระบุความจริงให้ชัดเจน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้
บรรยายฟ้องว่าจำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่าอย่างไร และเบิกความในชั้นศาลว่าอย่างไร แล้วสรุปว่าจำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ โดยอ้างว่าหากข้อความที่จำเลยให้การในชั้นศาลเป็นความจริง ที่จำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนก็ย่อมเป็นเท็จ และหากข้อความที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนเป็นความจริงการเบิกความต่อศาลก็ย่อมเป็นเท็จ แสดงว่าโจทก์เองก็ไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร เป็นฟ้องที่ขัดกันเองอยู่ในตัวไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้ถูกต้องเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกโฉนดที่ดินทับทางสาธารณะ ถือเป็นการออกโฉนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนได้
ทางกระบือสาธารณะพิพาทอยู่นอกเขตโฉนดที่ดินของ ส. แต่อยู่ในเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ซึ่งออกทับทางกระบือสาธารณะ เป็นการออกโฉนดโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ทางกระบือสาธารณะนั้นแม้จะสิ้นสภาพไปเพราะการไม่มีผู้ใด ใช้ประโยชน์ก็ยังมีสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ เว้นแต่ จะได้โอนไปโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305 อธิบดีกรมที่ดิน จำเลยจึงมีอำนาจที่จะเพิกถอน แก้ไขหรือออกใบแทนโฉนดที่ดินของโจทก์ได้ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61
of 39