พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ทรงเช็คมีอำนาจฟ้องคดีเช็คแม้จะมอบหมายให้ผู้อื่นเรียกเก็บเงิน
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ การที่โจทก์เพียงแต่นำเช็คพิพาทฝากเข้าบัญชีธนาคารของ ท. บุตรโจทก์ เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็คแทนไม่ทำให้ฐานะการเป็นผู้ทรงของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษผู้กระทำผิดเด็กและเยาวชน และข้อยกเว้นการฎีกาในคดีอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้มอบตัวจำเลยแก่บิดาจำเลย ให้บิดาจำเลยระวังมิให้จำเลยก่อเหตุร้ายภายในกำหนด 3 ปีมิฉะนั้นให้บิดาจำเลยชำระเงินต่อศาลครั้งละ 500 บาททุกครั้งที่จำเลยก่อเหตุร้ายขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74 วิธีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากำหนดนี้เบากว่าโทษจำคุก ดังนั้นจึงถือว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกว่าจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษผู้กระทำผิดอายุน้อยกว่า 17 ปี และการกำหนดเงื่อนไขปล่อยตัวโดยมอบตัวให้บิดาแทนการจำคุก
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้มอบตัวจำเลยแก่บิดาจำเลย ให้บิดาจำเลยระวังมิให้จำเลยก่อเหตุร้ายภายในกำหนด 3 ปี มิฉะนั้นให้บิดาจำเลยชำระเงินต่อศาลครั้งละ 500 บาท ทุกครั้งที่จำเลยก่อเหตุร้ายขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ประกอบด้วย มาตรา 74 วิธีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากำหนดนี้เบากว่าโทษจำคุก ดังนั้นจึงถือว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกว่าจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการศพไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการตั้งผู้จัดการมรดก แม้มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการทำศพ
ผู้ร้องเป็นผู้จัดการศพเจ้ามรดก ได้ออกเงินทดรองเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการทำศพ เป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิเหนือทรัพย์กองมรดกแต่ถือไม่ได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะใช้สิทธิร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีปล้นทรัพย์: ความน่าเชื่อถือของพยานผู้เสียหายและพฤติการณ์หลบหนี
คดีปล้นทรัพย์ เหตุเกิดเวลากลางวัน แม้โจทก์มีผู้เสียหายปากเดียวเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่ามีโอกาสเห็นหน้าจำเลยนาน1 นาที ไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่าจำหน้าคนร้ายได้ รุ่งขึ้นเมื่อเห็นจำเลยก็ชี้ให้ตำรวจจับกุมตัว ดังนี้ฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเงินบำเหน็จตกทอดของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับอนุญาตศาล เป็นโมฆะ
เงินบำเหน็จที่จะตกได้แก่บรรดาทายาทผู้มีสิทธิของผู้ตาย ตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ พ.ศ.2494 นั้น มิใช่มรดกของผู้ตาย
การที่จำเลยแจ้งให้กรมการเงินกระทรวงกลาโหมหักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายเพื่อใช้หนี้จำเลยนั้น เป็นการมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการเจรจาตกลงกับทายาทผู้ตาย
การที่มารดาโจทก์ไปตกลงให้หักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายที่จะได้แก่โจทก์บางส่วนชำระหนี้แก่จำเลยนั้น เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่งที่ได้กระทำไปแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และเป็นผลให้โจทก์ต้องชำระหนี้เมื่อมารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตจากศาลจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(13) ข้อตกลงดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะจำเลยไม่มีมูลที่จะอ้างเพื่อการชำระหนี้จากโจทก์ได้
การที่จำเลยแจ้งให้กรมการเงินกระทรวงกลาโหมหักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายเพื่อใช้หนี้จำเลยนั้น เป็นการมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการเจรจาตกลงกับทายาทผู้ตาย
การที่มารดาโจทก์ไปตกลงให้หักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายที่จะได้แก่โจทก์บางส่วนชำระหนี้แก่จำเลยนั้น เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่งที่ได้กระทำไปแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และเป็นผลให้โจทก์ต้องชำระหนี้เมื่อมารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตจากศาลจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(13) ข้อตกลงดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะจำเลยไม่มีมูลที่จะอ้างเพื่อการชำระหนี้จากโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประเด็นข้อพิพาท การวินิจฉัยนอกประเด็น และอำนาจศาลในการลดค่าเสียหาย
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คู่ความได้สละประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การที่มีอยู่ คงโต้เถียงกันแต่เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้วหรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนค่าเสียหายถ้าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกราคารถยนต์ที่เช่าซื้อได้อีก จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประเด็นข้อพิพาทและการวินิจฉัยนอกประเด็น ศาลฎีกาชี้ว่าการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นเหตุให้คำพิพากษาไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คู่ความได้สละประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การที่มีอยู่ คงโต้เถียงกันแต่เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้วหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนค่าเสียหายถ้าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกราคารถยนต์ที่เช่าซื้อได้อีก จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อเก็บหลักฐานเช็ค ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์ หากไม่ได้แสดงเจตนาให้ดำเนินคดี ทำให้ฟ้องคดีอาญาขาดอายุความ
ข้อความในรายงานประจำวันเป็นถ้อยคำที่โจทก์ผู้แจ้งได้เล่าเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ออกเช็คชำระหนี้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์ได้รับความเสียหาย จึงนำเช็คมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเกรงว่าเช็คจะขาดอายุความตำรวจรับแจ้งไว้และได้มอบเช็คคืนให้โจทก์รับไปในวันนั้น ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในชื่อทางการค้า: การใช้ชื่อคล้ายกันทางธุรกิจ และผลกระทบต่อชื่อเสียง/ประโยชน์
โจทก์ประกอบกิจการโรงแรมชื่อรามาดาอินน์ ในประเทศทั่วโลก จำเลยประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยใช้ชื่อว่ารามาดาโฮเต็ล ชื่อทางการค้าของโจทก์และจำเลยแม้จะคล้ายคลึงกันและโจทก์ใช้ชื่อนี้ก่อนจำเลยก็ตาม ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิในนามของบุคคล การจะขอห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อเดียวกับโจทก์จะต้องปรากฏว่าเป็นเหตุให้โจทก์เสื่อมเสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหาย และจะเสียหายอยู่สืบไป และเมื่อคำว่า รามาดาเป็นภาษาเมกซิกันอินเดียนแดง มีความหมายว่าที่พักแรม มิใช่คำที่โจทก์ประดิษฐ์คิดขึ้นเอง และโจทก์ก็มิได้เข้ามาประกอบกิจการ โรงแรมในประเทศไทย จึงถือไม่ได้ว่ากิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยเป็นการแข่งขันกับกิจการโรงแรมของโจทก์ในต่างประเทศอันจะกระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ของโจทก์ โจทก์ จึงไม่มีสิทธิอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยใช้ชื่อนั้นในการประกอบกิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยได้ และปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้