คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา พานิชวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังยกเลิกการล้มละลาย และการจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชี
เมื่อศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของห้างหุ้นส่วนจำกัด ย่อมมีผลให้ห้างหุ้นส่วนนั้นหลุดพ้นจากการล้มละลาย กลับมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีก อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมสิ้นสุดลง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจดำเนินการบังคับตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลาย เรียกให้ผู้ร้องชำระหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อไป และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในฎีกา ศาลฎีกาก็ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังยกเลิกการล้มละลาย และผลต่อการเรียกร้องหนี้ค่าหุ้น
เมื่อศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของห้างหุ้นส่วนจำกัดย่อมมีผลให้ห้างหุ้นส่วนนั้นหลุดพ้นจากการล้มละลายกลับมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีก อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมสิ้นสุดลงเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจดำเนินการบังคับตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลาย เรียกให้ผู้ร้องชำระหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อไป และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในฎีกา ศาลฎีกาก็ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: ความผูกพันของผู้ประกันในการส่งตัวจำเลยตามนัดศาล และผลของการผิดสัญญา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกันเช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: ผลผูกพันจนกว่าจำเลยจะมอบตัวต่อศาล แม้ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกัน เช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยพยานหลักฐานแล้ว ถือเป็นการอุทธรณ์ที่ต้องห้าม
ในข้อหายักยอกโจทก์อุทธรณ์ว่าตามพยานหลักฐานของโจทก์ต้องถือว่าจำเลยได้เบียดบังเอาทรัพย์ไปโดยทุจริต และในข้อหาฉ้อโกงโจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์นำสืบพฤติการณ์โดยชัดเจนว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตดังนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์กล่าวถึงว่าจำเลยยักยอกเงินที่ขายเครื่องหยุดและตัดด้ายอัตโนมัติด้วย เป็นข้ออ้างที่ขัดแย้งกับคำฟ้องของโจทก์โดยชัดแจ้ง ถึงหากจะเป็นข้อกฎหมาย ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การชักชวน, รู้เห็น, และการกระทำที่ส่งผลถึงชีวิต
จำเลยชักชวนให้ ท. ทำร้ายผู้ตายขณะ ท. ใช้ให้ผู้อื่นไปหยิบท่อนไม้ยาง 33 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วครึ่งมาให้จำเลยก็รู้เห็นด้วย เมื่อ ท.ใช้ไม้ดังกล่าวซึ่งมีขนาดพอจะทำร้ายคนให้ถึงตายได้ตีศีรษะผู้ตายขณะที่เดินผ่าน ท. และจำเลยในระยะกระชั้นชิดเป็นการเลือกตีในที่สำคัญ แม้จำเลยจะมิได้ลงมือทำร้ายผู้ตายเองและตีเพียงทีเดียวผู้ตายก็ตายเพราะบาดแผลที่ถูกตีทำร้ายนี้ ถือได้ว่า ท. มีเจตนาฆ่าผู้ตายและจำเลยร่วมกระทำผิดกับ ท. ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย: การกระทำโดยชักชวนและรู้เห็นเป็นเหตุให้ต้องรับผิด
จำเลยชักชวนให้ ท.ทำร้ายผู้ตายขณะท. ใช้ให้ผู้อื่นไปหยิบท่อนไม้ยาว 33 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วครึ่งมาให้จำเลยก็รู้เห็นด้วย เมื่อ ท. ใช้ไม้ดังกล่าวซึ่งมีขนาดพอจะทำร้ายคนให้ถึงตายได้ตีศีรษะผู้ตายขณะที่เดินผ่าน ท. และจำเลยในระยะกระชั้นชิดเป็นการเลือกตีในที่สำคัญ แม้จำเลยจะมิได้ลงมือทำร้ายผู้ตายเองและตีเพียงทีเดียวผู้ตายก็ตายเพราะบาดแผลที่ถูกตีทำร้ายนี้ ถือได้ว่า ท. มีเจตนาฆ่าผู้ตายและจำเลยร่วมกระทำผิดกับ ท. ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจของผู้จัดการบริษัทในการทำสัญญาและการผูกพันบริษัท แม้ขัดข้อบังคับบริษัท
ระหว่างเกิดเหตุ จ. เป็นผู้จัดการของบริษัทจำเลยย่อมถือได้ว่าจ. เป็นผู้แทนบริษัทจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลในอันที่จะแสดงออกถึงความประสงค์แทนบริษัทจำเลยได้ การที่ จ. ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้ทำการติดตั้งถังน้ำในโรงงานเพื่อใช้ในกิจการของจำเลยแม้จะฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทที่ระบุว่าต้องมีกรรมการผู้มีอำนาจอีกคนหนึ่งร่วมลงนามด้วย แต่ระหว่างที่โจทก์ดำเนินการตามสัญญากรรมการของบริษัทจำเลยคนอื่นไม่ได้ทักท้วงและรับมอบผลงานนั้นจากโจทก์ไว้แล้ว จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดตามสัญญาต่อโจทก์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจของผู้จัดการบริษัทในการทำสัญญา และผลของการรับมอบงานที่กรรมการคนอื่นไม่ทักท้วง
ระหว่างเกิดเหตุ จ. เป็นผู้จัดการของบริษัทจำเลยย่อมถือได้ว่าจ. เป็นผู้แทนบริษัทจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลในอันที่จะแสดงออกถึงความประสงค์แทนบริษัทจำเลยได้ การที่ จ. ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้ทำการติดตั้งถังน้ำในโรงงานเพื่อใช้ในกิจการของจำเลยแม้จะฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทที่ระบุว่าต้องมีกรรมการผู้มีอำนาจอีกคนหนึ่งร่วมลงนามด้วย แต่ระหว่างที่โจทก์ดำเนินการตามสัญญากรรมการของบริษัทจำเลยคนอื่นไม่ได้ทักท้วงและรับมอบผลงานนั้นจากโจทก์ไว้แล้ว จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดตามสัญญาต่อโจทก์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4068/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน: ผู้ครอบครองไม่ใช่เจ้าของไม่มีอำนาจฟ้องโดยตรง
โจทก์เป็นผู้ขับรถยนต์ซึ่งพนักงานสอบสวนยึดไว้ และมอบให้ผู้อื่นดูแลรักษาเพื่อรอการสืบสวนหาตัวผู้เป็นเจ้าของ แม้ขณะเกิดเหตุถูกรถอื่นชนจะถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองรถดังกล่าวก็ตาม โจทก์ก็มิได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์นั้น จึงหามีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับตัวรถโดยตรงไม่ ผู้มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของเท่านั้นที่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดอันเกี่ยวกับตัวทรัพย์ได้
of 39