พบผลลัพธ์ทั้งหมด 413 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3839/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้าง การสั่งไล่ออกถือเป็นการเลิกจ้างได้ แม้ไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร และการประเมินความร้ายแรงของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
การไล่ลูกจ้างออกจากงานอันถือว่าเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานนั้นไม่จำต้องมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร การที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างพูดกับลูกจ้างว่า"มึงทำหมา ๆ อย่างนี้กูไล่มึงออก"ประกอบกับหลังจากพูดไล่ลูกจ้างออกจากงานแล้ว นายจ้างยังไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจกล่าวหาลูกจ้างว่าไม่ยอมออกไปจากห้องพักคนงานและ ลูกจ้างได้หยุดงานทั้งยังทวงถามให้นายจ้างคิดค่าชดเชยและค่าจ้างให้ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่านายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างแล้ว
กิจการและลักษณะงานของนายจ้าง มิใช่กิจการต้องเสี่ยงภยันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย การทำงานต้องทำติดต่อกันทั้งกลางวันและกลางคืน ประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำต้องเปิดใช้ตลอดเวลา การที่ลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายจ้างไม่ปิดประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำในโรงงานเพียงชั่วระยะเวลาเดียวจึงยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นกรณีที่ร้ายแรงในอันที่นายจ้างจะไม่จ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง
กิจการและลักษณะงานของนายจ้าง มิใช่กิจการต้องเสี่ยงภยันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย การทำงานต้องทำติดต่อกันทั้งกลางวันและกลางคืน ประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำต้องเปิดใช้ตลอดเวลา การที่ลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายจ้างไม่ปิดประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำในโรงงานเพียงชั่วระยะเวลาเดียวจึงยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นกรณีที่ร้ายแรงในอันที่นายจ้างจะไม่จ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3729/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกาศกระทรวงมหาดไทยคุ้มครองลูกจ้างทุกประเภท แม้หน่วยงานรัฐก็ต้องจ่ายค่าชดเชย
เมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดเวลาทำงานฯ มิได้ระบุยกเว้นไว้ว่านายจ้างไม่รวมถึงนายจ้างที่เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงต้องถือว่านายจ้างที่เป็นหน่วยงานของรัฐเป็นนายจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3727/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานธนานุเคราะห์เข้าข่ายบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ค่าชดเชยและเงินสมทบมีความแตกต่างกัน
กิจการสถานธนานุเคราะห์มิได้เป็นกิจการที่ให้เปล่าดังเช่นมูลนิธิหรือกิจการสาธารณกุศล แม้จะมีนโยบายสงเคราะห์และช่วยเหลือ ประชาชนทั่วไปผู้ประสบความทุกข์ยาก ก็มิได้เป็นกิจการที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจ
เงินสมทบตามระเบียบสำนักงานธนานุเคราะห์ว่าด้วยเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. 2519 เป็นเงินประเภทอื่นมิใช่ค่าชดเชย การที่จำเลยกำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าวว่า เงินสมทบที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นค่าชดเชย จึงไม่มีผลใช้บังคับ
เงินสมทบตามระเบียบสำนักงานธนานุเคราะห์ว่าด้วยเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. 2519 เป็นเงินประเภทอื่นมิใช่ค่าชดเชย การที่จำเลยกำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าวว่า เงินสมทบที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นค่าชดเชย จึงไม่มีผลใช้บังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3708/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างที่มีกำหนดเวลา แม้มีข้อตกลงเลิกจ้างก่อนกำหนด ก็ไม่ถือเป็นสัญญาไม่มีกำหนดเวลา
สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอน ตอนท้ายระบุว่า "ยกเว้นแต่จะได้เลิกจ้างก่อนกำหนด" ซึ่งทำได้ในกรณีโจทก์ทำผิดกฎข้อบังคับการทำงาน ข้อความนี้มิได้ทำให้สัญญานี้เป็นสัญญาที่มิได้กำหนดเวลาการจ้างไว้แน่นอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: หลักการคุ้มครองเจ้าหนี้และอำนาจงดการสอบสวน
พระราชบัญญัติล้มละลายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ได้รับชำระหนี้โดยเป็นธรรม ตามส่วนเฉลี่ยแห่งหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ป้องกันมิให้ลูกหนี้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ของตน.มิให้ถูกบังคับชำระหนี้และให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้โดยรวดเร็ว ที่ลูกหนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับบริษัท อ. ในคดีล้มละลายเมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ศาลก็ได้จำหน่ายคดีเฉพาะลูกหนี้แล้วลูกหนี้และบริษัท อ. มิได้มีเจ้าหนี้แต่เฉพาะเจ้าหนี้ในคดีนี้ แต่อาจมีเจ้าหนี้หลายรายแตกต่างกันไป ถ้าศาลจะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้จนกว่าคดีล้มละลายถึงที่สุด ก็ย่อมจะเสียหายแก่เจ้าหนี้รายอื่น จึงไม่มีเหตุที่จะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท.ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท.ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: การพิจารณาคำขอรับชำระหนี้โดยไม่ต้องรอคดีอื่นถึงที่สุดเพื่อคุ้มครองประโยชน์เจ้าหนี้
พระราชบัญญัติล้มละลายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ได้รับชำระหนี้โดยเป็นธรรม ตามส่วนเฉลี่ยแห่งหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ป้องกันมิให้ลูกหนี้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ของตน.มิให้ถูกบังคับชำระหนี้และให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้โดยรวดเร็ว ที่ลูกหนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับบริษัท อ. ในคดีล้มละลายเมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ศาลก็ได้จำหน่ายคดีเฉพาะลูกหนี้แล้วลูกหนี้และบริษัท อ. มิได้มีเจ้าหนี้แต่เฉพาะเจ้าหนี้ในคดีนี้ แต่อาจมีเจ้าหนี้หลายรายแตกต่างกันไป ถ้าศาลจะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้จนกว่าคดีล้มละลายถึงที่สุด ก็ย่อมจะเสียหายแก่เจ้าหนี้รายอื่น จึงไม่มีเหตุที่จะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท. ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท. ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3677/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ก่อนพิพากษาล้มละลาย และการงดสอบสวนลูกหนี้ที่มีพฤติหลบหนี้
ไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติล้มละลายที่ให้ศาลรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้ไว้ภายหลังที่พิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายแล้ว ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นได้รับสำนวนคำขอรับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ก็ชอบที่จะพิจารณาแล้วมีคำสั่งไปได้เลย ไม่ต้องรอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายเสียก่อน
ม. พยานลูกหนี้เป็นหนี้รวม 80-90 ล้านบาทเศษ ถูกฟ้องต่อศาลหลายคดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดสอบสวน ม. ถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกลูกหนี้แถลงว่าหาตัว ม. ไม่พบคดีที่ ม. ถูกฟ้องโจทก์ก็ไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้ ศาลต้องประกาศทางหนังสือพิมพ์ ครั้งที่สองลูกหนี้ว่า ม. ไปต่างประเทศ ครั้งที่สามลูกหนี้ว่า ม. ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ครั้งที่สี่ลูกหนี้ว่า ม. ยังไม่เดินทางกลับประเทศไทย ม. จึงเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว ได้ไปเสียจากเคหสถานเพื่อหลบหนี้ ยากที่จะได้ตัวมาสอบสวน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะงดสอบสวน ม. ได้
ม. พยานลูกหนี้เป็นหนี้รวม 80-90 ล้านบาทเศษ ถูกฟ้องต่อศาลหลายคดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดสอบสวน ม. ถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกลูกหนี้แถลงว่าหาตัว ม. ไม่พบคดีที่ ม. ถูกฟ้องโจทก์ก็ไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้ ศาลต้องประกาศทางหนังสือพิมพ์ ครั้งที่สองลูกหนี้ว่า ม. ไปต่างประเทศ ครั้งที่สามลูกหนี้ว่า ม. ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ครั้งที่สี่ลูกหนี้ว่า ม. ยังไม่เดินทางกลับประเทศไทย ม. จึงเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว ได้ไปเสียจากเคหสถานเพื่อหลบหนี้ ยากที่จะได้ตัวมาสอบสวน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะงดสอบสวน ม. ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา สิทธิฟ้องถอนคืนไม่มี
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน โดยจำเลยต้องหาเงินมาให้โจทก์เพื่อใช้หนี้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์ จึงมิใช่เป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา สิทธิในการฟ้องถอนคืนไม่มี
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน โดยจำเลยต้องหาเงินมาให้โจทก์เพื่อใช้หนี้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์ จึงมิใช่เป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3608/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องมีสิทธิเรียกร้องที่ชัดเจนและไม่มีข้อต่อสู้ หากมีข้อต่อสู้ยังนำมาหักกลบลบหนี้ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้บริษัทจำเลยจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงที่ค้าง จำเลยให้การขอนำเงินทดรองจ่ายที่โจทก์เบิกไปแล้ว ไม่คืนเงินที่เหลือให้จำเลยมาหักกลบลบหนี้ เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวขอหักกลบลบหนี้ มิใช่หักหนี้โดยข้อสัญญาหรือว่าได้หักหนี้กันไปแล้ว ในวันนัดพิจารณาโจทก์แถลงว่า ได้จ่ายเงินทดรองไปในกิจการของจำเลยจนหมดสิ้นแล้ว ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของจำเลยในเงินทดรองจ่าย โจทก์ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยจึงจะนำมาขอหักกลบลบหนี้ไม่ได้