พบผลลัพธ์ทั้งหมด 413 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คที่ถูกอายัด: สิทธิของผู้ทรงเช็คและการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้โดยรับผิดชำระจากทรัพย์มรดกของ ส. ระหว่างบังคับคดีศาลชั้นต้นหมายเรียกจำเลยที่ 1 และ จ. มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับทรัพย์สินของ ส. เจ้ามรดกได้ความว่า จ. เช่าร้านอาหารอันเป็นทรัพย์มรดกของ ส. จากจำเลยที่ 1 และได้ออกเช็คชำระค่าเช่าลงวันที่ล่วงหน้าไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้แจ้งอายัดเงินตามเช็คดังกล่าวแก่ จ. ก่อนที่เช็คนั้นจะถึงกำหนดใช้เงิน โดยให้นำเงินค่าเช่ามาส่งแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแต่ จ. ไม่ปฏิบัติตามเมื่อเช็คถึงกำหนดใช้เงินผู้ทรงได้นำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเพราะมีคำสั่งอายัดต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือเตือนให้ จ. ส่งเงินค่าเช่าตามเช็คอีก จ.ตอบขัดข้องว่าเช็คที่สั่งจ่ายให้จำเลยที่ 1 นั้นได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วดังนี้ เห็นได้ว่า จ. ได้ชำระหนี้กองมรดกด้วยเช็คให้จำเลยที่ 1 ก่อนจะได้รับคำสั่งอายัดจากเจ้าพนักงานบังคับคดี และเช็คนั้นได้โอนไปยังผู้ทรงซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแล้ว ซึ่ง จ. จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้ผู้ทรงอยู่และหนี้ยังไม่ระงับสิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคท้าย ก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ผู้ทรงเช็คจะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่ จ. เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่ จ. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 312 วรรค 2 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คหลังอายัด: สิทธิเรียกร้องของผู้ทรงเช็คและการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้โดยรับผิด ชำระจากทรัพย์มรดกของ ส. ระหว่างบังคับคดีศาลชั้นต้นหมายเรียกจำเลยที่ 1 และ จ. มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับทรัพย์สินของ ส. เจ้ามรดกได้ความว่า จ. เช่าร้านอาหารอันเป็นทรัพย์มรดกของ ส. จากจำเลยที่ 1 และได้ออกเช็คชำระค่าเช่าลงวันที่ล่วงหน้าไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้แจ้งอายัดเงินตามเช็คดังกล่าวแก่ จ. ก่อนที่เช็คนั้นจะถึงกำหนดใช้เงิน โดยให้นำเงินค่าเช่ามาส่งแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแต่จ.ไม่ปฏิบัติตามเมื่อเช็คถึงกำหนดใช้เงินผู้ทรงได้นำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเพราะมีคำสั่งอายัดต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือเตือนให้ จ. ส่งเงินค่าเช่าตามเช็คอีก จ.ตอบขัดข้องว่าเช็คที่สั่งจ่ายให้จำเลยที่ 1 นั้นได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วดังนี้ เห็นได้ว่า จ. ได้ชำระหนี้กองมรดกด้วยเช็คให้จำเลยที่ 1 ก่อนจะได้รับคำสั่งอายัดจากเจ้าพนักงานบังคับคดี และเช็คนั้นได้โอนไปยังผู้ทรงซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแล้ว ซึ่ง จ. จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้ผู้ทรงอยู่และหนี้ยังไม่ระงับสิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคท้าย ก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ผู้ทรงเช็คจะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่ จ.เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่จ. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 312 วรรค 2 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอมเพื่อย้ายที่อยู่ แม้ไม่ได้นำเอกสารไปดำเนินการเอง แต่หากผู้อื่นดำเนินการแทนก็ถือว่าเป็นการใช้เอกสารปลอม
จำเลยแจ้งย้ายตนเองและบุตรออกจากจังหวัดนครพนมเทศบาลเมืองนครพนมออกใบแจ้งย้ายออก ท.ร. 17 มอบให้แก่จำเลยจำเลยลงชื่อในช่องผู้แจ้งย้ายออกต่อมาเอกสารดังกล่าวในช่องสัญชาติของบิดามารดาของจำเลยและบุตรจำเลยถูกแก้ไขอันเป็นการปลอมเอกสารดังกล่าว ในการแจ้งย้ายเข้าบ้านเลขที่ใหม่ถึงแม้จำเลยจะไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่งานทะเบียนเขตดุสิตดำเนินการย้ายเข้า แต่บุตรของเจ้าบ้านเป็นผู้นำเอกสารดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแทนจำเลย เพื่อให้จำเลยได้ย้ายเข้าบ้านดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ที่ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ จำเลยจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอมเพื่อย้ายที่อยู่ แม้ไม่ได้ส่งเอกสารเอง แต่สั่งให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ก็ถือเป็นความผิด
จำเลยแจ้งย้ายตนเองและบุตรออกจากจังหวัดนครพนมเทศบาลเมืองนครพนมออกใบแจ้งย้ายออก ท.ร. 17 มอบให้แก่จำเลยจำเลยลงชื่อในช่องผู้แจ้งย้ายออกต่อมาเอกสารดังกล่าวในช่องสัญชาติของบิดามารดาของจำเลยและบุตรจำเลยถูกแก้ไขอันเป็นการปลอมเอกสารดังกล่าวในการแจ้งย้ายเข้าบ้านเลขที่ใหม่ถึงแม้จำเลยจะไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่งานทะเบียนเขตดุสิตดำเนินการย้ายเข้าแต่บุตรของเจ้าบ้านเป็นผู้นำเอกสารดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแทนจำเลย เพื่อให้จำเลยได้ย้ายเข้าบ้านดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ที่ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ จำเลยจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมสมบูรณ์: ศาลฎีกายกฟ้องข้อกล่าวหาปลอมแปลงพินัยกรรม โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานและเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม
พินัยกรรมทำขึ้นในขณะเจ้ามรดกมีสติดี สามารถแสดงเจตนาทำพินัยกรรมได้ แม้จะเป็นบุคคลผู้เสมือนไร้ความสามารถก็เพียงไม่สามารถจัดการงานบางประการของตนเองได้เท่านั้น การทำพินัยกรรมเป็นกิจการเฉพาะตัวที่จะต้องแสดงเจตนาด้วยตนเองและผู้พิทักษ์ก็ได้ให้ความยินยอมแล้ว พินัยกรรมจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาลคดีเช็ค: สถานที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นสถานที่เกิดความผิด
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ เกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้ง ของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิด เกิดขึ้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่ที่ จังหวัดภูเก็ต จึงต้องถือว่าความผิดเกิดขึ้นที่ จังหวัดภูเก็ต และจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตโจทก์จึงชอบที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดภูเก็ต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางพ้นกรอบเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 นับจากวันคำพิพากษาถึงที่สุด
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้กับผู้ร้องในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จำเลยให้การรับสารภาพ ผู้ร้องให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสั่งในวันที่ 4 กันยายน 2524 ให้โจทก์แยกฟ้องผู้ร้องเป็นคดีใหม่ และในวันเดียวกัน พิพากษา ลงโทษจำเลย ริบไม้และรถยนต์บรรทุกของกลาง โจทก์ฟ้อง ผู้ร้องเป็นคดีใหม่เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2524ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ยกฟ้องโจทก์เมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ 2526 คำว่าวันคำพิพากษาถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 หมายความถึงคำพิพากษา ในคดีที่ ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ เมื่อคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาและมีคำสั่งให้ริบทรัพย์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2524โดยไม่มีการอุทธรณ์ คำพิพากษาจึงถึงที่สุดตั้งแต่วันที่22 กันยายน 2524 ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์บรรทุกของกลางเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2526 จึงเป็นการยื่นภายหลังวันที่คำพิพากษาคดีนี้ถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี คำร้องจึงต้องห้ามตาม มาตรา 36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3239/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาลมีผลต่อรูปคดี แม้ศาลมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย ถือเป็นข้อสำคัญในคดี
ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ความว่าจำเลยรู้เห็นใกล้ชิดกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ หากจำเลยเบิกความไปตามที่รู้เห็นดังที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนจำเลยย่อมเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์สนับสนุนคำของพยานโจทก์ปากอื่นให้มีน้ำหนักมั่นคงยิ่งขึ้นอันอาจทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามได้ ดังนี้ แม้ศาลจะมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นวินิจฉัย คำเบิกความอันเป็นเท็จของจำเลยก็เป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3239/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาลในคดีอาญา: ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของพยานและผลคดี
ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ความว่าจำเลยรู้เห็นใกล้ชิดกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ หากจำเลยเบิกความไปตามที่รู้เห็นดังที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวน จำเลยย่อมเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์สนับสนุนคำของพยานโจทก์ปากอื่นให้มีน้ำหนักมั่นคงยิ่งขึ้น อันอาจทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามได้ ดังนี้ แม้ศาลจะมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นวินิจฉัย คำเบิกความอันเป็นเท็จของจำเลยก็เป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3235/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า และบันดาลโทสะ: พฤติการณ์การทำร้ายด้วยอาวุธมีคม
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ที่เกิดเหตุมืดสลัว ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันผู้เสียหายไป 1 ที แล้วมิได้ฟันซ้ำอีกซึ่งลักษณะของขวานของกลางเป็นอาวุธที่หนักและมีคม ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าก็ย่อมจะฟันแรง บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับจึงไม่ฉกรรจ์ ประกอบกับผู้เสียหายกับจำเลยไม่มีเรื่องหมางใจกันมาก่อน ดังนี้ จำเลยมีเจตนาทำร้ายไม่มีเจตนาฆ่า การที่ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อนถูกอัณฑะโดยไม่มีเหตุผลใด ๆเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยฟันผู้เสียหายไปในทันที ดังนี้ เป็นการกระทำเพราะบันดาลโทสะ