คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชูเชิด รักตะบุตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,129 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในความเสียหายต่อทรัพย์สิน: ชดใช้เฉพาะค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดเท่านั้น
การกระทำละเมิดต่อ ทรัพย์สินของผู้อื่น ผู้กระทำละเมิดจำต้องใช้ ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่ทำละเมิดนั้น เมื่อจำเลยกระทำละเมิดทำให้ตอม่อ สะพานของโจทก์เสียหาย จำเลยก็ต้อง ใช้ ค่าสินไหมทดแทนในการกระทำดังกล่าวเท่านั้น โจทก์จะให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการรื้อสะพานนั้นหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำนองในทรัพย์มรดก: ทายาทรับโอนพร้อมภาระหนี้ แต่มีสิทธิเรียกร้องคืนจากผู้ก่อหนี้
เมื่อที่ดินแปลงหนึ่งของทรัพย์มรดกติด จำนองประกันหนี้ของ น.ทายาทคนหนึ่งอยู่ ทายาทผู้รับมรดกจึงต้อง รับภาระในหนี้จำนองโดย รับโอนที่ดินนั้นมาโดย ติด จำนอง ถ้า มีการบังคับจำนองโดย น.ไม่ชำระหนี้แล้ว ทายาทผู้รับมรดกคงรับผิดแต่ เฉพาะ ทรัพย์มรดกที่ตน รับโอนมา หรือหากตน ต้อง ชำระหนี้จำนองไปเท่าใดก็ชอบที่จะได้รับเงินใช้ คืนจาก น. ได้ ตาม สิทธิที่ได้รับ โอนมาจากเจ้ามรดกทายาทไม่มีสิทธิบังคับให้ น. ทำการไถ่ถอนจำนองหรือยกข้ออ้างในการที่ น. ไม่ทำการไถ่ถอนจำนองมาเป็นเหตุขัดข้องมิให้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทายาทรับมรดกติดจำนอง: รับภาระหนี้จำนองเฉพาะส่วนที่รับโอน, สิทธิเรียกร้องคืนจากผู้ก่อหนี้
เมื่อที่ดินแปลงหนึ่งของทรัพย์มรดกติด จำนองประกันหนี้ของ น.ทายาทคนหนึ่งอยู่ ทายาทผู้รับมรดกจึงต้อง รับภาระในหนี้จำนองโดย รับโอนที่ดินนั้นมาโดย ติด จำนอง ถ้า มีการบังคับจำนองโดย น.ไม่ชำระหนี้แล้ว ทายาทผู้รับมรดกคงรับผิดแต่ เฉพาะ ทรัพย์มรดกที่ตน รับโอนมา หรือหากตน ต้อง ชำระหนี้จำนองไปเท่าใดก็ชอบที่จะได้รับเงินใช้ คืนจาก น. ได้ ตาม สิทธิที่ได้รับ โอนมาจากเจ้ามรดกทายาทไม่มีสิทธิบังคับให้ น. ทำการไถ่ถอนจำนองหรือยกข้ออ้างในการที่ น. ไม่ทำการไถ่ถอนจำนองมาเป็นเหตุขัดข้องมิให้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกติดจำนอง: ทายาทรับภาระหนี้จำนองตามส่วนรับมรดก, ไม่สามารถบังคับให้ทายาทลูกหนี้ไถ่ถอนได้
เมื่อที่ดินแปลงหนึ่งของทรัพย์มรดกติดจำนองประกันหนี้ของ น. ทายาทคนหนึ่งอยู่ ทายาทผู้รับมรดกจึงต้องรับภาระในหนี้จำนองโดยรับโอนที่ดินนั้นมาโดยติดจำนองถ้ามีการบังคับจำนองโดย น. ไม่ชำระหนี้แล้ว ทายาทผู้รับมรดกคงรับผิดแต่เฉพาะทรัพย์มรดกที่ตนรับโอนมา หรือหากตนต้องชำระหนี้จำนองไปเท่าใดก็ชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจาก น. ได้ตามสิทธิที่ได้รับโอนมาจากเจ้ามรดก ทายาทไม่มีสิทธิบังคับให้ น. ทำการไถ่ถอนจำนองหรือยกข้ออ้างในการที่ น. ไม่ทำการไถ่ถอนจำนองมาเป็นเหตุขัดข้องมิให้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกโดยมีภาระจำนอง ทายาทต้องรับภาระตามสิทธิและหน้าที่ของเจ้ามรดก
เมื่อที่ดินแปลงหนึ่งของทรัพย์มรดกติดจำนองประกันหนี้ของน. ทายาทคนหนึ่งอยู่ ทายาทผู้รับมรดกจึงต้องรับภาระในหนี้จำนองโดยรับโอนที่ดินนั้นมาโดยติดจำนอง ถ้ามีการบังคับจำนองโดย น.ไม่ชำระหนี้แล้วทายาทผู้รับมรดกคงรับผิดแต่เฉพาะทรัพย์มรดกที่ตนรับโอนมา หรือหากตนต้องชำระหนี้จำนองไปเท่าใดก็ชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจาก น. ได้ตามสิทธิที่ได้รับโอนมาจากเจ้ามรดกทายาทไม่มีสิทธิบังคับให้ น. ทำการไถ่ถอนจำนองหรือยกข้ออ้างในการที่ น. ไม่ทำการไถ่ถอนจำนองมาเป็นเหตุขัดข้องมิให้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์โจทก์แล้วสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย โจทก์ไม่ได้นำส่งเองโดยเพียงแต่เสียค่าธรรมเนียมและค่าป่วยการในการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่เจ้าพนักงานเดินหมายเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เมื่อส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ก็มิได้แถลงต่อศาลภายในกำหนดจนเจ้าหน้าที่ทำรายงานเสนอศาลเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง 24 วันแล้ว ถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่แถลงให้ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนดโดยโจทก์ทราบคำสั่งโดยชอบแล้วเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
กำหนดเวลาที่ให้โจทก์แถลงเรื่องการส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 7 วัน นั้น ศาลให้นับตั้งแต่วันส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้หาใช่นับตั้งแต่วันที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ และเมื่อศาลกำหนดให้โจทก์เป็นผู้นำส่งสำเนาอุทธรณ์แล้วโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องคอยติดตามทราบผลการส่งหมายจากเจ้าหน้าที่ศาลเอง เจ้าหน้าที่ศาลหามีหน้าที่ต้องแจ้งผลการส่งหมายให้โจทก์ทราบก่อนไม่.(ที่มาส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์โจทก์แล้วสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย โจทก์ไม่ได้นำส่งเองโดยเพียงแต่เสียค่าธรรมเนียมและค่าป่วยการในการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่เจ้าพนักงานเดินหมายเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เมื่อส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ก็มิได้แถลงต่อศาลภายในกำหนดจนเจ้าหน้าที่ทำรายงานเสนอศาลเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง ๒๔ วันแล้ว ถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่แถลงให้ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนดโดยโจทก์ทราบคำสั่งโดยชอบแล้วเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
กำหนดเวลาที่ให้โจทก์แถลงเรื่องการส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน ๗ วัน นั้น ศาลให้นับตั้งแต่วันส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้หาใช่นับตั้งแต่วันที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ และเมื่อศาลกำหนดให้โจทก์เป็นผู้นำส่งสำเนาอุทธรณ์แล้วโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องคอยติดตามทราบผลการส่งหมายจากเจ้าหน้าที่ศาลเอง เจ้าหน้าที่ศาลหามีหน้าที่ต้องแจ้งผลการส่งหมายให้โจทก์ทราบก่อนไม่.(ที่มาส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์เอง & ผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล & การทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์โจทก์แล้วสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย โจทก์ไม่ได้นำส่งเองโดยเพียงแต่เสียค่าธรรมเนียมและค่าป่วยการในการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่เจ้าพนักงานเดินหมายเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เมื่อส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยไม่ได้โจทก์ก็มิได้แถลงต่อศาลภายในกำหนดจนเจ้าหน้าที่ทำรายงานเสนอศาลเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง 24 วันแล้ว ถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่แถลงให้ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนดโดยโจทก์ทราบคำสั่งโดยชอบแล้ว เป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ กำหนดเวลาที่ศาลให้โจทก์แถลงภายใน 7 วันนับแต่วันส่งสำเนาอุทธรณ์ไม่ได้นั้น ให้นับตั้งแต่วันส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้หาใช่วันที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ และเมื่อศาลกำหนดให้โจทก์เป็นผู้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องคอยติดตามทราบผลการส่งหมายจากเจ้าหน้าที่ศาลเอง เจ้าหน้าที่ศาลหามีหน้าที่ต้องแจ้งผลการส่งหมายให้โจทก์ทราบก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันนัดสืบพยานไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การพิจารณาคดีไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดสืบพยานให้โจทก์ทราบล่วงหน้าเพียง 2 วัน ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 184 วรรคแรกซึ่งบัญญัติให้ศาลต้องออกหมายกำหนดวันสืบพยานให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งนัดสืบพยานที่ไม่เป็นไปตามกำหนดระยะเวลาในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นแจ้งวัดนัดสืบพยานให้โจทก์ทราบล่วงหน้าเพียง ๒ วันขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา๑๘๔ วรรคแรก ซึ่งบัญญัติให้ศาลต้องออกหมายกำหนดวันสืบพยานให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า ๓ วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ.
of 113