พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,129 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5244/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมโดยการท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงเฉพาะประเด็น ศาลต้องวินิจฉัยตามข้อตกลงเดิม
คู่ความตกลงกันให้จำเลยพิสูจน์เพียงประเด็นเดียวว่า หากตามพยานหลักฐานที่จำเลยส่งอ้างฟังได้ว่าที่ดินตามโฉนดที่พิพาทเป็นที่สวนทั้งแปลงมาแต่ครั้งบรรพบุรุษชื่อ จ. ถือกรรมสิทธิ์แล้วให้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี ทั้งนี้ โดยขอให้ผู้พิพากษาทั้งศาลรวม 6 นายทำการออกเสียงชี้ขาด ดังนี้ เป็นการมอบให้ผู้พิพากษาทั้งศาลในศาลชั้นต้นเท่านั้นเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริง เมื่อผู้พิพากษาเสียงข้างมากในศาลชั้นต้นออกเสียงชี้ขาดว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สวนมาแต่ครั้งบรรพบุรุษของจำเลย จำเลยจึงเป็นฝ่ายชนะตามคำท้า โจทก์จะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่แทนข้อเท็จจริงที่ผู้พิพากษาทั้งศาลในศาลชั้นต้นออกเสียงชี้ขาดมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4804/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จต้องมีผู้เสียหายโดยตรง หากไม่มีสิทธิฟ้องอาญาฐานเบิกความเท็จ
ความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177กฎหมายคุ้มครองเจ้าพนักงานในการยุติธรรมและคู่ความให้ได้รับผลในทางความยุติธรรมแห่งคดีเป็นสำคัญ ไม่เกี่ยวกับบุคคลนอกคดีนอกจากนี้ยังจะต้องพิจารณาอีกด้วยว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลยหรือไม่ โจทก์ในคดีนี้ไม่ได้ถูกฟ้องหรือเป็นคู่ความคดีอาญาในข้อหาบุกรุก แม้จำเลยจะเบิกความในคดีนั้นว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่โจทก์จะได้รับความเสียหายจากคำเบิกความของจำเลยโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากคำเบิกความของจำเลยและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 28(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4545/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา: พยานหลักฐานมั่นคง, การต่อสู้, และอำนาจสั่งให้สืบพยานเพิ่มเติม
ในคดีอาญา ศาลสั่งให้งดสืบพยานโจทก์ที่ไม่มาศาลไปแล้วต่อมาระหว่างสืบพยานจำเลย พยานมาศาล เนื่องจากเป็นประจักษ์พยานโจทก์เพียงปากเดียวที่รู้เห็นเกี่ยวกับประเด็นในคดีศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้สืบพยานดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4537/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดเบิกความเท็จ: สิทธินำคดีอาญาไม่ระงับหากคำพิพากษาเดิมยกฟ้องเนื่องจากคำฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์เคยฟ้องจำเลยในข้อหาเบิกความเท็จมาครั้งหนึ่งแล้วคดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์บรรยายแต่เฉพาะข้อความที่อ้างว่าจำเลยเบิกความเท็จ ไม่ได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไรจะฟังว่าจำเลยเบิกความเท็จยังไม่ได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด เป็นการยกฟ้องเนื่องจากคำฟ้องไม่ได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดถึงการกระทำผิดของจำเลย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับ โจทก์ฟ้องใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4481/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการถอนตัวทนายความ ศาลชอบที่จะไม่อนุญาตและงดสืบพยาน
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าป่วยศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยได้กำชับให้เตรียมพยานมาศาลให้พร้อมเพราะจะไม่เลื่อนคดีให้อีก เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยกลับให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสองมายื่นแทน แต่มิได้แจ้งการถอนตัวให้ตัวความทราบโดยข้ออ้างที่ว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยทั้งสองได้มาซึ่งไม่น่าเชื่อ พฤติการณ์ถือได้ว่าฝ่ายจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้าการที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสองและงดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4437/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันการกระทำความผิดฐานข่มขืนและฆ่าเพื่อปกปิดความผิด
ผู้ตายขี่จักรยานสองล้อไปเก็บผักบุ้งบริเวณท้องนา ต่อมาพบผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราใกล้กับสถานีทดลองข้าวซึ่งจำเลยทำงานอยู่พบเส้นผมประมาณ 20 - 30 เส้น กับขนที่อวัยวะเพศ 1 เส้น ตกอยู่ที่กองเลือดในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำตัวอย่างเส้นผมและขนอวัยวะเพศของจำเลยและของคนงานสถานีทดลองข้าวดังกล่าวรวม 8 คน ไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับเส้นผมและขนจากอวัยวะเพศของกลาง ผลการตรวจลักษณะภายนอกและการตรวจน้ำเหลืองทางวิทยาเชื่อว่าเส้นผมบางเส้นและขนจากอวัยวะเพศของกลางเป็นของจำเลย โดยมีนายแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์มาเบิกความรับรองว่า วิธีการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวสามารถยืนยันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังพบร่องรอยบาดแผลขีดข่วนที่ร่างกายของจำเลยอีกหลายแห่งอันเกิดจากการดิ้นรนต่อสู้ของผู้ตาย ดังนี้ พยานหลักฐานโจทก์ฟังลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก, 289 (7) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4437/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ความผิดฐานข่มขืนและฆ่าเพื่อปกปิดความผิด
ผู้ตายขี่รถจักรยานสองล้อไปเก็บผักบุ้งบริเวณท้องนาต่อมาพบผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราใกล้กับสถานีทดลองข้าวซึ่งจำเลยทำงานอยู่ พบเส้นผมประมาณ 20-30 เส้น กับขนที่อวัยวะเพศ 1 เส้นตกอยู่ที่กองเลือดในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำตัวอย่างเส้นผมและขนจากอวัยวะเพศของจำเลยและของคนงานสถานีทดลองข้าวดังกล่าวรวม 8 คน ไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับเส้นผมและขนจากอวัยวะเพศของกลาง ผลการตรวจลักษณะภายนอกและการตรวจน้ำเหลืองทางวิทยาเชื่อว่า เส้นผมบางเส้นและขนจากอวัยวะเพศของกลางเป็นของจำเลยโดยมีแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์มาเบิกความรับรองว่า วิธีการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวสามารถยืนยันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังพบร่องรอยบาดแผลขีดข่วนที่ร่างกายของจำเลยอีกหลายแห่งอันเกิดจากการดิ้นรนต่อสู้ของผู้ตาย ดังนี้ พยานหลักฐานโจทก์ฟังลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคแรก,289(7) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4392-4393/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: ละเว้นหน้าที่โดยทุจริต และรับรองเท็จ เจ้าหน้าที่ป่าไม้
จำเลยที่ 1 เป็นที่ดินอำเภอได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจสอบไม้ในที่ดิน น.ส.3 มีหน้าที่ออกไปตรวจสอบว่า มีไม้ขึ้นอยู่ในที่ดินแปลงที่ขออนุญาตทำไม้หรือไม่ แต่จำเลยที่ 1 ไม่ได้ออกไปตรวจสอบ อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อรับรองในบันทึกการตรวจสอบไม้ว่า เห็นสมควรให้ทำไม้ยางออกจากที่ดิน น.ส.3 ได้ เป็นการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้ออกไปตรวจสอบไม้ดังกล่าวอันเป็นความเท็จ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 (1) ซึ่งเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ โดยมีเจตนาเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นในคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4340/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการเรียกร้องราคาสินค้าที่เป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม
จำเลยสั่งซื้อยางวัตถุดิบและท่อยางซึ่งเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อนำไปใช้ในโรงงานที่มีการผลิตสินค้าจำหน่าย ถือได้ว่าเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ โจทก์ฟ้องเรียกราคาค่าสินค้าได้ภายในอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3828/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาในศาลจังหวัดตามวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง และการวินิจฉัยขาดเจตนาทำให้ไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136,137,326 และ 328 อันเป็นคดีที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี แม้โจทก์จะยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดก็ต้องนำวิธีพิจารณาความอาญาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติ ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำโดยขาดเจตนามีผลให้จำเลยไม่ต้องรับผิดในทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ดังนั้นการวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของโจทก์ที่ว่าการกระทำของโจทก์จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 หรือไม่ จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ ข้อกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระ ในการไต่สวนมูลฟ้องแม้จะได้ความว่าจำเลยได้กระทำการตามฟ้องแต่เมื่อศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นความผิดไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยขาดเจตนาหรือมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิด ศาลก็ชอบที่จะทำการวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องไปได้เลยไม่จำเป็นต้องประทับฟ้องไว้แล้วไปพิพากษายกฟ้องในภายหลัง