คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชูเชิด รักตะบุตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,129 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3862/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความรุนแรงของการบาดเจ็บทางร่างกายเพื่อพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
ผู้เสียหายถูกตีที่ชายโครงซ้าย เกิดเหตุแล้ว 7 - 8 วันก็ไปตามงานตามปกติ ภายหลังจากเกิดเหตุ 17 วัน ได้ไปหาแพทย์ เอกซเรย์แล้วพบว่ากระดูกซี่โครงซ้ายร้าว 2 ซี่ แพทย์จ่ายยาให้ไปรับประทานที่บ้านมิได้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยแพทย์มีความเห็นว่าจะต้องรักษาเกินกว่า 21 วันจึงหาย ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (8) จำเลยคงมีความผิดตามมาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3862/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความรุนแรงของการบาดเจ็บเพื่อกำหนดความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
ผู้เสียหายถูกตีที่ชายโครงซ้ายเกิดเหตุแล้ว7-8วันก็ไปตามงาน ตามปกติภายหลังจากเกิดเหตุ17วันได้ไปหาแพทย์ เอกซเรย์แล้วพบว่า กระดูกซี่โครงซ้ายร้าว2ซี่แพทย์จ่ายยาให้ไปรับประทานที่บ้านมิได้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลโดยแพทย์มีความเห็นว่าจะต้องรักษาเกินกว่า 21 วันจึงหายดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บ ด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า20 วันหรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติ ไม่ได้เกินกว่า20 วันตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) จำเลยคงมีความผิดตามมาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันในความผิดหลายกระทงที่เกิดจากการกระทำความผิดเดียวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเฮโรอีน จำคุก 1 ปีฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอมิให้รอการลงโทษฐานเสพเฮโรอีนไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายฉบับเดียวกันในคราวเดียวกัน แม้จะเป็น ความผิด 2 กระทง หากศาลจะรอการลงโทษหรือไม่รอการลงโทษก็ควรจะเป็นอย่างเดียวกัน มิใช่กระทงหนึ่งรอการลงโทษ แต่อีกกระทงหนึ่งไม่รอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษที่ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับความผิดหลายกระทงที่เกิดจากกฎหมายฉบับเดียวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเฮโรอีนจำคุก 1 ปี ฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็น ให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอมิให้รอการลงโทษ ฐานเสพเฮโรอีนไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายฉบับเดียวกันในคราวเดียวกัน แม้จะเป็น ความผิด2กระทงหากศาลจะรอการลงโทษหรือไม่รอการลงโทษก็ควรจะเป็น อย่างเดียวกันมิใช่กระทงหนึ่งรอการลงโทษแต่อีกกระทงหนึ่งไม่รอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3803/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่เคลือบคลุมในคดีละเมิดจากการหลอกลวงให้เชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินโดยมิชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมาขอกู้ยืมเงินจากโจทก์ โดยเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันโจทก์ตกลง ให้กู้ยืมแต่เห็นว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวมีชื่ออ. เป็นเจ้าของที่ดิน จึงมอบหนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่กรอกข้อความ แล้วให้จำเลยเอาไปให้อ.ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้ จำเลยนำ หนังสือสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวไปแล้วนำมาคืนให้โจทก์โดยใช้อุบาย หลอกลวงโจทก์ว่าอ.ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้แล้วโจทก์หลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลยและยึดถือหนังสือสัญญากู้ยืมเงินไว้ต่อมาเมื่อหนี้ ตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงินถึงกำหนดชำระแล้ว โจทก์ทวงถามให้ อ. ชำระหนี้แต่อ. ปฏิเสธว่าไม่เคยกู้ยืมเงินโจทก์ลายมือชื่อ อ. ในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเป็นลายมือชื่อปลอมการที่จำเลยใช้อุบาย หลอกลวงโจทก์ให้หลงเชื่อดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องเป็นเรื่องที่ขอให้ จำเลยรับผิดในมูลละเมิด เป็นคำฟ้องที่แสดงสภาพแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตลอดจนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยแจ้งชัด แม้จะมิได้ส่งสำเนาเอกสารที่กล่าวในคำบรรยายฟ้องมาพร้อม คำฟ้องด้วยคำฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3803/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องละเมิดจากการหลอกลวงให้เชื่อว่ามีการลงนามในสัญญากู้ยืมเงิน คำฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมาขอกู้ยืมเงินจากโจทก์ โดยเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันโจทก์ตกลงให้กู้ยืมแต่เห็นว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวมีชื่อ อ. เป็นเจ้าของที่ดิน จึงมอบหนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่กรอกข้อความแล้วให้จำเลยเอาไปให้ อ. ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้ จำเลยนำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวไปแล้วนำมาคืนให้โจทก์โดย ใช้อุบาย หลอกลวงโจทก์ว่า อ. ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้แล้ว โจทก์หลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลยและยึดถือหนังสือสัญญากู้ยืมเงินไว้ ต่อมาเมื่อหนี้ตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงินถึงกำหนดชำระแล้ว โจทก์ทวงถามให้ อ. ชำระหนี้แต่ อ. ปฏิเสธว่าไม่เคยกู้ยืมเงินโจทก์ ลายมือชื่อ อ. ในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเป็นลายมือชื่อปลอม การที่จำเลยใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ให้หลงเชื่อดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องเป็นเรื่องที่ขอให้จำเลยรับผิดในมูลละเมิด เป็นคำฟ้องที่แสดงสภาพแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตลอดจนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยแจ้งชัด แม้จะมิได้ส่งสำเนาเอกสารที่กล่าวในคำบรรยายฟ้องมาพร้อม คำฟ้องด้วย คำฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3789/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: การยื่นฟ้องนอกภูมิลำเนาจำเลยด้วยเหตุผลพิเศษ และการใช้ดุลพินิจของศาล
จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดศรีสะเกษ แต่โจทก์ยื่นคำฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นศาลที่มูลคดีเกิด ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีสั่งคำร้องนี้ว่า "รวม" และรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยเพื่อแก้คดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาจนกระทั่งเสร็จการพิจารณา ถือว่าศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้อง ต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(2) ศาลจังหวัดอุบลราชธานีจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3789/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: การยื่นฟ้องนอกภูมิลำเนาจำเลย โดยอ้างเหตุผลมูลคดีเกิดที่อื่น ศาลมีดุลพินิจอนุญาตได้
จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดศรีสะเกษ แต่โจทก์ยื่นคำฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาต ยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นศาลที่มูลคดีเกิด ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีสั่งคำร้องนี้ว่า'รวม' และรับคำฟ้อง ของโจทก์ไว้พิจารณา ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลย เพื่อแก้คดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาจนกระทั่งเสร็จการพิจารณา ถือว่าศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้อง ต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา4(2) ศาลจังหวัดอุบลราชธานีจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างเจ้าของทรัพย์ที่เสียหายไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยทำให้เสื่อมค่าไร้ประโยชน์ เป็นของ ส. แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นทรัพย์ของ ศ. เกิดเหตุในร้านของ ศ. ซึ่ง ส. อาศัยอยู่และขณะนั้น ส.อยู่ในร้านด้วย ก็ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะยกฟ้องในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ด้วยข้อแตกต่างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะนำสืบอ้างฐานที่อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์: เจ้าของทรัพย์ที่เสียหายต่างจากผู้เสียหายที่ฟ้องร้อง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยทำให้เสื่อมค่าไร้ประโยชน์ เป็นของส. แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นทรัพย์ของ ศ. เกิดเหตุในร้านของศ.ซึ่งส.อาศัย อยู่และขณะนั้นส.อยู่ในร้านด้วย ก็ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะยกฟ้องในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ด้วย ข้อแตกต่างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะนำสืบอ้างฐานที่อยู่
of 113