คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชูเชิด รักตะบุตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,129 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำผิดสำคัญกว่าลำดับเหตุการณ์ การลาออกก่อนสมัครย่อมไม่มีเจตนาทุจริต
หนังสือลาออกของจำเลยระบุชัดเจนว่าขอลาออกจากตำแหน่งกำนันก่อนที่จะยื่นใบสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดดังนั้น แม้หนังสือลาออกของจำเลยจะไปถึงจังหวัดและจำเลยได้รับการอนุมัติให้ออกจากตำแหน่งหลังจากที่จำเลยยื่นใบสมัครแล้วก็ตาม ก็เป็นการปฏิบัติของทางราชการจำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการขาดเจตนาจำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายไม้ไม่ครบถ้วนและการเลิกสัญญาโดยปริยาย อายุความฟ้องร้อง
จำเลยตกลงขายไม้ให้โจทก์ 6,000 ลูกบาศก์ฟุต โดยกำหนดส่งมอบไม้เป็น 2 งวด งวดละ 3,000 ลูกบาศก์ฟุตจำเลยส่งมอบไม้ให้โจทก์รับไปแล้ว 3,300 ลูกบาศก์ฟุตส่วนที่เหลือยังมิได้มีการส่งมอบ โจทก์จึงฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบไม้ที่เหลือหรือใช้ค่าเสียหาย ดังนี้เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบไม้ที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์จนครบตามสัญญา มิใช่เป็นการฟ้องให้รับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนจะนำอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 467 มาใช้บังคับไม่ได้
จำเลยส่งมอบไม้ตามสัญญาซื้อขายให้โจทก์แล้วบางส่วน และต่อมาขอส่งมอบส่วนที่เหลือ โจทก์ขอลดราคา จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงไม่รับมอบไม้ซึ่งจำเลยพร้อมที่จะส่งมอบให้โจทก์ตามสัญญา จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 7 เดือน ไม้ในท้องตลาดขึ้นราคาโจทก์จึงทวงถามจำเลยให้ส่งมอบไม้ที่เหลือ ดังนี้ถือได้ว่าการซื้อขายเป็นอันเลิกกันโดยปริยายแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์: การขุดดินเพื่อปลูกกล้วยไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้เสียหายทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น จึงจะเป็นความผิด
การที่จำเลยเช่าที่นาของผู้เสียหายเพื่อทำนามานานประมาณ 20 ปี ต่อมากล้วยมีราคาดี จำเลยจึงจ้างคนขุดที่นาบางส่วนเพื่อปลูกกล้วยมิได้มีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้เสียหาย เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ จึงไม่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์: การขุดดินเพื่อปลูกกล้วยไม่ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์หากไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้เสียหายทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น จึงจะเป็นความผิด
การที่จำเลยเช่าที่นาของผู้เสียหายเพื่อทำนามานานประมาณ 20 ปี ต่อมากล้วยมีราคาดี จำเลยจึงจ้างคนขุดที่นาบางส่วนเพื่อปลูกกล้วยมิได้มีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้เสียหาย เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ จึงไม่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2565/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินหลังแบ่งแยกกรรมสิทธิ์และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 และมาตรา 1312เป็นบทบัญญัติเรื่องที่ผู้สร้างมิได้รู้ว่า ที่ดินที่สร้างโรงเรือนหรือสร้างรุกล้ำนั้นเป็นที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต จะนำมาใช้ในกรณีจำเลยสร้างโรงเรือนในที่ดินขณะยังเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างโจทก์จำเลยและบุคคลอื่นอยู่ หลังจากรังวัดแบ่งแยกที่ดินแล้วปรากฏว่า เรือนจำเลยปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ไม่ได้ จำเลยต้องรื้อเรือนออกไป และไม่มีสิทธิฟ้องร้องว่ากล่าวเกี่ยวกับค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะการสร้างโรงเรือนของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2452/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ารถยนต์: ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายจากการประมาท และการใช้สัญญาเดิมหลังโอนกิจการ
สัญญาเช่ารถยนต์เป็นสัญญาเดิมที่ทำขึ้นระหว่างบริษัทมหานครขนส่ง จำกัด กับโจทก์ ต่อมาเมื่อจำเลยตั้งขึ้นเป็นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับโอนกิจการและทรัพย์สินของบริษัทมหานครขนส่ง จำกัด มาดำเนินกิจการ ได้เช่ารถยนต์คันพิพาทสืบต่อมาโดยไม่ได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่จึงนำสัญญาเช่าซึ่งมีอยู่เดิมมาใช้บังคับได้
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้รถที่เช่า รวมถึงความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุและเหตุสุดวิสัย เป็นต้นข้อที่ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชอบในความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้รถที่เช่านั้น หมายความถึงการที่ผู้เช่าใช้รถที่เช่าอย่างปกติธรรมดาตามประเพณีนิยม โดยได้สงวนทรัพย์สินนั้นเช่นวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง ผู้เช่าจึงจะไม่ต้องรับผิดในความเสียหายต่าง ๆ ที่โดยปกติย่อมเกิดขึ้นจากการใช้รถที่เช่า เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้เช่าได้ขับรถยนต์ที่เช่าด้วยความประมาทไปชนกับรถยนต์คันอื่นได้รับความเสียหายอันเป็นการละเมิดจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในความเสียหายของทรัพย์สินที่เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2452/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ารถยนต์ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายจากการประมาท และข้อยกเว้นความรับผิดตามสัญญา
สัญญาเช่ารถยนต์เป็นสัญญาเดิมที่ทำขึ้นระหว่างบริษัทมหานครขนส่ง จำกัด กับโจทก์ ต่อมาเมื่อจำเลยตั้งขึ้นเป็นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับโอนกิจการและทรัพย์สินของบริษัทมหานครขนส่ง จำกัด มาดำเนินกิจการได้เช่ารถยนต์คันพิพาทสืบต่อมา โดยไม่ได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่จึงนำสัญญาเช่าซึ่งมีอยู่เดิมมาใช้บังคับได้
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้รถที่เช่า รวมถึงความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุและเหตุสุดวิสัย เป็นต้นข้อที่ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชอบในความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้รถที่เช่านั้น หมายความถึงการที่ผู้เช่าใช้รถที่เช่าอย่างปกติธรรมดาตามประเพณีนิยม โดยได้สงวนทรัพย์สินนั้นเช่นวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง ผู้เช่าจึงจะไม่ต้องรับผิดในความเสียหายต่าง ๆ ที่โดยปกติย่อมเกิดขึ้นจากการใช้รถที่เช่า เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้เช่าได้ขับรถยนต์ที่เช่าด้วยความประมาทไปชนกับรถยนต์คันอื่นได้รับความเสียหายอันเป็นการละเมิดจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในความเสียหายของทรัพย์สินที่เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: ไม่เป็นเหตุฟ้องระงับการบังคับคดี
การที่โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยตามคำพิพากษาเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ลาภมิควรได้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยงดการบังคับคดีซึ่งจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้ในคดีก่อนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: การบังคับคดีตามคำพิพากษาไม่ถือเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้
การที่โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยตามคำพิพากษา เรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ลาภมิควรได้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยงดการบังคับคดีซึ่งจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้ในคดีก่อนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิโดยสุจริต ผู้รับโอนสิทธิย่อมได้รับการคุ้มครองแม้ผู้ขายจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
โจทก์จำเลยต่างซื้อที่ดินมีโฉนดซึ่งเป็นที่สวน 2 ขนัดมีคันดินขวาง โดยทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน จำเลยซื้อขนัดทางทิศใต้ ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับเจ้าของ 600 ส่วนใน 1,800 ส่วนโจทก์ซื้อในส่วนที่เหลือ โดยต่างก็ยังไม่ได้รังวัดที่ดินจึงได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอแบ่งแยกโฉนด แสดงว่าโจทก์ไม่ทราบว่าจำเลยครอบครองที่ดินมากน้อยเพียงใดเมื่อปรากฏว่าจำเลยครอบครองที่ดินมากกว่า 600 ส่วนใน 1800 ส่วนมาเกินกว่า 10 ปี จนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382แต่จำเลยยังมิได้จดทะเบียน จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตาม มาตรา 1299 วรรค 2
of 113