พบผลลัพธ์ทั้งหมด 949 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการรับรองสำเนาเอกสารโดยเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
จำเลยไม่สามารถส่งมอบครุภัณฑ์ตามสัญญาซื้อขายให้แก่โจทก์จึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญามายังโจทก์ โจทก์มีหนังสือตอบไปว่า(โจทก์เท่านั้นที่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา)หากโจทก์จะบอกเลิกสัญญาโจทก์ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่ายินดีให้โจทก์ดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญาโจทก์จึงได้มีหนังสือตามเอกสารหมาย จ.36 มายังจำเลยว่าโจทก์จะดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญาต่อไป หนังสือตามเอกสารหมาย จ.36 มิใช่หนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย ต่อมาเมื่อโจทก์เรียกประกวดราคาใหม่แล้วจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย ดังนี้ต้องถือเอาวันบอกเลิกสัญญาตามที่ปรากฏในหนังสือบอกเลิกสัญญาฉบับหลัง
โจทก์อ้างสำเนาภาพถ่ายเอกสารซึ่งต้นฉบับอยู่ในความครอบครองของทางราชการ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับห้าของทางราชการดังกล่าวรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นรับฟังเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(3)
โจทก์อ้างสำเนาภาพถ่ายเอกสารซึ่งต้นฉบับอยู่ในความครอบครองของทางราชการ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับห้าของทางราชการดังกล่าวรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นรับฟังเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการรับฟังพยานหลักฐานสำเนาเอกสารที่ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่รัฐ
จำเลยไม่สามารถส่งมอบครุภัณฑ์ตามสัญญาซื้อขายให้แก่โจทก์ จึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญามายังโจทก์ โจทก์มีหนังสือตอบไปว่า(โจทก์เท่านั้นที่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา)หากโจทก์จะบอกเลิกสัญญาโจทก์ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญา จำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่ายินดีให้โจทก์ดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญาโจทก์จึงได้มีหนังสือตามเอกสารหมาย จ.36 มายังจำเลยว่าโจทก์จะดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งสัญญาต่อไป หนังสือตามเอกสารหมาย จ.36 มิใช่หนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย ต่อมาเมื่อโจทก์เรียกประกวดราคาใหม่แล้วจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย ดังนี้ ต้องถือเอาวันบอกเลิกสัญญาตามที่ปรากฏในหนังสือบอกเลิกสัญญาฉบับหลัง
โจทก์อ้างสำเนาภาพถ่ายเอกสารซึ่งต้นฉบับอยู่ในความครอบครองของทางราชการ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับห้าของทางราชการดังกล่าวรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้น สำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นรับฟังเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(3)
โจทก์อ้างสำเนาภาพถ่ายเอกสารซึ่งต้นฉบับอยู่ในความครอบครองของทางราชการ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับห้าของทางราชการดังกล่าวรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้น สำเนาภาพถ่ายเอกสารนั้นรับฟังเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำฟ้องหลังสืบพยาน, ที่ดินพิพาท, การออกโฉนดทับที่ดินเดิม ศาลฎีกายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินโฉนดเลขที่ 488 หลังจากจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว โจทก์ขอแก้เลขที่โฉนดเป็น 448 เมื่อปรากฏว่าฟ้องนอกจากอ้างเลขโฉนดแล้ว ยังได้อ้างเลขที่ดินเลขหน้าสำรวจ เล่มที่และหน้า ซึ่งตรงกับโฉนดเลขที่ 448 แสดงว่าโจทก์อ่านเลขโฉนดผิด การแก้ไขดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 ศาลอนุญาตให้แก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องมีการตกลงสละอำนาจอย่างชัดแจ้ง
การที่โจทก์เพิ่งจะมีอำนาจปกครองร่วมกับจำเลยก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพียงเดือนเศษ ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยมีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายชัยแสง (โจทก์) ยอมรับเป็นผู้อุปการะส่งเสียบุตรทั้ง 3 คน ให้เล่าเรียนจนกว่าจะสำเร็จ ตามความสามารถของแต่ละคน โดยจะส่งเข้าโรงเรียนประจำกินนอน" ยังไม่อาจถือได้ว่าจำเลยยอมสละอำนาจปกครองบุตรแล้วโดยปริยาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ สัญญาไม่ได้ระบุสละอำนาจชัดแจ้ง
การที่โจทก์เพิ่งจะมีอำนาจปกครองร่วมกับจำเลยก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพียงเดือนเศษ ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยมีข้อความว่า 'ข้าพเจ้านายชัยแสง (โจทก์) ยอมรับเป็นผู้อุปการะส่งเสียบุตรทั้ง3 คน ให้เล่าเรียนจนกว่าจะสำเร็จ ตามความสามารถของแต่ละคน โดยจะส่งเข้าโรงเรียนประจำกินนอน' ยังไม่อาจถือได้ว่าจำเลยยอมสละอำนาจปกครองบุตรแล้วโดยปริยาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแทนบุตรและข้อจำกัดการฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท
จำเลยขับรถยนต์ชนรถจักรยานสองล้อเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ที่ 1 ตาย และโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรอีกคนหนึ่งบาดเจ็บเมื่อโจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 2 ด้วย ก็ต้องแยกทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนออกจากกันเมื่อจำนวน ทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนไม่เกิน 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. ม.248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันตามสัญญาต่างตอบแทน, การปฏิบัติตามสัญญาโดยรวม, การบังคับตามสัญญา
แม้สัญญาเอกสารหมาย ล.3 ข้อ 10 ระบุไว้ว่า 'ข้อตกลงใดที่กระทำด้วยวาจานอกเหนือจากที่บันทึกไว้แล้วนี้ต่อหน้านายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ทนายความ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มอบให้เป็นผู้ดำเนินการประนีประนอมจนเกิดเป็นข้อตกลงนี้ทั้งหมด ให้นายพิเชษฐพันธุ์วิชาติกุล เป็นผู้ชี้ขาด'แต่เมื่อสัญญานี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย อันมีผลให้โจทก์จำเลยต่างได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาดังกล่าว ดังนั้นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยด้วยวาจาอย่างใดที่มิได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในสัญญานี้คู่ความจะนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข)
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้น เมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้น เมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การบังคับตามสัญญาต่างตอบแทน และผลของการผิดสัญญา
แม้สัญญาเอกสารหมาย ล.3 ข้อ 10 ระบุไว้ว่า "ข้อตกลงใดที่กระทำด้วยวาจานอกเหนือจากที่บันทึกไว้แล้วนี้ต่อหน้านายพิเชษฐพันธุ์วิชาติกุล ทนายความ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มอบให้เป็นผู้ดำเนินการประนีประนอมจนเกิดเป็นข้อตกลงนี้ทั้งหมด ให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุลเป็นผู้ชี้ขาด" แต่เมื่อสัญญานี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย อันมีผลให้โจทก์จำเลยต่างได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาดังกล่าว ดังนั้นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยด้วยวาจาอย่างใดที่มิได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในสัญญานี้คู่ความจะนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 (ข)
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการขอพิจารณาคดีใหม่ จำเลยต้องดำเนินการภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
การที่จำเลยรับคำบังคับแล้วเข้าใจว่าต้องคอยพบเจ้าพนักงานมาติดต่อและจำเลยต้องดูแลกิจการซ่อมรถ หากกิจการหยุดชะงักลงจะได้รับความเสียหาย ครั้นจำเลยไปกรุงเทพมหานครเพื่อซื้ออะไหล่ซ่อมรถ ได้ติดต่อที่ศาลแพ่งจึงทราบว่าถูกฟ้องแต่เป็นเวลาใกล้หมดเวลาทำการของศาลแล้ว ไม่สามารถติดต่อทนายความให้ยื่นคำขอพิจารณาใหม่ได้ทันในวันนั้น มิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และแม้จำเลยสามารถหาทนายความให้ยื่นคำขอพิจารณาใหม่ได้ทันก็ล่วงพ้นเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดยื่นคำให้การและพิจารณาคดี การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องดำเนินการภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้มีเหตุสุจริต
การที่จำเลยรับคำบังคับแล้วเข้าใจว่าต้องคอยพบเจ้าพนักงานมาติดต่อและจำเลยต้องดูแลกิจการซ่อมรถ หากกิจการหยุดชะงักลงจะได้รับความเสียหาย ครั้นจำเลยไปกรุงเทพมหานครเพื่อซื้ออะไหล่ซ่อมรถ ได้ติดต่อที่ศาลแพ่งจึงทราบว่าถูกฟ้องแต่เป็นเวลาใกล้หมดเวลาทำการของศาลแล้ว ไม่สามารถติดต่อทนายความให้ยื่นคำขอพิจารณาใหม่ได้ทันในวันนั้น มิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และแม้จำเลยสามารถหาทนายความให้ยื่นคำขอพิจารณาใหม่ได้ทัน ก็ล่วงพ้นเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว