คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สหัส สิงหวิริยะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 949 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2803/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีและจำหน่ายอาวุธปืนเพื่อการค้าเป็นกรรมเดียว
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 24 เป็นบทบัญญัติความผิดสำหรับผู้ที่มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยเฉพาะอันมีอัตราโทษหนักกว่าผู้ที่กระทำผิดฐานมีอาวุธปืนทั่วไป ซึ่งไม่ใช่เพื่อการค้าเมื่ออาวุธปืนที่จำเลยมีและจำหน่ายสำหรับการค้านี้เป็นปืนจำนวนเดียวกัน และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีอาวุธปืนอื่นอีกจึงลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้
การมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 24 เป็นกรรมในบทมาตราเดียวกัน การที่จำเลยจะจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าได้ จำเลยย่อมจะต้องมีอาวุธปืนนั้นไว้ในครอบครองอยู่ก่อนเมื่อจำเลยมีอาวุธปืนสำหรับการค้าและจำหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวไปทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีอาวุธปืนสำหรับการค้าเหลืออยู่ในความครอบครองของจำเลยอีก ดังนั้นการที่จำเลยมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกรรมเดียว จำเลยจึงมีความผิดฐานจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องซ้ำคดีเดิมที่ศาลไม่รับคำร้อง และการขาดอายุความในการฟ้องร้อง
ผู้ร้องทั้งสี่เคยร่วมกับพวกอีกสองคนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ส.นายกสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 17 ได้ดำเนินการเลือกตั้งสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 18 ไปโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมให้เพิกถอนคณะกรรมการชุดนี้ออกจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมใหม่โดยเร็ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรรมการชุดที่ 18 ขอจดทะเบียนอยู่ กองบังคับการตำรวจสันติบาลให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่จำต้องสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และศาลก็ไม่มีหน้าที่สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่กับพวกคดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีนี้อีก โดยบรรยายข้อเท็จจริงในคำร้องคดีนี้ทำนองเดียวกับข้อเท็จจริงที่บรรยายในคำร้องคดีก่อนเพียงแต่มีคำขอท้ายคำร้องเพี้ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย ย่อมเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องทั้งสี่มาร้องเป็นคดีนี้อีกด้วยเหตุอย่างเดียวกันและคำขอทำนองเดียวกัน จึงเป็นการร้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องซ้ำในคดีเลือกตั้งกรรมการสมาคม และการขาดอายุความตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องทั้งสี่เคยร่วมกับพวกอีกสองคนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ส.นายกสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 17 ได้ดำเนินการเลือกตั้งสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 18 ไปโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมให้เพิกถอนคณะกรรมการชุดนี้ออกจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมใหม่โดยเร็ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรรมการชุดที่ 18 ขอจดทะเบียนอยู่ กองบังคับการตำรวจสันติบาลให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่จำต้องสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และศาลก็ไม่มีหน้าที่สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่กับพวกคดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีนี้อีกโดยบรรยายข้อเท็จจริงในคำร้องคดีนี้ทำนองเดียวกับข้อเท็จจริงที่บรรยายในคำร้องคดีก่อนเพียงแต่มีคำขอท้ายคำร้องเพี้ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย ย่อมเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องทั้งสี่มาร้องเป็นคดีนี้อีกด้วยเหตุอย่างเดียวกันและคำขอทำนองเดียวกัน จึงเป็นการร้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2580/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์และการซื้อที่ดินโดยไม่สุจริต
จำเลยครอบครองที่พิพาทโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่าสิบปีจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382 โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทรู้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมายแล้วแต่ก็ยังซื้อจึงถือได้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทมาโดยไม่สุจริตจำเลยย่อมยกเอาการได้มาซึ่งที่พิพาทที่ยังมิได้จดทะเบียนขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรุกล้ำที่ดินโจทก์ 142 ตารางวา จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยครอบครองที่ดิน 72 ตารางวา เมื่อมีการทำแผนที่พิพาทโดยคู่ความต่างนำชี้ปรากฏว่าจำเลยนำชี้ตามแนวเขตที่ดินที่จำเลยครอบครองมีเนื้อที่ 147 ตารางวา และคู่ความทั้งสองฝ่ายได้รับรองแผนที่นั้นแล้วจึงต้องถือว่าโจทก์จำเลยพิพาทกัน 147 ตารางวา
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทขึ้นใหม่ หลังจากที่ได้สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้วว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทมาโดยสุจริตหรือไม่ แต่ศาลชั้นต้นได้ให้โอกาสโจทก์นำพยานเข้าสืบในประเด็นดังกล่าวและโจทก์ก็ได้นำพยานเข้าสืบแล้วหาทำให้โจทก์เสียเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษา: โจทก์ต้องดำเนินการเอง ศาลไม่มีหน้าที่ส่งฎีกา
การอนุญาตให้ฎีกาเป็นอำนาจเฉพาะตัวของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้ง หากโจทก์ประสงค์จะให้ผู้พิพากษาคนใดอนุญาตให้ฎีกา ก็ชอบที่จะขวนขวายให้มีการรับรองและอนุญาตเอง ศาลไม่มีหน้าที่ส่งฎีกาของโจทก์ไปให้รับรอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกา: ผู้พิพากษาพิจารณาคดีมีอำนาจเฉพาะตัว โจทก์ต้องดำเนินการเอง
การอนุญาตให้ฎีกาเป็นอำนาจเฉพาะตัวของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณา.หรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้ง หากโจทก์ประสงค์จะให้ผู้พิพากษาคนใดอนุญาตให้ฎีกา ก็ชอบที่จะขวนขวายให้มีการรับรองและอนุญาตเอง ศาลไม่มีหน้าที่ส่งฎีกาของโจทก์ไปให้รับรอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันตามบันทึกที่ตัวแทนลงลายมือชื่อแทนจำเลย
จำเลยอุทธรณ์ว่าบันทึกที่ ส. ทำขึ้นไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะคู่กรณีมิได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายและไม่มีข้อความแสดงว่าระงับข้อพิพาทที่มีอยู่การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ส. ทำบันทึกดังกล่าวในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงลายมือชื่อก็ต้องผูกพันตามข้อความในบันทึกและใช้บังคับเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความได้ จึงเป็นข้อวินิจฉัยถูกต้องตรงประเด็นตามที่จำเลยอุทธรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: อำนาจตัวแทน & ผลผูกพัน แม้ไม่มีลายมือชื่อคู่กรณี
จำเลยอุทธรณ์ว่าบันทึกที่ ส. ทำขึ้นไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะคู่กรณีมิได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายและไม่มีข้อความแสดงว่าระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ส. ทำบันทึกดังกล่าวในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงลายมือชื่อก็ต้องผูกพันตามข้อความในบันทึกและใช้บังคับเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความได้ จึงเป็นข้อวินิจฉัยถูกต้องตรงประเด็นตามที่จำเลยอุทธรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี – เหตุผลไม่ชัดเจน – ไม่โต้แย้งคำพิพากษา – คำร้องขอพิจารณาใหม่ไม่ชอบ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่มาศาลไม่ทันกำหนดเวลา และไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่าไม่ถูกต้องอย่างไรจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ศาลชอบที่จะยกคำร้องขอนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี - เหตุผลไม่ชัดเจนและไม่ได้คัดค้านคำตัดสิน - คำร้องขอพิจารณาใหม่ไม่ชอบ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่มาศาลไม่ทันกำหนดเวลา และไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่าไม่ถูกต้องอย่างไรจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ศาลชอบที่จะยกคำร้องขอนั้นเสียได้
of 95