คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุดม บรรลือสินธุ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุ แม้สืบพยานไปบ้างแล้ว
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้น ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาล คือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลเพื่อสืบพยานต่อ แม้ศาลจะยังไม่ดำเนินกระบวนการฝ่ายจำเลย
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้นศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาลคือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งค่าเสียหายต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยว ฟ้องแย้งนั้นไม่รับพิจารณา
จำเลยอ้างในฟ้องแย้งเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เรียกร้องจากโจทก์ว่า เจ้าหน้าที่ของโจทก์ทุจริตนำเอาที่ดินพิพาทที่โจทก์แจ้งว่าจะให้จำเลยผู้เช่าเดิมได้เป็นผู้เช่าต่อไปหลังจากที่โจทก์ได้ปรับปรุงการจัดประโยชน์ในที่พิพาทเสร็จแล้วไปให้บุคคลภายนอกเช่า ทำให้ จำเลยได้รับความเสียหายไม่สามารถทำสัญญาเช่ากับโจทก์ได้ ดังนี้เป็นการยกข้ออ้างขึ้นมาใหม่ ไม่ได้อาศัยฟ้องเดิมเป็นมูลแห่งหนี้ที่เรียกร้องให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องขับไล่เพราะจำเลยคงอยู่ในที่พิพาทหลังจากสิ้นกำหนดการเช่าแล้วโดยไม่มี สิทธิ ชอบที่จำเลยจะฟ้องเป็นคดีต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนบัตรปลอมออกใช้-ซื้อตั๋ว: ศาลเชื่อจำเลยรู้ว่าเป็นของปลอมจากพฤติการณ์ใช้จำนวนมากและซื้อของราคาถูก
จำเลยนำธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาท ออกใช้ 2 ฉบับได้เงินทอน 850 บาทแล้ว ยังนำออกใช้อีก 1 ฉบับและยังค้นพบธนบัตรปลอมจากจำเลยอีก 5 ฉบับ พฤติการณ์ เช่นนี้ทำให้เชื่อว่าจำเลยทราบดีว่าธนบัตรทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอม จำเลยจึงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา244

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3965/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างการพิจารณาคดีส่งผลต่อการลดโทษจำเลย แม้คดีถึงที่สุดแล้ว
เมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญํติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2522 ยกเลิกความใน ม. 91 และให้ใช้ข้อความใหม่แทนว่าให้ศาลลงโทษทุกกรรม แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจะต้องไม่เกิน 50 ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปีขึ้นไป ถือได้ว่ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด แม้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 ที่ 3จะถึงที่สุดแล้วก็ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โทษที่กำหนดตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3(1) ต้องนำ มาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้ คดีนี้ เมื่อ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 50 ปี 9 เดือน ศาลฎีกา พิพากษาแก้เป็นจำคุกเพียงคนละ 50 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3965/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของกฎหมายใหม่ต่อโทษจำคุกเดิม กรณีความผิดหลายกระทง ศาลต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย
เมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 ยกเลิกความใน ม. 91 และให้ใช้ข้อความใหม่แทนว่า ให้ศาลลงโทษทุกกรรม แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจะต้องไม่เกิน 50 ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปีขึ้นไป ถือได้ว่ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด แม้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 ที่ 3 จะถึงที่สุดแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โทษที่กำหนดตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3(1) ต้องนำ มาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้ คดีนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 50 ปี 9 เดือน ศาลฎีกา พิพากษาแก้เป็นจำคุกเพียงคนละ 50 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3810/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาตามยอมผูกพันคู่ความ การบังคับคดีชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิเพิกถอน
ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้ว คำพิพากษาย่อมผูกพันคู่ความ เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้อง(ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดี)จะร้องขอให้ยกหรือแก้ไขหมายนั้น หากการกระทำของจำเลยกระทบถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องชอบที่จะใช้สิทธิดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ผู้ร้องจะขอให้ศาลเพิกถอนการบังคับคดีนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3810/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอมและการบังคับคดี ผู้ร้องไม่มีสิทธิเพิกถอนการบังคับคดีที่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้ว คำพิพากษาย่อมผูกพันคู่ความ เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้อง (ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดี) จะร้องขอให้ยกหรือแก้ไขหมายนั้น หากการกระทำของจำเลยกระทบถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องชอบที่จะใช้สิทธิดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ ผู้ร้องจะขอให้ศาลเพิกถอนการบังคับคดีนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3634/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาอุทธรณ์เนื่องจากฐานะยากจน และความชอบของคำฟ้องที่มิได้ระบุรายละเอียดการกู้ยืม
คำร้องขอขยายระยะเวลาโดยอ้างเหตุฐานะยากจนไม่สามารถจะหาเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นอุทธรณ์มาวางศาลได้ทัน ถือได้ว่ามี พฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์มอบให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ เมื่อโจทก์นำเงินไปชำระคืน จำเลยไม่ยอมรับและไม่คืนที่พิพาทให้แก่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยรับเงินและคืน น.ส.3 ที่พิพาทกับห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องกับที่พิพาท เป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว สำหรับจำนวนเงินที่กู้ วันเวลากู้เป็นรายละเอียดไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนการยึดทรัพย์ไม่ถือเป็นการสละสิทธิในการบังคับคดี ตราบใดที่หนี้ยังไม่ถูกชำระ
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์แล้วขอถอนการยึดไปโดยอ้างในคำร้องว่า โจทก์ยังไม่คิดจะยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดต่อไป ขอถอนการยึดโดยยอมเสียค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิในการบังคับคดี ตราบเท่าที่จำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีได้ต่อไปอีกภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้นโจทก์จึงขอให้ยึดทรัพย์ของจำเลยที่เคยขอถอนการยึดไปแล้วนั้นได้อีก
of 33