คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุดม บรรลือสินธุ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3120/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตัวแทนที่ไม่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ สัญญาไม่เป็นโมฆะ
โจทก์ซื้อหลักทรัพย์ตามคำสั่งของจำเลยโดยบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนบริษัทโจทก์ซื้อให้ โจทก์มิได้จัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์รวมทั้งบริการที่เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 9 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกหนี้สินค่าซื้อหลักทรัพย์จากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3119/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของตัวแทนที่ทดรองจ่ายเงินซื้อหุ้นให้ลูกค้าและรับจำนำหุ้นเป็นประกัน ถือเป็นโมฆะตามกฎหมาย
โจทก์เป็นตัวแทนของลูกค้าในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยโจทก์ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการแทนโจทก์ ถือไม่ได้ว่าการดำเนินงานของโจทก์เป็นการประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์หรือกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน จึงหาใช่เป็นการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรือการให้บริการที่เกี่ยวกับการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่ดังกล่าวตามความหมายในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ไม่ ดังนั้น การรับเป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อขายหลักทรัพย์โดยทั่ว ๆ ไป โจทก์ย่อมกระทำได้โดยชอบ
ธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจพบว่าการที่โจทก์ให้ลูกค้ากู้ยืมเงินซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์เองเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายโจทก์จึงให้จำเลยกู้ยืมเงินจากบริษัทในเครือแทนเท่ากับว่าโจทก์เองเป็นผู้ให้จำเลยกู้ยืมเงินไปซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์ และจำเลยต้องจำนำหุ้นไว้แก่บริษัทในเครือเพื่อเป็นประกันเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายโดยโจทก์เป็นผู้ยึดถือหุ้นนั้นไว้ จึงมีผลเท่ากับว่าโจทก์รับเอาหุ้นของบริษัทโจทก์ไว้เป็นประกันอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1143 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงตกเป็นโมฆะ โจทก์จะอ้างเป็นมูลเรียกร้องให้จำเลยชดใช้เงินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3119/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทดรองจ่ายซื้อหุ้นพร้อมจำนำหุ้นประกันเข้าข่ายผิดกฎหมายและโมฆะ
โจทก์เป็นตัวแทนของลูกค้าในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยโจทก์ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการแทนโจทก์ ถือไม่ได้ว่าการดำเนินงานของโจทก์เป็นการประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์หรือกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน จึงหาใช่เป็นการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรือการให้บริการที่เกี่ยวกับการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่ดังกล่าวตามความหมายในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ไม่ ดังนั้น การรับเป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อขายหลักทรัพย์โดยทั่วๆ ไป โจทก์ย่อมกระทำได้โดยชอบ
ธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจพบว่าการที่โจทก์ให้ลูกค้ากู้ยืมเงินซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์เองเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงให้จำเลยกู้ยืมเงินจากบริษัทในเครือแทนเท่ากับว่าโจทก์เองเป็นผู้ให้จำเลยกู้ยืมเงินไปซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์และจำเลยต้องจำนำหุ้นไว้แก่บริษัทในเครือเพื่อเป็นประกันเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายโดยโจทก์เป็นผู้ยึดถือหุ้นนั้นไว้จึงมีผลเท่ากับว่าโจทก์รับเอาหุ้นของบริษัทโจทก์ไว้เป็นประกันอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1143 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงตกเป็นโมฆะ โจทก์จะอ้างเป็นมูลเรียกร้องให้จำเลยชดใช้เงินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2925/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อถูกทำร้ายและถูกไล่ติดตามด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุชกต่อยและยิงจำเลยก่อน จำเลยวิ่งหนีก็ยังติดตามจะใช้อาวุธปืนยิงอีก การที่จำเลยหันกลับมายิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุ ซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยไม่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2848/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกัน: การพิจารณาความแตกต่างของลักษณะเครื่องหมายและการเน้นจุดเด่นของสินค้า
เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีอักษรโรมันล้วนๆ ส่วนของจำเลยมีอักษรไทยปนอยู่กับอักษรโรมัน ทั้งคำในเครื่องหมายการค้าทั้งสองก็แตกต่างกันเกือบทั้งหมดมีตรงกันเฉพาะคำว่า "DEOCOLOGNE"เท่านั้น แต่ลักษณะการเขียนและความใหญ่ของตัวอักษรก็แตกต่างกันมากสำหรับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ใช้ตัวพิมพ์เล็ก(DEOCOLOGNE) เขียนตัวอักษรโตมากและเล่นตัวอักษรด้วยแสดงถึงการเน้นตรงคำนี้ ส่วนของจำเลยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่(DEOCOLOGNE) และตัวอักษรก็ไม่โต ทั้งยังไม่ได้เล่นตัวอักษรซึ่งแสดงถึงไม่ได้มุ่งที่จะเน้นถึงคำนี้เลย แต่ไปเขียนตัวอักษรโตและเล่นตัวอักษรเน้นตรงคำว่า "ARCHE" คำที่มีลักษณะบ่งเฉพาะอันจะชี้ให้เห็นว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์อยู่ตรงคำว่า "DEOCOLOGNE" แต่ของจำเลยอยู่ตรงคำว่า ARCHE' ทั้งอักษรโรมันและอักษรไทยเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่แสดงสำหรับสินค้าสบู่ก็ระบุว่าทำในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ส่วนของจำเลยหาปรากฏข้อความเช่นนั้นไม่ ไม่อาจทำให้สาธารณชนหลงผิดไปในลักษณะของเครื่องหมายการค้า หรือลวงผู้ซื้อในแหล่งกำเนิด หรือทำให้เกิดสับสนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2840/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ้นสุดเมื่อครบกำหนด ไม่ต้องบอกเลิกสัญญาใหม่ โจทก์มีสิทธิขับไล่จำเลย
โจทก์รับโอนตึกแถวสามชั้นครึ่งจาก พ. ตึกแถวดังกล่าวจำเลยทำสัญญาเช่ากับ พ. มีกำหนด 10 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าย่อมระงับไปโดยโจทก์ไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564 ก่อนและหลังสัญญาเช่าครบกำหนดโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบว่าจะไม่ให้เช่าตึกแถวดังกล่าวเฉพาะชั้นสองและชั้นสามยอมให้จำเลยเช่าเฉพาะชั้นล่าง ให้จำเลยมาทำสัญญาเช่า แต่จำเลยไม่สนองรับ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในตึกดังกล่าว และ หนังสือดังกล่าวมิใช่หนังสือบอกเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2840/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าหมดอายุเมื่อครบกำหนด ไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเช่าใหม่ หากไม่ตกลง โจทก์มีสิทธิขับไล่
โจทก์รับโอนตึกแถวสามชั้นครึ่งจาก พ. ตึกแถวดังกล่าวจำเลยทำสัญญาเช่ากับ พ. มีกำหนด 10 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าย่อมระงับไปโดยโจทก์ไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564 ก่อนและหลังสัญญาเช่าครบกำหนดโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบว่าจะไม่ให้เช่าตึกแถวดังกล่าวเฉพาะชั้นสองและชั้นสามยอมให้จำเลยเช่าเฉพาะชั้นล่าง ให้จำเลยมาทำสัญญาเช่า แต่จำเลยไม่สนองรับจำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในตึกดังกล่าว และ หนังสือดังกล่าวมิใช่หนังสือบอกเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการร่วมกระทำความผิด: การพิสูจน์การมีส่วนร่วมโดยตรง
จำเลยแทงถูกผู้ตายล้มลง แต่ฟังไม่ได้ว่าแทงถูกอวัยวะส่วนไหนของผู้ตาย หลังจากนั้นมีชาวบ้านหลายคนช่วยกันแทงผู้ตาย บาดแผลที่ทำให้ตายเกิดจากการกระทำของพวกชาวบ้าน เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยได้ร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย ทั้งทางพิจารณาก็ไม่ปรากฏเช่นนั้น ดังนี้จะนำการกระทำของผู้อื่นซึ่งจำเลยไม่ได้ร่วมด้วยมาลงโทษจำเลยหาได้ไม่จำเลยคงมีความผิดตาม ป.อ. ม.295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อลูกจ้างและการรับผิดในผลละเมิด การวินิจฉัยนอกประเด็นและผลของคำพิพากษาในคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลละเมิดที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบิดาและนายจ้างของจำเลยที่ 1 ในชั้นชี้สองสถานศาลชั้นต้นได้กำหนดเกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยที่ 2 ไว้เพียงประการเดียวว่า จำเลยที่ 1 ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการโดยจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนและให้ร่วมกันรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่ เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นและเมื่อข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 กับ ส.ลูกจ้างของโจทก์ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาในความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คร่อมเส้นแบ่งกึ่งกลางถนนและล้ำเข้าไปในช่องทางเดินรถของ ส. แล้วเฉี่ยวชนรถยนต์คันที่ ส.ขับลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ยกฟ้อง ส. ดังนั้นในการพิพากษาคดีนี้ศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ตามที่ปรากฏในคำพิพากษาดังกล่าว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายประมาทฝ่ายเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของนายจ้างต่อลูกจ้างและการพิพากษาคดีอาญาที่มีผลผูกพันในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1ในผลละเมิดที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบิดาและนายจ้างของจำเลยที่ 1 ในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นได้กำหนดเกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยที่ 2 ไว้เพียงประการเดียวว่า จำเลยที่ 1 ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการโดยจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนและให้ร่วมกันรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่ เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น และเมื่อข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 กับ ส.ลูกจ้างของโจทก์ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาในความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คร่อมเส้นแบ่งกึ่งกลางถนนและล้ำเข้าไปในช่องทางเดินรถของ ส.แล้วเฉี่ยวชนรถยนต์คันที่ส.ขับ ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ยกฟ้อง ส. ดังนั้นในการพิพากษาคดีนี้ ศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ตามที่ปรากฏในคำพิพากษาดังกล่าว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1เป็นฝ่ายประมาทฝ่ายเดียว
of 33