คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุดม บรรลือสินธุ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากฆ่าโดยเจตนาเป็นฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานฆ่าโดยไม่เจตนาได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังปรากฏข้อสงสัยพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตายแต่จำเลยได้ใช้กำลังกายชกต่อยเตะผู้ตายจนถึงแก่ความตายพิพากษากลับเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ดังนี้ข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามมาตรา 288 จึงเป็นอันศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหาดังกล่าวไม่ได้ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำรุนแรงไปเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายอันเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษเบากว่าที่โจทก์ฟ้องศาลย่อมลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้ใช้จ้างวานกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ต้องรับโทษเสมือนตัวการ แม้มีการใช้ยานพาหนะ
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้ใช้ให้จำเลยอื่นปล้นทรัพย์เมื่อศาลลงโทษจำเลยอื่นซึ่งเป็นตัวการฐานปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 วรรคสองแม้โจทก์จะนำสืบว่าจำเลยที่ 4 นำรถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะไปใช้ให้จำเลยอื่นกระทำความผิดก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยที่ 4ซึ่งเป็นผู้ใช้ตามมาตรา 340 ตรี ไม่ได้เนื่องจากตามมาตรา 84 ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดของสิทธิฟ้องเพิกถอนการสมรสเมื่อการสมรสสิ้นสุดลงแล้วก่อนฟ้อง
โจทก์กับ ป. เป็นสามีภริยากัน ต่อมา ป. จดทะเบียนสมรสกับจำเลยอีก เมื่อการสมรสระหว่างโจทก์กับ ป. ได้สิ้นสุดลงเพราะความตายของ ป. ก่อนโจทก์ฟ้อง ฟ้องมิได้แสดงให้เห็นว่ากระทบกระเทือนต่อสิทธิอันใดของโจทก์อีก ที่จะต้องขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสซึ่งสิ้นสุดไปก่อนแล้ว ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิในคำฟ้อง เมื่อคำฟ้องไม่ปรากฏว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอเพิกถอนการสมรสระหว่าง ป. กับจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตห้ามมิให้เข้าอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ถือเป็นหนังสืออนุญาตที่ไม่ชอบ
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บางส่วนของบางจังหวัด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในเขตจังหวัดพื้นที่นั้น ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495(ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว) เป็นประกาศที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม การที่จำเลยออกหนังสืออนุญาตให้โจทก์เข้าไปทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาหลวงจังหวัดนครศรีธรรมราช อันเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์แล้ว จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี หนังสืออนุญาตดังกล่าวจึงไม่ชอบจำเลยไม่มีสิทธิเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการออกหนังสืออนุญาตนั้นจากโจทก์ จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าธรรมเนียมที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตห้ามมิให้เข้าอยู่ขัดต่อประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกฎหมายว่าด้วยการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ จึงไม่ชอบ
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บางส่วนของบางจังหวัด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในเขตจังหวัดพื้นที่นั้น ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 (ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว) เป็นประกาศที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม การที่จำเลยออกหนังสืออนุญาตให้โจทก์เข้าไปทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช อันเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์แล้ว จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี หนังสืออนุญาตดังกล่าวจึงไม่ชอบ จำเลยไม่มีสิทธิเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการออกหนังสืออนุญาตนั้นจากโจทก์ จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าธรรมเนียมที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเช็ค: การมีเงินในบัญชีขณะสั่งจ่ายเช็คเป็นปัจจัยสำคัญ แม้โจทก์นำเช็คขึ้นเงินช้ากว่าวันที่สั่งจ่ายก็ไม่ถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในวันที่สั่งจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยมีเงินในบัญชีพอที่จะจ่ายเงินตามเช็คนั้น ถ้าหากโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินในวันนั้นก็จะได้รับเงินตามเช็ค แต่โจทก์กลับนำเช็คไปขึ้นเงินหลังวันที่สั่งจ่ายเงินตามเช็ค จึงขึ้นเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเช็ค: จำเลยไม่มีความผิดหากมีเงินในบัญชีเพียงพอ ณ วันสั่งจ่ายเช็ค แม้โจทก์นำเช็คขึ้นเงินภายหลัง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในวันที่สั่งจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยมีเงินในบัญชีพอที่จะจ่ายเงินตามเช็คนั้นถ้าหากโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินในวันนั้นก็จะได้รับเงินตามเช็ค แต่โจทก์กลับนำเช็คไปขึ้นเงินหลังวันที่สั่งจ่ายเงินตามเช็ค จึงขึ้นเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนของกลาง (โทรทัศน์) หลังถูกยึดจากการพนัน: เจ้าของไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือสนับสนุนการกระทำผิด
ผู้ร้องเป็นเจ้าของร้านค้า ในวันเสาร์วันอาทิตย์จะยกเครื่องรับโทรทัศน์ของกลางจากชั้นบนลงมาเปิดบริการลูกค้าที่ชั้นล่าง เพื่อให้ลูกค้าดูรายการมวย จะฟังว่าเพื่อสนับสนุนให้จำเลยเล่นการพนันกันหาได้ไม่ ผู้ที่ดูมวยโดยไม่เล่นการพนันมีอยู่ไม่น้อย โทรทัศน์ของกลางจึงไม่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการท้าพนันผลการแข่งขันการชกมวยต้องคืนแก่ผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนสมรสของชาวต่างชาติ: สิทธิในการยื่นคำร้องและอำนาจศาลในการสั่งให้นายทะเบียนจดทะเบียน
เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสนั้น พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช 2478 มาตรา 10 บัญญัติให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสให้เมื่อมีการร้องขอ การที่นายทะเบียนจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง มาตรา 1448 ถึงมาตรา 1454 และมาตรา 1458 ตามที่ได้ ตรวจชำระใหม่ ซึ่งมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ห้ามมิให้นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสในกรณีที่นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรส ผู้มีส่วนได้เสียก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เมื่อศาลไต่สวนได้ความว่าการเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว ก็ให้ศาลมีคำสั่งไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการจดทะเบียนสมรสของบุคคลสัญชาติอื่น: อำนาจหน้าที่นายทะเบียนและการไต่สวนของศาล
เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสนั้น พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 มาตรา 10 บัญญัติให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสให้เมื่อมีการร้องขอ การที่นายทะเบียนจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง มาตรา 1448 ถึงมาตรา1454และมาตรา1458 ตามที่ได้ ตรวจชำระใหม่ ซึ่งมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติ จดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ห้ามมิให้นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสในกรณีที่นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสผู้มีส่วนได้เสียก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เมื่อศาลไต่สวนได้ความว่าการเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว ก็ให้ศาลมีคำสั่ง ไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 15 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าว
of 33