พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2313/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนจำกัด, ผู้ซื้อ, และตัวแทนในการซื้อขายสินค้า โดยมีประเด็นเรื่องการสอดเข้าไปจัดการงานของห้าง
การตั้งตัวแทนซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันเป็นราคาห้าร้อยบาทหรือกว่านั้นขึ้นไปซึ่งจำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น เมื่อฟังได้ว่าตัวการซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าและรับสินค้าไว้ อันถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้แล้ว ก็ย่อมไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยที่ 1 เคยเป็นลูกจ้างโจทก์ทำหน้าที่พนักงานขายจำเลยที่ 2 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีจำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด โจทก์ห้ามมิให้จำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าของโจทก์ในนามของจำเลยที่ 2. จำเลยที่ 1 จึงใช้ชื่อจำเลยที่ 4 ซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดในห้างจำเลยที่ 2. ก็มีส่วนร่วมในการซื้อสินค้าจากโจทก์ โดยแอบอ้างชื่อจำเลยที่4 เป็นผู้ซื้อแทนจำเลยที่ 2 อันถือได้ว่าเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1088 จำเลยที่ 1 จึง ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2313/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนจำกัดในการซื้อขายสินค้า โดยการแอบอ้างชื่อผู้อื่นและการมีส่วนร่วมจัดการงานของห้าง
การตั้งตัวแทนซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันเป็นราคาห้าร้อยบาทหรือกว่านั้นขึ้นไปซึ่งจำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น เมื่อฟังได้ว่าตัวการซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าและรับสินค้าไว้ อันถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้แล้ว ก็ย่อมไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยที่ 1 เคยเป็นลูกจ้างโจทก์ทำหน้าที่พนักงานขาย จำเลยที่ 2เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีจำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด โจทก์ห้ามมิให้จำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าของโจทก์ในนามของจำเลยที่ 2. จำเลยที่ 1 จึงใช้ชื่อจำเลยที่ 4 ซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดในห้างจำเลยที่ 2 ก็มีส่วนร่วมในการซื้อสินค้าจากโจทก์ โดยแอบอ้างชื่อจำเลยที่ 4 เป็นผู้ซื้อแทนจำเลยที่ 2 อันถือได้ว่าเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1088 จำเลยที่ 1 จึง ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3
จำเลยที่ 1 เคยเป็นลูกจ้างโจทก์ทำหน้าที่พนักงานขาย จำเลยที่ 2เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีจำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด โจทก์ห้ามมิให้จำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าของโจทก์ในนามของจำเลยที่ 2. จำเลยที่ 1 จึงใช้ชื่อจำเลยที่ 4 ซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดในห้างจำเลยที่ 2 ก็มีส่วนร่วมในการซื้อสินค้าจากโจทก์ โดยแอบอ้างชื่อจำเลยที่ 4 เป็นผู้ซื้อแทนจำเลยที่ 2 อันถือได้ว่าเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1088 จำเลยที่ 1 จึง ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเอกสารท้ายฟ้องหลังพิจารณาคดี ศาลอนุญาตได้หากเป็นรายละเอียดที่ถูกต้องตามเอกสารอ้าง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเอกสารท้ายฟ้องเกี่ยวกับวันที่ซื้อหุ้น จากวันที่ 26 เมษายน 2521 เป็น วันที่ 26 พฤษภาคม 2521 โดยขอแก้ไขภายหลังเสร็จการพิจารณาแล้ว ดังนี้ เป็นการขอแก้ไขรายละเอียดที่โจทก์นำสืบ ตามข้อความที่ถูกต้องในเอกสารที่โจทก์อ้างได้ โดยไม่จำเป็น ต้องขอแก้ไขคำฟ้อง คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเอกสารท้ายฟ้องและการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีซื้อขายหลักทรัพย์ การแก้ไขรายการวันที่ซื้อหุ้นไม่ถือเป็นการแก้ไขคำฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเอกสารท้ายฟ้องเกี่ยวกับวันที่ซื้อหุ้นจากวันที่ 26 เมษายน 2521 เป็น วันที่ 26 พฤษภาคม 2521 โดยขอแก้ไขภายหลังเสร็จการ พิจารณาแล้ว ดังนี้ เป็นการขอแก้ไขรายละเอียดที่โจทก์นำสืบ ตามข้อความที่ถูกต้องในเอกสารที่โจทก์อ้างได้ โดยไม่จำเป็นต้องขอแก้ไขคำฟ้อง คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รู้เห็นการกระทำผิด ไม่เป็นผู้เสียหาย: กรณีมอบเงินให้ผู้อื่นทุจริตเพื่อเข้าเรียน
โจทก์รู้แต่ต้นว่าถ้าสมัครสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็ไม่สามารถสอบได้ และตนไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ห้างร้านที่มีสิทธิส่งเจ้าหน้าที่เข้าเรียนได้โดยไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือกการที่โจทก์มอบเงินให้แก่จำเลยก็โดยมีเจตนาจะให้จำเลยกระทำการทุจริตช่วยเหลือให้โจทก์เข้าเรียนได้โดยฝ่าฝืนระเบียบการเข้าเรียนของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอันถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำผิด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,341
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: เจตนาและพฤติการณ์สำคัญในการพิจารณาความผิด
ผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยกับจำเลยด้วยความรักใคร่ชอบพอกันแต่ไม่มีพฤติการณ์ให้เห็นว่าจำเลยเจตนานำไปเลี้ยงดูเป็นภริยา จำเลยพาผู้เยาว์เข้าพักนอนในโรงแรมต่างจังหวัด1 คืน และกอดจูบเพื่อสำเร็จความใคร่เป็นการหาความสุขชั่วคราวดังนี้ เป็นการพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งคืนค่าธรรมเนียมเมื่อโจทก์ขาดนัด – ศาลมีอำนาจแก้ไขคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ขาดนัดพิจารณาเป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201ประกอบด้วยมาตรา 132 ซึ่งมิได้เป็นบทบังคับให้ต้องสั่งคืนค่าธรรมเนียมเช่นบทบัญญัติในมาตรา 151 การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้คืนค่าฤชาธรรมเนียมตามระเบียบ จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาศาลชั้นต้นย่อมใช้อำนาจตามมาตรา 27 เพิกถอนคำสั่งเดิมและสั่งใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1926/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำชิงทรัพย์ต้องเกิดขึ้นก่อนการทำร้ายร่างกาย การกระทำที่เกิดจากทะเลาะวิวาทไม่ถือเป็นการชิงทรัพย์
จำเลยทำร้าย ส. เนื่องจากทะเลาะโต้เถียงกัน ไม่ใช่เป็นการทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาทรัพย์จาก ส.จำเลยเพิ่งมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์ไปในตอนที่ ส. ใช้กระบอกตั๋วรถเมล์ตีจำเลยเมื่อจำเลยแย่งกระบอกตั๋วมาได้ก็มิได้ขู่เข็ญว่าจะประทุษร้าย ส. แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีชั่วคราวหลังจำเลยรับสารภาพและขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้เพื่อความต่อเนื่อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เฉพาะกรณีที่ศาลงดการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาเพราะจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปนั้น ถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป ย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เพื่อให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องเป็นคดีต่างพิจารณา เมื่อถึงวันเวลาที่นัดไว้ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะอ่านคำพิพากษาให้ดูความฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปนั้น ถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป ย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เพื่อให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องเป็นคดีต่างพิจารณา เมื่อถึงวันเวลาที่นัดไว้ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะอ่านคำพิพากษาให้ดูความฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีชั่วคราวหลังจำเลยรับสารภาพและขอเลื่อนฟังคำพิพากษา ศาลมีอำนาจสั่งได้เพื่อป้องกันคดีค้าง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เฉพาะกรณีที่ศาลงดการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาเพราะจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปนั้นถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เพื่อมิให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องเป็นคดีค้างพิจารณาเมื่อถึงวันเวลาที่นัดไว้ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่