พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3501/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกต้องเป็นการเข้าครอบครองเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต การดูแลทรัพย์สินให้แทนไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 นั้น จะต้องกระทำต่อเคหสถานอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้ยื่น จำเลยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทโดยได้รับมอบหมายจากมารดาโจทก์ให้ดูแล แทนตั้งแต่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากมารดา โจทก์ก็มิได้เข้าครอบครองคงมอบให้จำเลยดูแลต่อมา การที่จำเลยไม่ยอมออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทที่จำเลยครอบครองอยู่ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 364
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3501/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานต้องเข้าครอบครองแทนเจ้าของกรรมสิทธิ์ การดูแลแทนไม่ถือเป็นการบุกรุก
ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 นั้น จะต้องกระทำต่อเคหะสถานอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้ยื่น จำเลยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทโดยได้รับมอบหมายจากมารดาโจทก์ให้ดูแลแทนตั้งแต่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากมารดา โจทก์ก็มิได้เข้าครอบครองคงมอบให้จำเลยดูแลต่อมา การที่จำเลยไม่ยอมออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทที่จำเลยครอบครองอยู่ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 364
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การป่าไม้ในการแต่งตั้งทนายความฟ้องคดี
ตามบทบัญญัติในมาตรา 21 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2499 นั้น เมื่อผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งรองผู้อำนวยการก็เป็นผู้รักษาการแทนทันทีโดยไม่ต้องแต่งตั้ง มิใช่หมายถึงกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้จริง ๆ หรือในกรณีที่มีเหตุอันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติอย่างแท้จริงดังนั้น เมื่อผู้อำนวยการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานเนื่องจากไปพบรัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองผู้อำนวยการจึงมีอำนาจลงชื่อแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรองผู้อำนวยการรักษาการแทน: การแต่งตั้งทนายความฟ้องคดีเมื่อผู้อำนวยการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
ตามบทบัญญัติในมาตรา 21 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2499 นั้น เมื่อผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งรองผู้อำนวยการก็เป็นผู้รักษาการแทนทันทีโดยไม่ต้องแต่งตั้งมิใช่หมายถึงกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้จริงๆ หรือในกรณีที่มีเหตุอันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติอย่างแท้จริงดังนั้นเมื่อผู้อำนวยการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานเนื่องจากไปพบรัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองผู้อำนวยการจึงมีอำนาจลงชื่อแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3457/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาใหม่หลังขาดนัดฟ้อง - กำหนดเวลาและเหตุสุดวิสัย
การที่จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นแต่เพียงเหตุที่จำเลยอาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ แต่การยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องกระทำภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรก
ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2524 จะมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง จึงมีผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2524 จำเลยอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 แต่จำเลยไม่ทราบการถูกฟ้องและการส่งคำบังคับ การที่จำเลยมิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 นับได้ว่าไม่สามารถยื่นคำขอโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จึงอาจยื่นคำขอได้ภายในกำหนด15 วันนับแต่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง จำเลยทราบว่าถูกยึดที่ดินตามคำบังคับเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2524 ถือได้ว่าได้ทราบถึงการส่งคำบังคับแล้ว พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ย่อมสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2524 แต่เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2524 ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ย่อมไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2524 จะมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง จึงมีผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2524 จำเลยอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 แต่จำเลยไม่ทราบการถูกฟ้องและการส่งคำบังคับ การที่จำเลยมิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 นับได้ว่าไม่สามารถยื่นคำขอโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จึงอาจยื่นคำขอได้ภายในกำหนด15 วันนับแต่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง จำเลยทราบว่าถูกยึดที่ดินตามคำบังคับเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2524 ถือได้ว่าได้ทราบถึงการส่งคำบังคับแล้ว พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ย่อมสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2524 แต่เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2524 ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ย่อมไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3359/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ การกำหนดวันชำระหนี้ที่ยืดหยุ่น
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยมีข้อความว่า จำเลยสัญญาว่าจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท โดยจะผ่อนชำระให้เป็นรายเดือนเดือนละ 500 บาท เริ่มเดือนแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น เป็นการกำหนดให้จำเลยชำระเงินเป็นรายเดือนโดยมิได้ระบุวันที่แน่นอน คงระบุเฉพาะเดือนแรกเท่านั้น ฉะนั้น ในเดือนถัดไปจำเลยจะชำระในวันใดก็ได้ เพียงแต่ให้อยู่ในกำหนดของแต่ละเดือน. การที่จำเลยส่งเงินทางธนาณัติเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เดือนที่สามคือเดือนมกราคม 2525 โดยส่งในวันที่ 21 นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตรงตามสัญญาแล้วมิได้ผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3359/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การกำหนดเวลาชำระหนี้รายเดือนโดยไม่ระบุวันตายตัว
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยมีข้อความว่า จำเลยสัญญาว่าจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท โดยจะผ่อนชำระให้เป็นรายเดือนเดือนละ 500 บาท เริ่มเดือนแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น เป็นการกำหนดให้จำเลยชำระเงินเป็นรายเดือนโดยมิได้ระบุวันที่แน่นอน คงระบุเฉพาะเดือนแรกเท่านั้น ฉะนั้น ในเดือนถัดไปจำเลยจะชำระในวันใดก็ได้ เพียงแต่ให้อยู่ในกำหนดของแต่ละเดือน. การที่จำเลยส่งเงินทางธนาณัติเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เดือนที่สามคือเดือนมกราคม 2525 โดยส่งในวันที่ 21 นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตรงตามสัญญาแล้วมิได้ผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3356/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย คดีอาญาอาศัยพยานบอกเล่าเป็นหลัก
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความ เพราะพนักงานสอบสวนไม่สามารถสอบสวนผู้เสียหายเป็นพยานได้ โจทก์อ้างส่งแต่คำให้การชั้นสอบสวนของพยานที่อ้างว่ารู้เห็นเหตุการณ์และจำหน้าคนร้ายได้ ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่า คำตำรวจผู้จับก็มีแต่ว่า ภริยาผู้เสียหายแจ้งให้จับจำเลยและพยานให้ดูตัว ผู้เสียหายยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายยิงผู้เสียหาย คำตำรวจผู้จับก็เป็นพยานบอกเล่า แม้จำเลยให้การรับสารภาพต่อผู้จับ คำรับสารภาพ ก็เป็นเพียงพยานบอกเล่า เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธย่อมไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: สิทธิเรียกร้องค่าสินค้า, อายุความ 10 ปี, และการผิดสัญญา
คำฟ้องของโจทก์นอกจากจะกล่าวถึงวิธีการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเริ่มตั้งแต่จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต และโจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้ตามคำขอเพื่อชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้ว ยังคัดสำเนาเอกสารทั้งหมดแนบมาท้ายฟ้องด้วยทั้งคำให้การของจำเลยก็แสดงว่าจำเลยเข้าใจคำฟ้องดีอยู่แล้ว ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม
สิทธิเรียกร้องที่จะเรียกเงินที่ได้ชำระค่าสินค้าไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่ชำระค่าสินค้าอันเป็นเวลาที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตต่อโจทก์ เมื่อโจทก์สนองรับย่อมเกิดเป็นสัญญาผูกพันกัน เมื่อโจทก์ชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อให้แก่ผู้ขายไป จำเลยก็มีหน้าที่ชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าบริการ
เอกสารที่โจทก์ทำไว้ไม่มีข้อความผูกมัดให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีท การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีทจึงเป็นสิทธิของโจทก์และถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
สิทธิเรียกร้องที่จะเรียกเงินที่ได้ชำระค่าสินค้าไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่ชำระค่าสินค้าอันเป็นเวลาที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตต่อโจทก์ เมื่อโจทก์สนองรับย่อมเกิดเป็นสัญญาผูกพันกัน เมื่อโจทก์ชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อให้แก่ผู้ขายไป จำเลยก็มีหน้าที่ชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าบริการ
เอกสารที่โจทก์ทำไว้ไม่มีข้อความผูกมัดให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีท การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีทจึงเป็นสิทธิของโจทก์และถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: สิทธิเรียกร้องหนี้ค่าสินค้า, อายุความ 10 ปี, และการผิดสัญญา
คำฟ้องของโจทก์นอกจากจะกล่าวถึงวิธีการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเริ่มตั้งแต่จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต และโจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้ตามคำขอเพื่อชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้ว ยังคัดสำเนาเอกสารทั้งหมดแนบมาท้ายฟ้องด้วย ทั้งคำให้การของจำเลยก็แสดงว่าจำเลยเข้าใจคำฟ้องดีอยู่แล้ว ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม
สิทธิเรียกร้องที่จะเรียกเงินที่ได้ชำระค่าสินค้าไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่ชำระค่าสินค้าอันเป็นเวลาที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตต่อโจทก์ เมื่อโจทก์สนองรับย่อมเกิดเป็นสัญญาผูกพันกัน เมื่อโจทก์ชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อให้แก่ผู้ขายไป จำเลยก็มีหน้าที่ชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าบริการ
เอกสารที่โจทก์ทำไว้ไม่มีข้อความผูกมัดให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีท การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีทจึงเป็นสิทธิของโจทก์และถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
สิทธิเรียกร้องที่จะเรียกเงินที่ได้ชำระค่าสินค้าไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่ชำระค่าสินค้าอันเป็นเวลาที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตต่อโจทก์ เมื่อโจทก์สนองรับย่อมเกิดเป็นสัญญาผูกพันกัน เมื่อโจทก์ชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อให้แก่ผู้ขายไป จำเลยก็มีหน้าที่ชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าบริการ
เอกสารที่โจทก์ทำไว้ไม่มีข้อความผูกมัดให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีท การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีทจึงเป็นสิทธิของโจทก์และถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา