พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ข่มขืน กระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จำเลยที่ 3 สนับสนุนความผิด
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,318
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3161/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ส่งคืนทรัพย์สินเช่าเมื่อสัญญาเลิก และความรับผิดของผู้เช่าแม้จะให้ผู้อื่นครอบครอง
เมื่อสัญญาเช่าได้เลิกหรือระงับลง จำเลยผู้เช่ามีหน้าที่ต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่า เมื่อจำเลยยังมิได้ส่งมอบตึกแถวพิพาทแก่โจทก์ ทั้งยังได้ความว่าจำเลยให้บุคคลอื่นเข้ามาอยู่แทนจำเลย จำเลยจึงไม่มีทางพ้นความรับผิด โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยได้โดยหาจำต้องไปฟ้องผู้อื่นซึ่งอยู่ในตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3080/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแลกเช็คไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน การหักดอกเบี้ยล่วงหน้าจึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
สัญญาแลกเช็คเป็นเงินสดหรือขายลดเช็คนั้นเป็นสัญญาอีกอย่างหนึ่งต่างหากจากการให้กู้ยืมเงินตามความหมายของพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 การที่โจทก์หักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า15 บาท จ่ายต้นเงินให้เพียง 85 บาท จึงมิใช่กรณีเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราอันจะเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวได้ที่ดินโดยไม่ชอบตามกฎหมาย ยังมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวศาลพิพากษาตามยอม แม้โจทก์จะถือหรือใช้สิทธิในที่ดินที่ได้มาอย่างเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ได้ และต้องจำหน่ายที่ดินนั้นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 94 ก็ตาม โจทก์ก็ยังมีสิทธิได้รับผลตามมาตรา 94 อยู่คำพิพากษาตามยอมจึงหาฝ่าฝืนหรือขัดต่อมาตรา 86 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนตัวทนาย, ผลกระทบต่อการสืบพยาน, และการถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน
คำสั่งเรื่องทนายถอนตัวนั้น จะมีผลก็ต่อเมื่อตัวความทราบแล้วเมื่อยังไม่ทราบ ก็ถือว่าศาลชั้นต้นยังมิได้อนุญาตให้ทนายถอนตัวศาลได้สั่งกำชับในการขอเลื่อนคดีครั้งก่อน ว่าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมหากไม่มีพยานมาศาลโดยไม่มีเหตุสมควร จะถือว่าไม่มีพยานมาศาล ซึ่งทนายทราบคำสั่งนี้แล้ว เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน จึงชอบแล้ว กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จะขอพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องผิดพลาดเรื่องปริมาณยาเสพติดและสถานที่เกิดเหตุ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าฝิ่นที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองราคา64,500 บาท ฝิ่นราคากรัมละ 10 บาท ที่ว่าฝิ่นหนัก 6.450 กรัมจึงเป็นเพราะพิมพ์ผิดที่ถูกน่าจะเป็น 6,450 กรัม หรือ 6.450 กิโลกรัมจึงจะลงตัวกับราคาข้างต้นดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหารลงโทษละเมิดอำนาจศาล: ศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์
การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ถึง มาตรา 33นั้น หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใด ก็เป็นอำนาจของศาลที่พิจารณาคดีนั้นที่จะใช้อำนาจตามบทกฎหมายดังกล่าว
การที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 3(ศาลจังหวัดอุดรธานี)ลงโทษผู้ขอประกันฐานละเมิดอำนาจศาลในการพิจารณาคดี ย่อมเป็นการลงโทษในกรณีที่ผู้ขอประกันละเมิดอำนาจศาลทหาร ไม่ใช่ละเมิดอำนาจศาลพลเรือน คำสั่งลงโทษดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งของศาลทหาร ศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์ของผู้ขอประกันไว้พิจารณา
การที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 3(ศาลจังหวัดอุดรธานี)ลงโทษผู้ขอประกันฐานละเมิดอำนาจศาลในการพิจารณาคดี ย่อมเป็นการลงโทษในกรณีที่ผู้ขอประกันละเมิดอำนาจศาลทหาร ไม่ใช่ละเมิดอำนาจศาลพลเรือน คำสั่งลงโทษดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งของศาลทหาร ศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์ของผู้ขอประกันไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.219 กรณีศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจำคุกเป็นกักขัง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจำคุกคนละ 20 วันและปรับคนละ 500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้กักขังจำเลยคนละ 20 วัน แทนโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษและไม่ปรับดังนี้เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนด 1 ปี ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โทษจำคุกเป็นกักขัง และข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจำคุกคนละ 20 วันและปรับคนละ 500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้กักขังจำเลยคนละ 20 วัน แทนโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษและไม่ปรับดังนี้เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนด 1 ปี ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2742/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คห้ามเปลี่ยนมือ: ผู้รับเช็คไม่มีสิทธิอ้างเป็นผู้ทรงเมื่อเช็คถูกสลักหลังให้ผู้อื่น
จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คให้แก่จำเลยที่ 2 โดยระบุชื่อจำเลยที่ 2 และขีดฆ่าคำว่า 'หรือผู้ถือ' ออกแล้วขีดคร่อมและเขียนข้อความว่า 'PAYEEONLY' ซึ่งมีความหมายทำนองเดียวกับ 'เปลี่ยนมือไม่ได้' หรือ'ห้ามเปลี่ยนมือ' เช็คดังกล่าวจึงเป็นเช็คที่จะต้องนำเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 เท่านั้น จะเปลี่ยนมือไม่ได้ ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้รับเงินจะอ้างว่าเป็นผู้ทรงโดยการรับเช็คดังกล่าวจากจำเลยที่ 2 หาได้ไม่