พบผลลัพธ์ทั้งหมด 285 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง ก็ไม่ตัดสิทธิอัยการ
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343และตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ ก็ไม่ตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะฟ้องคดีนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 126 วรรคสอง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดไม่ต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง สิทธิฟ้องของโจทก์ยังคงอยู่
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ ก็ไม่ตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะฟ้องคดีนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 126 วรรคสอง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2129/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาไม่ขัดกัน หากเป็นคนละแปลงที่ดิน แม้เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์
ที่ดินที่ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยจัดการแบ่งแยกในคดีนี้คือโฉนดเลขที่ 451 เป็นที่ดินต่างแปลงกับโฉนดเลขที่ 447 ซึ่ง ศาลพิพากษาในอีกคดีหนึ่ง จึงมิใช่คำพิพากษาที่ขัดกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดบัญชีเงินงบประมาณ ไม่พอฟังว่าทุจริต ต้องมีหลักฐานชัดเจน
จากการตรวจสอบบัญชี หลักฐานการเบิกจ่ายเงินงบประมาณซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเสนอต่อทางจังหวัดว่า เงินขาดบัญชีไป 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งโจทก์ยึดถือกล่าวหาจำเลยเป็นคดีนี้ แต่คณะกรรมการที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นตรวจสอบปรากฏว่าจำนวนเงินขาดไปเพียง 1 แสนบาทเศษ ทั้งยังพบหลักฐานการจ่ายเงิน ซึ่งเป็นใบสำคัญคู่จ่ายที่จำเลยยังมิได้ลงไว้ในหลักฐานการเบิกจ่ายเงินในบัญชีเป็นจำนวน 8 แสนบาทเศษ ถ้าหากมีการอนุมัติการจ่ายถูกต้องและลงบัญชีให้ครบถ้วนแล้ว เงินก็จะไม่ขาดบัญชี การที่เงินขาดบัญชีไปน่าจะเกิดจากความบกพร่องในการทำบัญชีไม่เรียบร้อยมิใช่การทุจริตเกิดขึ้น ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดฐานมีสุราและเครื่องมือทำสุรา โดยพิจารณาจากกรรมต่างกันและความถูกต้องของอัตราโทษ
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาท นั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาทศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาท นั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาทศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงลงโทษความผิดฐานทำและมีสุราแช่/กลั่น และการแก้ไขโทษปรับที่ไม่ถูกต้อง
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาทนั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาท ศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาทนั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาท ศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จเกี่ยวกับจำได้หรือไม่จำได้คนร้ายในคดีอาญา: ศาลเชื่อเบิกความคลุมเครือเป็นความจริงตามเหตุผล
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่าจำคนร้ายได้ตามพฤติการณ์ที่จำเลยเห็นคนร้ายครั้งแรกในลักษณะที่จำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะถูกปล้นทรัพย์ เมื่อรถคนร้ายแซงปาดหน้า จำเลยหักรถกลับหนีไปตามทางเดิม จึงเห็นคนร้ายในระยะสั้นมากและอยู่ในอาการรีบร้อน ดังนั้นที่จำเลยเบิกความต่อศาลว่าจำคนร้ายได้คลับคล้ายคลับคลาจึงเชื่อว่าเป็นความจริง จำเลยไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผัดฟ้องและอำนาจฟ้อง: การอนุมัติจากอธิบดีกรมอัยการทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ แม้จะพ้นกำหนดผัดฟ้อง
โจทก์ได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องจำเลยได้ เมื่อไม่ฟ้องในระยะเวลาที่ขอผัดฟ้อง แต่ต่อมาได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการให้ฟ้องได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษี: นิติสัมพันธ์ซื้อขายสินค้ากับโรงงาน ไม่ถือเป็นการผลิต
โจทก์จำหน่ายรองเท้าโดยสั่งโรงงานผลิตให้ และตกลงราคากัน เป็นคู่ ๆ ไป โรงงานเป็นผู้เสียภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิต ดังนี้ นิติสัมพันธ์ ระหว่างโจทก์กับโรงงานเป็นเรื่องซื้อขายสินค้ากันตามธรรมดาไม่ใช่เจตนา ว่าจ้างหรือรับจ้างทำของอันจะถือว่าโจทก์อยู่ในฐานะเป็นผู้ผลิตรองเท้า ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1585/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติด การตีความคำว่า 'ขาย' ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ฯ และความชอบด้วยกฎหมายของการฟ้อง
พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 13 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย นำ เข้า หรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์" มีโทษตาม มาตรา 89 นั้น ไม่มีข้อความใดบัญญัติถึงโทษฐานมีไว้เพื่อขายก็ตาม แต่มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้นิยามว่า "ขาย" ไว้ว่า หมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ดังนั้น เมื่อจำเลยมีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งออกฤทธิ์ไว้ในครอบครองเพื่อขาย จึงเป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13และพิพากษาลงโทษตาม มาตรา 89 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายก็โดยอาศัยบทบัญญัติของมาตรา 4 ซึ่งให้คำนิยามของคำว่า "ขาย" ให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายอันอันถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 13 ซึ่งมีบทบัญญัติลงโทษไว้ในมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และขณะเดียวกันก็ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขายเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวนหนึ่ง ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องที่ขัดแย้งหรือฟ้องที่ไม่มีบทบัญญติของกฎหมายให้ลงโทษและไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายก็โดยอาศัยบทบัญญัติของมาตรา 4 ซึ่งให้คำนิยามของคำว่า "ขาย" ให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายอันอันถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 13 ซึ่งมีบทบัญญัติลงโทษไว้ในมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และขณะเดียวกันก็ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขายเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวนหนึ่ง ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องที่ขัดแย้งหรือฟ้องที่ไม่มีบทบัญญติของกฎหมายให้ลงโทษและไม่เคลือบคลุม