คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิพัฒน์ จักรางกูร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ vs. เช่าซื้อ: ศาลบังคับตามสัญญาเดิม แม้โจทก์ผิดสัญญา
ในการซื้อขายบ้านและที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยมีการทำหลักฐานกันไว้ตามใบสั่งจองเอกสารหมาย จ. 1 ฉบับ เดียวซึ่ง มี ใจ ความว่า จำเลยได้ตกลงจองบ้าน แบบ พ.พร้อม ที่ดิน แปลง หมายเลข ที่ 128 ของ โจทก์ ผู้ขาย โดยจำเลย ตกลง ชำระ เงินดาวน์ ให้โจทก์ ในวันสั่งจอง เป็นเงิน40,600 บาทและจะชำระต่อไป งวดที่หนึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน 2518 เป็นเงิน 19,000 บาท ส่วนค่าบ้านและค่าที่ดิน งวดต่างๆ จะชำระภายใน 30 วัน นับจากได้รับแจ้งจากโจทก์ทุกครั้งไป ถ้าจำเลยไม่ชำระตามกำหนดเวลาให้ถือว่าจำเลยผิดนัดและสละสิทธิ ในบ้านและที่ดินที่สั่งจองไว้ ยอมให้โจทก์ริบเงินที่ชำระแล้วทั้งสิ้น แล้วลงชื่อโจทก์จำเลย ใบสั่งจองนี้จึงมีลักษณะเป็นหลักฐานแห่งสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ รายพิพาทและชำระ เงินดาวน์กันเท่านั้น หาใช่เป็นสัญญาเช่าซื้อ ไม่
สัญญาเช่าซื้อมีกฎหมายบังคับในเรื่องแบบไว้เป็นพิเศษในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือเป็นโมฆะ ฉะนั้น เมื่อไม่มีการทำสัญญากันไว้เป็นหนังสือให้แจ้งชัดว่าเป็นการเช่าซื้อ จะฟังว่าเป็นการเช่าซื้อหาได้ไม่เพราะเป็นการขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
โจทก์ได้นำบ้านและที่ดินพิพาทที่ตกลงขายให้จำเลยตามใบสั่งจองเอกสารหมาย จ. 1 ไปโอนให้ ก. เสียก่อนที่จะโอนให้จำเลยเมื่อจำเลยทราบความจริงข้อนี้จึงไม่ชำระค่าผ่อนซื้อ ดังนี้โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและไม่อยู่ในฐานะที่สามารถชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 211 โจทก์จะหาว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดสัญญาเพราะผิดนัดไม่ชำระค่าผ่อนซื้อตามงวดหาได้ไม่
ในใบสั่งจองเอกสารหมาย จ.1 ไม่มีข้อความใดที่ระบุว่าโจทก์จะต้องจัดหาธนาคารมารับจำนองบ้านและที่ดินพิพาทเพื่อให้จำเลยกู้เงินมาชำระค่าบ้านและที่ดินแก่โจทก์ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์จัดหาธนาคารมารับจำนองบ้านและที่ดินรายนี้เพื่อนำเงินมาชำระราคาที่ค้างแก่โจทก์นั้นจึงเป็นการนอกเหนือข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้เป็นหนังสือเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาคนอนาถาไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อมีทรัพย์สินเพียงพอชำระค่าฤชาธรรมเนียม และศาลไม่ผิดที่ไม่อนุญาตเลื่อนสืบพยาน
จำเลยฎีกาอย่างคนอนาถา เมื่อแพ้คดีชั้นฎีกาศาลฎีกาให้จำเลยซึ่งมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและทำสัญญาจำนองไว้แก่โจทก์ เสียค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาในส่วนที่ได้รับยกเว้นทั้งหมด ถ้าไม่ชำระก็ให้เอาชำระจากทรัพย์สินที่จำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเบิกความเท็จ: ผู้เสียหายจากการเบิกความเท็จในคดีแพ่งมีสิทธิฟ้องอาญา
พี่ชายโจทก์ซื้อที่ดินและลำรางจากจำเลยเมื่อพี่ชายโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์กับพวกได้รับมรดกที่ดินและลำรางดังกล่าวต่อมาปรากฏว่าลำรางที่ซื้อจากจำเลยเป็นลำรางสาธารณะโจทก์กับพวกจึงฟ้องเรียกราคาลำรางและค่าเสียหายจากจำเลยจำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีดังกล่าวว่าไม่ได้ขายลำรางโจทก์ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4)โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเบิกความเท็จ: ผู้เสียหายจากการเบิกความเท็จในคดีแพ่งมีสิทธิฟ้องอาญา
พี่ชายโจทก์ซื้อที่ดินและลำรางจากจำเลย เมื่อพี่ชายโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์กับพวกได้รับมรดกที่ดินและลำรางดังกล่าว ต่อมาปรากฏว่าลำรางที่ซื้อจากจำเลยเป็นลำรางสาธารณะ โจทก์กับพวกจึงฟ้องเรียกราคาลำรางและค่าเสียหายจากจำเลย จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีดังกล่าวว่าไม่ได้ขายลำราง โจทก์ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดประเภทภาษีการค้าสำหรับตะเกียงแค้มปิ้งแก๊ส: สินค้าใช้กับแก๊สประเภท 2 หรือสินค้าทั่วไปประเภท 1
ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สแบ่งส่วนใหญ่ออกเป็นสองส่วน คือส่วนถังแก๊สกับส่วนตะเกียงซึ่งต่อกับถังแก๊ส จุดประสงค์เพื่อความสะดวกในการขนย้ายไปใช้ในที่ซึ่งไม่มีไฟฟ้าเพราะตะเกียงนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สจึงมีลักษณะเป็นเครื่องใช้อย่างหนึ่งซึ่งใช้กับแก๊สตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้า 1 ชนิด 2 (ข) หาใช่ชนิด 1 (ก) ไม่
ประมวลรัษฎากร มาตรา 89 (3) บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าเสียเบี้ยปรับในกรณียื่นแบบแสดงรายการไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาด และในวรรคท้ายบัญญัติว่า เบี้ยปรับตามมาตรานี้อาจงดหรือลดลงได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี โจทก์มิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาว่ากรณีของโจทก์ต้องด้วยระเบียบดังกล่าวอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยงดเบี้ยปรับให้โจทก์ได้ และไม่ปรากฏว่ากรณีต้องด้วยเหตุที่จะงดหรือลดเงินเพิ่มตามมาตรา 89 ทวิได้อย่างไร จึงไม่มีเหตุที่ศาลสั่งงดเงินเพิ่มให้โจทก์ได้เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกประเภทสินค้า (ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊ส) เพื่อเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร
ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สแบ่งส่วนใหญ่ออกเป็นสองส่วน คือส่วนถังแก๊สกับส่วนตะเกียงซึ่งต่อกับถังแก๊ส จุดประสงค์เพื่อความสะดวกในการขนย้ายไปใช้ในที่ซึ่งไม่มีไฟฟ้าเพราะตะเกียงนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สจึงมีลักษณะเป็นเครื่องใช้อย่างหนึ่งซึ่งใช้กับแก๊สตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้า 1 ชนิด 2(ข) หาใช่ชนิด 1(ก) ไม่
ประมวลรัษฎากร มาตรา 89(3) บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าเสียเบี้ยปรับในกรณียื่นแบบแสดงรายการไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาด และในวรรคท้ายบัญญัติว่า เบี้ยปรับตามมาตรานี้อาจงดหรือลดลงได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี โจทก์มิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาว่ากรณีของโจทก์ต้องด้วยระเบียบดังกล่าวอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยงดเบี้ยปรับให้โจทก์ได้ และไม่ปรากฏว่ากรณีต้องด้วยเหตุที่จะงดหรือลดเงินเพิ่มตามมาตรา 89ทวิ ได้อย่างไร จึงไม่มีเหตุที่ศาลสั่งงดเงินเพิ่มให้โจทก์ได้เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ขัดแย้งกัน: การครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายที่ดิน สิทธิในที่ดินต้องเป็นไปตามคำพิพากษาศาลสูงกว่า
ในคดีก่อนศาลฎีกาพิพากษาว่า ผู้ร้องได้โอนขายที่ดินพิพาทนี้ให้ผู้คัดค้านไปแล้ว และที่ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองปรปักษ์โดยไม่ได้ขายให้ผู้คัดค้านก็เท่ากับเป็นการครอบครองที่ดินของตนเอง ไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์ ในคดีหลังศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ โดยผู้ร้องปกปิดไม่ให้ศาลทราบถึงข้อเท็จจริงที่เคยฟ้องผู้คัดค้านไว้ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีก่อน คำสั่งของศาลชั้นต้นในคดีหลังนี้และคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีก่อนนั้นขัดกัน และต่างก็เป็นคำสั่งหรือคำพิพากษาที่มีผลเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทรายเดียวกัน อันถือว่าเป็นการปฏิบัติชำระหนี้อันแบ่งแยกจากกันมิได้ จึงต้องถือตามคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงกว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 146
ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกาในคดีก่อนดังกล่าวข้างต้น เป็นคำวินิจฉัยในประเด็นเรื่องครอบครองปรปักษ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งของคำสั่งศาล: คำพิพากษาฎีกาต้องเหนือกว่าคำสั่งศาลชั้นต้นในประเด็นกรรมสิทธิ์ที่ดินเดียวกัน
ในคดีก่อนศาลฎีกาพิพากษาว่า ผู้ร้องได้โอนขายที่ดินพิพาทนี้ให้ผู้คัดค้านไปแล้ว และที่ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองปรปักษ์โดยไม่ได้ขายให้ผู้คัดค้านก็เท่ากับเป็นการครอบครองที่ดินของตนเอง ไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์ในคดีหลังศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ โดยผู้ร้องปกปิดไม่ให้ศาลทราบถึงข้อเท็จจริงที่เคยฟ้องผู้คัดค้านไว้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อน คำสั่งของศาลชั้นต้นในคดีหลังนี้และคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีก่อนนั้นขัดกัน และต่างก็เป็นคำสั่งหรือคำพิพากษาที่มีผลเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทรายเดียวกัน อันถือว่าเป็นการปฏิบัติชำระหนี้อันแบ่งแยกจากกันมิได้ จึงต้องถือตามคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงกว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 146
ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกาในคดีก่อนดังกล่าวข้างต้น เป็นคำวินิจฉัยในประเด็นเรื่องครอบครองปรปักษ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายขณะนอนหลับด้วยอาวุธมีคม ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ผู้เสียหายบ่นถึงความประพฤติของจำเลย จำเลยโกรธเคืองฟันผู้เสียหายในขณะที่นอนหลับ 3 ครั้งที่คอปากและสีข้างเป็นการเลือกฟันอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายอาวุธที่ใช้เป็นมีดขอด้ามยาว 0.90 เมตรตัวมีดหรือใบมีดยาว 0.30 เมตร มีความคมและน้ำหนักสามารถทำร้ายให้ถึงตายได้ ดังนี้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทจากการเล่นการพนัน ผู้รับทราบข้อเท็จจริง จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อมอบให้แก่ พ. แต่เป็นเช็คที่มีมูลหนี้อันเกิดจากการเล่นการพนัน ซึ่งโจทก์ทราบอยู่แล้ว จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
of 24