คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 289 (6) (7)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายบท ปล้นทรัพย์พร้อมทำร้าย – ศาลต้องใช้บทหนักสุดลงโทษ แม้โจทก์ไม่ขอเพิ่มโทษ
อัยการศาลทหารเคยยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลทหารมาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลทหารเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลพลเรือน จะฟ้องต่อศาลทหารมิได้ จึงพิพากษายกฟ้องโดยยังมิได้วินิจฉัยถึงความผิดที่ฟ้องนั้นแต่ประการใด ดังนี้ พนักงานอัยการฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนด้วยข้อหาเดียวกันนั้นอีกได้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ และในการปล้นนี้จำเลยกับพวกยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,289,80 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามมาตรา 288,80 โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เพียงว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 340,43 อีกบทหนึ่ง จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์จริง และในการปล้นนี้คนร้ายที่ร่วมปล้นคนหนึ่งได้ยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วย อันเป็นความผิดหลายบท คือมาตรา 340 วรรค 4 กับมาตรา 289 (6) (7), 80 แต่ความผิดฐานพยายามฆ่านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามมาตรา 288,80 และโจทก์เห็นว่าชอบ มิได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 289,80 ศาลฎีกาจึงลงโทษได้เพียงตามมาตราที่ศาลชั้นต้นวางบทมา และเมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เฉพาะส่วนนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบปล้นทรัพย์-ร่วมกันฆ่า: เจตนาประหัตประหารผู้ต่อสู้ถือเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่า
จำเลยสามคนสมคบกันมาปล้นทรัพย์ทุกคนมีอาวุธปืนติดตัวมาคนละกระบอก เมื่อขู่บังคับพวกเจ้าทรัพย์ด้วยอาวุธปืนและเก็บทรัพย์ได้แล้ว พวกเจ้าทรัพย์ขัดขืนจึงเกิดต่อสู้กันกับพวกของจำเลยจำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงพวกของเจ้าทรัพย์คนหนึ่งทางข้างหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อพวกของเจ้าทรัพย์เข้าต่อสู้กับพวกจำเลย จำเลยทั้งสามได้ใช้ปืนยิงแล้วทุกคน เป็นแต่กระสุนปืนของจำเลยคนอื่นไม่ถูกใคร คงมีแต่จำเลยที่ 2 ยิงถูกพวกเจ้าทรัพย์คนเดียวพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามจึงเป็นการตั้งใจที่จะใช้อาวุธปืนที่เตรียมมานั้นประหัตประหารผู้ที่ต่อสู้ขัดขืน เพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์หรือเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การปล้นทรัพย์ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา จำเลยทุกคนจึงต้องมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 วรรค 6 และ 7 นอกเหนือจากความผิดฐานปล้นทรัพย์ตาม มาตรา 340 วรรคสุดท้ายด้วย