คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสนอ ศรนิยม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 540 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3322/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเจาะบ่อน้ำบาดาลเลิกกัน ต้องใช้ค่าแห่งงาน แม้สัญญาจะระบุคืนเงินทั้งหมด
โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยเจาะบ่อน้ำบาดาล โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าผู้รับจ้าง (จำเลย) ทำการเจาะบ่อไม่ได้ปริมาณน้ำถึง 50 แกลลอน ต่อหนึ่งนาทีสัญญานี้เป็นอันยกเลิกผู้รับจ้างจะคืนเงิน (ค่าจ้าง) ที่รับมาทั้งหมดจำเลยได้เจาะบ่อน้ำบาดาลตามสัญญาให้โจทก์แล้ว แต่ไม่ได้ปริมาณน้ำตามสัญญาดังนั้นสัญญาจึงเลิกกันตามเงื่อนไขข้างต้น โจทก์จำเลยกลับคืนไปสู่ฐานะดั่งที่เป็นอยู่เดิมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391เมื่อจำเลยทำงานให้ตามที่โจทก์จ้างไปแล้วแต่ได้น้ำไม่ครบปริมาณตามสัญญา โจทก์จึงต้องใช้เงินค่าแห่งงานที่จำเลยได้กระทำไปให้จำเลย แม้ในสัญญาจะระบุว่าจำเลยจะต้องคืนเงินที่รับไปจากโจทก์ทั้งหมด ก็หาได้หมายถึงว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องใช้ค่าแห่งงานให้จำเลยไม่ ซึ่งค่าแห่งงานนี้ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามสมควร โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเจาะบ่อน้ำบาดาลขอให้บังคับจำเลย คืนเงินมัดจำและเงินทดรองที่เบิกไปแล้วพร้อมทั้งค่าปรับแก่โจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดและฟ้องแย้งเรียกค่าจ้างที่ค้างชำระตาม สัญญาดังกล่าวจากโจทก์ ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้เจาะบ่อน้ำบาดาล ให้โจทก์แล้วแต่ไม่ได้ปริมาณน้ำตามสัญญาทำให้สัญญาเลิกกัน ศาลย่อมจักให้โจทก์ใช้ค่าแห่งงานที่ทำแล้วนั้นแก่จำเลยได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3322/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเจาะบ่อน้ำบาดาลเลิกกัน ต้องชดใช้ค่าแห่งงาน แม้สัญญาจะระบุคืนเงินทั้งหมด
โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยเจาะบ่อน้ำบาดาล โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าผู้รับจ้าง (จำเลย) ทำการเจาะบ่อไม่ได้ปริมาณน้ำถึง 50 แกลลอน ต่อหนึ่งนาทีสัญญานี้เป็นอันยกเลิก ผู้รับจ้างจะคืนเงิน (ค่าจ้าง) ที่รับมาทั้งหมด จำเลยได้เจาะบ่อน้ำบาดาลตามสัญญาให้โจทก์แล้ว แต่ไม่ได้ปริมาณน้ำตามสัญญา ดังนั้นสัญญาจึงเลิกกันตามเงื่อนไขข้างต้น โจทก์จำเลยกลับคืนไปสู่ฐานะดั่งที่เป็นอยู่เดิมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 เมื่อจำเลยทำงานให้ตามที่โจทก์จ้างไปแล้วแต่ได้น้ำไม่ครบปริมาณตามสัญญา โจทก์จึงต้องใช้เงินค่าแห่งงานที่จำเลยได้กระทำไปให้จำเลย แม้ในสัญญาจะระบุว่าจำเลยจะต้องคืนเงินที่รับไปจากโจทก์ทั้งหมด ก็หาได้หมายถึงว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องใช้ค่าแห่งงานให้จำเลยไม่ ซึ่งค่าแห่งงานนี้ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามสมควร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเจาะบ่อน้ำบาดาล ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินมัดจำและเงินทดรองที่เบิกไปแล้วพร้อมทั้งค่าปรับแก่โจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดและฟ้องแย้งเรียกค่าจ้างที่ค้างชำระตามสัญญาดังกล่าวจากโจทก์ ดังนี้ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เจาะบ่อน้ำบาดาลให้โจทก์แล้วแต่ไม่ได้ปริมาณน้ำตามสัญญาทำให้สัญญาเลิกกัน ศาลย่อมจักให้โจทก์ใช้ค่าแห่งงานที่ทำแล้วนั้นแก่จำเลยได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความในคดีแสดงความเป็นบุตร ศาลต้องรอคู่ความยกประเด็น ไม่สามารถวินิจฉัยเองได้
อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1556นั้น คู่ความจะต้องยกขึ้นเป็นประเด็น ศาลจึงวินิจฉัยให้ตาม มาตรา 193 ศาลจะยกอายุความขึ้นวินิจฉัยเองโดยไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นเป็นประเด็นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งลดงบประมาณโฆษณา ถือเป็นเหตุเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้
จำเลยให้โจทก์ลูกจ้างติดต่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆของจำเลยทางโทรทัศน์ โดยกำหนดงบประมาณค่าโฆษณาไว้เป็นเงิน 4ล้านบาทต่อปี โจทก์ติดต่อให้บริษัท อ. โฆษณาผลิตภัณฑ์ ของจำเลยและได้มีการจ่ายค่าโฆษณาไปแล้วเกือบ 3 ล้านบาทคงเหลือเพียง 1 ล้านบาทเศษ แต่เหลือเวลาที่จะต้อง โฆษณาอีก 7 เดือนประกอบกับสินค้าของจำเลยขายไม่ ค่อยดี จำเลยจึงสั่งให้โจทก์ลดค่าโฆษณาลงโจทก์ ขัดคำสั่งของจำเลยโดยมิได้สั่งให้บริษัท อ. ลดการโฆษณาลงถือว่าเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย อย่างร้ายแรงแล้วกรณีจึงต้องด้วยประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47(3) ที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย กรณีลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งนายจ้างที่ชอบด้วยกฎหมายจนนายจ้างได้รับความเสียหาย
จำเลยให้โจทก์ลูกจ้างติดต่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของจำเลยทางโทรทัศน์ โดยกำหนดงบประมาณค่าโฆษณาไว้เป็นเงิน 4 ล้านบาทต่อปี โจทก์ติดต่อให้บริษัท อ. โฆษณาผลิตภัณฑ์ ของจำเลยและได้มีการจ่ายค่าโฆษณาไปแล้วเกือบ 3 ล้านบาท คงเหลือเพียง 1 ล้านบาทเศษ แต่เหลือเวลาที่จะต้อง โฆษณาอีก 7 เดือน ประกอบกับสินค้าของจำเลยขายไม่ ค่อยดี จำเลยจึงสั่งให้โจทก์ลดค่าโฆษณาลงโจทก์ ขัดคำสั่งของจำเลยโดยมิได้สั่งให้บริษัท อ. ลดการโฆษณาลงถือว่าเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย อย่างร้ายแรงแล้วกรณีจึงต้องด้วยประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47 (3) ที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3218/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งจ่ายเช็คหลังพ้นตำแหน่ง: ผู้สั่งจ่ายที่พ้นสถานะไม่ผูกพัน ห้างไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ 2 เคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 แต่ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาท เมื่อพ้นจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 ไปแล้วมีผลเท่ากับขณะออกเช็คพิพาทผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงชื่อ เป็นผู้สั่งจ่ายจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3218/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งจ่ายเช็คหลังพ้นตำแหน่ง: ผู้สั่งจ่ายที่หมดอำนาจไม่ผูกพันห้าง
จำเลยที่ 2 เคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่1แต่ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาท เมื่อพ้นจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 ไปแล้วมีผลเท่ากับขณะออกเช็คพิพาทผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงชื่อ เป็นผู้สั่งจ่ายจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โรงแรมไม่ต้องรับผิดชอบทรัพย์สินสูญหายจากความประมาทของผู้พักอาศัยที่ไม่นำฝาก
โรงแรมจำเลยจัดบริการแก่ผู้มาพักโดยมีโกดังสำหรับรับฝากของไว้ไม่คิดค่าบริการ เมื่อมาพักก่อนครั้งเกิดเหตุโจทก์ก็เคยส่งของมาฝาก แม้ของที่นำติดตัวมาเองจะไม่เคยนำไปฝาก แต่ก็ไม่ปรากฏว่าโรงแรมจำเลยปฏิเสธไม่ยอมรับฝาก แสดงว่าโรงแรมจำเลยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้มาพักเป็นอย่างดีแล้ว ครั้งเกิดเหตุโจทก์มาพักไม่นำสินค้าที่นำติดตัวมาซึ่งมีราคาถึง 100,000 บาทเศษ ไปฝากเก็บไว้ในโกดัง ทั้งไม่ได้แจ้งต่อทางโรงแรมจำเลยว่ามีรถยนต์มาหรือบอกฝากสินค้าไว้พฤติการณ์ดังกล่าว เห็นได้ว่าเหตุที่สินค้าของโจทก์ในรถยนต์ถูกลักไปเป็นเพราะความประมาทอย่างร้ายแรงของโจทก์ อันเป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทของผู้พัก โรงแรมไม่ต้องรับผิดชอบทรัพย์สินสูญหาย
โรงแรมจำเลยจัดบริการแก่ผู้มาพักโดยมีโกดังสำหรับรับฝากของไว้ไม่คิดค่าบริการ เมื่อมาพักก่อนครั้งเกิดเหตุโจทก์ก็เคยส่งของมาฝาก แม้ของที่นำติดตัวมาเองจะไม่เคยนำไปฝากแต่ก็ไม่ปรากฏว่าโรงแรมจำเลยปฏิเสธไม่ยอม รับฝากแสดงว่าโรงแรมจำเลยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้มาพักเป็นอย่างดีแล้วครั้งเกิดเหตุโจทก์มาพักไม่นำสินค้าที่นำติดตัวมาซึ่งมีราคาถึง100,000 บาทเศษไปฝากเก็บไว้ในโกดังทั้งไม่ได้แจ้งต่อทางโรงแรมจำเลยว่ามีรถยนต์มาหรือบอกฝากสินค้าไว้พฤติการณ์ดังกล่าวเห็นได้ว่าเหตุที่สินค้าของโจทก์ในรถยนต์ถูกลักไปเป็นเพราะความประมาทอย่างร้ายแรงของโจทก์อันเป็น ความผิดของโจทก์เอง จำเลยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3210/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย, ค่าปรับ, การบอกเลิกสัญญา, หลักประกัน, การชดใช้ค่าเสียหาย
หลักประกันตามสัญญาซื้อขายของธนาคารที่จำเลยนำมามอบ แก่โจทก์เป็นการประกันเพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญา หากผิดสัญญาโจทก์มีสิทธิริบเมื่อถือว่าเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง ย่อมนำมาคิดหักกันได้จากค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับเพราะต้องซื้อสินค้าจากบุคคลอื่นแพงขึ้น กรณีจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงซื้อขายให้แก่โจทก์เลย โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อเห็นว่าจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้และจำเลยยอมให้โจทก์ใช้สิทธิปรับจำเลยได้จนถึงวันบอกเลิกสัญญา ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่คู่กรณีสมัครใจทำกันขึ้น ทั้งไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ของ ประชาชน ย่อมมีผลผูกพันคู่กรณี โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าปรับได้ด้วย สินค้าที่ซื้อขายกันเป็นเงิน 37,400 บาท โจทก์ต้องซื้อสินค้าแพงขึ้น 25,125 บาท ซึ่งศาลพิพากษาให้ชดใช้ส่วนนี้แล้ว จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาภายหลังนาน 2ปี ค่าปรับกรณีผิดสัญญาคิดเป็นรายวันเป็นเงินถึง 50,000บาทเศษ ซึ่งสูงเกินส่วน ศาลลดลงเป็นจำนวนพอสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก คงกำหนดค่าปรับให้โจทก์ 15,000 บาท
of 54