คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสนอ ศรนิยม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 540 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องรับรองแนวเขตที่ดินไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีแผนที่ท้ายฟ้อง เพราะจำเลยทราบข้อเท็จจริงจากคดีเดิมและโฉนดที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้รับรองแนวเขตที่ดินมีโฉนด โดยบรรยายฟ้องว่าที่ดินของโจทก์อยู่ทางทิศเหนือที่ดินมีโฉนดของจำเลย และคดีนี้สืบเนื่องมาจากคดีเดิมซึ่งได้มีการนำชี้ทำแผนที่พิพาทมาแล้ว ดังนี้ จำเลยย่อมทราบข้อเท็จจริงอยู่ก่อน ที่ดินต่างมีโฉนดด้วยกัน ซึ่งมีรูปแผนที่แสดงแนวเขตที่ดินของแต่ละฝ่ายในโฉนด การที่โจทก์ไม่มีแผนที่ท้ายฟ้องประกอบมากับคำฟ้องด้วยหาทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาแต่ประการใดไม่ ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิดด้วยตนเอง
คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า รับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาล เมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด ลำพังแต่บันทึกการจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
ในคดีอาญา โจทก์มีภาระหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด แม้จำเลยจะไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังลงโทษจำเลย โจทก์มีภาระนำสืบพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิด
คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า รับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาลเมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด ลำพังแต่บันทึกการจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
ในคดีอาญา โจทก์มีภาระหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด แม้จำเลยจะไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3045/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุของเจ้าพนักงาน การใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้ที่ไม่มีอาวุธ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่จับกุม พ. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน ระหว่างทางผู้เสียหายกับพวกรุมทำร้าย พ. ครั้นจำเลยห้ามปรามผู้เสียหายกลับชกจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายมีอาวุธ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย นับได้ว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3035/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อมีการโต้แย้งสิทธิครอบครองปรปักษ์ ศาลรับได้เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันล้อมรั้วตามคันสวนซึ่งจำเลยทำรุกล้ำเข้ามาในที่ดินมีโฉนดของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทำลายคันสวนและรื้อรั้วออกไป จำเลยให้การว่าได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 20 ปีเศษจึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยคดีจึงมีข้อพิพาทว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยแท้จริงหากฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้แก่จำเลยได้ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3035/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อมีการโต้แย้งสิทธิครอบครองปรปักษ์ ศาลรับฟ้องแย้งได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันล้อมรั้วตามคันสวนซึ่งจำเลยทำรุกล้ำเข้ามาในที่ดินมีโฉนดของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทำลายคันสวนและรื้อรั้วออกไป จำเลยให้การว่าได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 20 ปีเศษ จึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ และฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย คดีจึงมีข้อพิพาทว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยแท้จริงหากฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้แก่จำเลยได้ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2942/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้ครอบครองรถ แม้ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ เมื่อได้รับมอบหมายให้ใช้และบำรุงรักษา
โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท แต่มีสิทธิใช้และมีหน้าที่บำรุงรักษาตามที่กรมตำรวจมอบหมาย เมื่อจำเลยกระทำละเมิดเป็นเหตุให้รถเสียหายใช้การไม่ได้ ในขณะที่โจทก์ครอบครองใช้สอยอยู่ ย่อมถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์เกิดขึ้นแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2942/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีละเมิด แม้มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่มีสิทธิใช้และหน้าที่ดูแลรักษารถ
โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท แต่มีสิทธิใช้และมีหน้าที่บำรุงรักษาตามที่กรมตำรวจมอบหมาย เมื่อจำเลยกระทำละเมิดเป็นเหตุให้รถเสียหายใช้การไม่ได้ ในขณะที่โจทก์ครอบครองใช้สอยอยู่ ย่อมถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์เกิดขึ้นแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2894/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริษัทต่างประเทศประกอบการค้าในไทย มีหน้าที่เสียภาษีการค้า แม้จะระบุในสัญญาให้โจทก์เป็นผู้ออกภาษีแทน
บริษัทส.จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และมีสำนักงานตั้งอยู่ในต่างประเทศ แต่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย โดยเข้าทำสัญญากับโจทก์รับจ้างและร่วมดำเนินการในการให้บริการในด้านวิศวกรรมและให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับการผลิตเหล็กให้แก่โจทก์ โดยได้รับเงินค่าจ้างหรือค่าตอบแทนจากโจทก์ อันถือได้ว่าเป็นการประกอบการค้าจะต้องเสียภาษีการค้าสำหรับเงินค่าจ้างหรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากโจทก์เมื่อตามสัญญาระบุว่าโจทก์รับเป็นผู้ออกภาษีให้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นสาขาหรือตัวแทนของบริษัท ฮ. ในการเสียภาษีด้วย โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการการค้าของบริษัท ฮ. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อไม่ปฏิบัติ เจ้าพนักงานประเมินของกรมสรรพากรจำเลยย่อมมีอำนาจประเมินภาษี เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2879/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์ ผู้สนับสนุนการกระทำผิด ความรับผิดของผู้จ้างวาน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 1 คน ทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย แต่ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า ผู้เสียหายถูกจำเลยที่ 1 กับ ห. ทำร้ายจนสลบแล้วบุคคลทั้งสองเอาเงินไป อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้จ้างจำเลยที่ 1 กับ ห. และช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำผิดโดยการเรียกผู้เสียหายให้กลับบ้านแต่โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ความผิดดังกล่าวอยู่ในส่วนลักษณะคดี จึงมีผลปรับบทลงโทษถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาด้วย
of 54