พบผลลัพธ์ทั้งหมด 540 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2879/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิดชิงทรัพย์ ผู้ใช้และผู้สนับสนุนต้องรับโทษตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 1 คน ทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย แต่ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าผู้เสียหายถูกจำเลยที่ 1 กับ ห. ทำร้ายจนสลบแล้วบุคคลทั้งสองเอาเงินไป อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้จ้างจำเลยที่ 1กับ ห. และช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำผิดโดยการเรียกผู้เสียหายให้กลับบ้านแต่โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยที่ 2ฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ความผิดดังกล่าวอยู่ในส่วนลักษณะคดี จึงมีผลปรับบทลงโทษถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2728/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลยกคำขอฉุกเฉินถือเป็นที่สุด ไม่อุทธรณ์ได้ ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยไม่ชอบ
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 267 วรรคแรก เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอในเหตุฉุกเฉินแล้ว คำสั่งเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อโจทก์ฎีกาต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เช่าซื้อ, การรับประกันภัย, และการเรียกโจทก์ร่วม - กรณีรถยนต์ถูกลัก
โจทก์ได้เช่าซื้อรถยนต์ที่ถูกลักไปจากโจทก์ร่วม และได้เป็นผู้ร่วมเอาประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้แก่จำเลยโจทก์จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าซื้อ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมก็ไม่ฟ้องจำเลยให้รับผิด โจทก์ย่อมเสียหาย ถือได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและมีสิทธิเรียกผู้ให้เช่าซื้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยเนื่องจากเป็นผู้รับประโยชน์และมีส่วนได้เสียโดยตรงอันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นจำเป็นที่จะเรียกเข้ามาในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า 'ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า' แต่ขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไป รถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บมิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา
ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์โดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใดๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้อง และได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั้นเอง
ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า 'ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า' แต่ขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไป รถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บมิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา
ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์โดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใดๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้อง และได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เช่าซื้อ, การรับประกันภัย, และการเรียกโจทก์ร่วม กรณีรถยนต์ถูกลัก
โจทก์ได้เช่าซื้อรถยนต์ที่ถูกลักไปจากโจทก์ร่วม และได้เป็นผู้ร่วมเอาประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้แก่จำเลย โจทก์จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าซื้อ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมก็ไม่ฟ้องจำเลยให้รับผิด โจทก์ย่อมเสียหาย ถือได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและมีสิทธิเรียกผู้ให้เช่าซื้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยเนื่องจากเป็นผู้รับประโยชน์และมีส่วนได้เสียโดยตรงอันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นจำเป็นที่จะเรียกเข้ามาในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า "ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า" แต่ขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไปรถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บมิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา
ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์โดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใดๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้อง และได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั้นเอง
ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า "ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า" แต่ขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไปรถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บมิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา
ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์โดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใดๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้อง และได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล แม้มิได้โต้แย้ง หากไม่มีโอกาสโต้แย้งก่อน
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทนศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล แม้มิได้โต้แย้งก่อน หากไม่มีเวลาพอสมควรในการโต้แย้ง
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2607/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งการสืบพยาน และการไม่อนุญาตให้สืบพยานต่างประเทศเมื่อไม่จำเป็น
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งประเด็นไปสืบตัวจำเลยที่ 6 ที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วต่อมาได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเสียและสั่งให้ตัวจำเลยมาเบิกความที่ศาลแทนการส่งประเด็นนั้น เป็นอำนาจของศาลที่จะสั่งได้ว่าสมควรจะให้สืบพยานหลักฐานใดในศาลหรือนอกศาลตามความจำเป็นแห่งสภาพของพยานหลักฐานหรือจะให้ศาลอื่นสืบพยานหลักฐานแทนก็ได้หากศาลเห็นเป็นการจำเป็นดังมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่ายังไม่เป็นการจำเป็นที่จะให้ส่งประเด็นไปสืบจำเลยที่ 6 ที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ยังต่างประเทศ ศาลก็ชอบจะไม่อนุญาตได้แม้ศาลจะสั่งอนุญาตแล้ว ก็เพิกถอนได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้จึงชอบแล้ว
ศาลให้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดี เมื่อจำเลยมิได้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดีดังที่ศาลสั่ง และมิได้ขอเลื่อนคดี การที่ศาลสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนโดยไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบพยานดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบเช่นเดียวกัน และหาใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยไม่
ศาลให้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดี เมื่อจำเลยมิได้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดีดังที่ศาลสั่ง และมิได้ขอเลื่อนคดี การที่ศาลสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนโดยไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบพยานดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบเช่นเดียวกัน และหาใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยรู้ว่าไม่มีเงินในบัญชีเพื่อเป็นหลักประกันและดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์ร่วมรู้ดีว่าขณะที่จำเลยออกเช็ค ธนาคารได้ปิดบัญชีของจำเลยแล้ว การรับเช็คไว้มิใช่เพื่อให้ได้รับชำระหนี้ตามเช็ค แต่รับไว้เพื่อเป็นประกันและเพื่อใช้เช็คดังกล่าวดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยเพื่อบีบบังคับให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่บัญชีปิดแล้ว ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค หากมีเจตนาเพื่อประกันและดำเนินคดี
โจทก์ร่วมรู้ดีว่าขณะที่จำเลยออกเช็ค ธนาคารได้ปิดบัญชีของจำเลยแล้ว การรับเช็คไว้มิใช่เพื่อให้ได้รับชำระหนี้ตามเช็คแต่รับไว้เพื่อเป็นประกันและเพื่อใช้เช็คดังกล่าวดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยเพื่อบีบบังคับให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าโดยบันดาลโทสะจากเหตุข่มเหงทางจิตใจ
จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยามาประมาณ 11 ปี มีบุตรชาย 1 คน อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุประมาณ 7 เดือน ผู้ตายไปทำเหมืองพลอยที่จังหวัดตราด ส่วนจำเลยไม่ได้ไปอยู่ด้วยแต่ไปที่เหมืองเป็นครั้งคราว วันเกิดเหตุจำเลยไปถึงบ้านผู้ตายที่เหมืองเมื่อเวลาประมาณ 21 นาฬิกา เห็นบ้านพักปิดจึงแอบดูตามช่องประตูไม้บ้านพัก เห็นผู้ตาย กับผู้หญิงนอนเปลือยกาย กันอยู่ในห้องสองต่อสอง เมื่อจำเลยเคาะประตู ผู้หญิงคนนั้นได้ตะโกนถามว่าเคาะทำไม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมกระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยผู้เป็นภรรยาอย่างมาก เมื่อผู้ตายเปิดประตูห้องออก มา จำเลยก็ใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวไปยิงผู้ตายทันที 3 นัด ผู้ตายถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นกรณีที่จำเลยได้กระทำลงไปด้วยอารมณ์หึงหวงและโกรธแค้น ในขณะที่ยังไม่สามารถควบคุมสติและระงับอารมณ์โกรธได้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงทางด้านจิตใจด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72