พบผลลัพธ์ทั้งหมด 268 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3803/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่เคลือบคลุมในคดีละเมิดจากการหลอกลวงให้เชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินโดยมิชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมาขอกู้ยืมเงินจากโจทก์ โดยเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันโจทก์ตกลง ให้กู้ยืมแต่เห็นว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวมีชื่ออ. เป็นเจ้าของที่ดิน จึงมอบหนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่กรอกข้อความ แล้วให้จำเลยเอาไปให้อ.ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้ จำเลยนำ หนังสือสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวไปแล้วนำมาคืนให้โจทก์โดยใช้อุบาย หลอกลวงโจทก์ว่าอ.ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้แล้วโจทก์หลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลยและยึดถือหนังสือสัญญากู้ยืมเงินไว้ต่อมาเมื่อหนี้ ตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงินถึงกำหนดชำระแล้ว โจทก์ทวงถามให้ อ. ชำระหนี้แต่อ. ปฏิเสธว่าไม่เคยกู้ยืมเงินโจทก์ลายมือชื่อ อ. ในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเป็นลายมือชื่อปลอมการที่จำเลยใช้อุบาย หลอกลวงโจทก์ให้หลงเชื่อดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องเป็นเรื่องที่ขอให้ จำเลยรับผิดในมูลละเมิด เป็นคำฟ้องที่แสดงสภาพแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตลอดจนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยแจ้งชัด แม้จะมิได้ส่งสำเนาเอกสารที่กล่าวในคำบรรยายฟ้องมาพร้อม คำฟ้องด้วยคำฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3789/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: การยื่นฟ้องนอกภูมิลำเนาจำเลยด้วยเหตุผลพิเศษ และการใช้ดุลพินิจของศาล
จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดศรีสะเกษ แต่โจทก์ยื่นคำฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นศาลที่มูลคดีเกิด ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีสั่งคำร้องนี้ว่า "รวม" และรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยเพื่อแก้คดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาจนกระทั่งเสร็จการพิจารณา ถือว่าศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้อง ต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(2) ศาลจังหวัดอุบลราชธานีจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3789/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: การยื่นฟ้องนอกภูมิลำเนาจำเลย โดยอ้างเหตุผลมูลคดีเกิดที่อื่น ศาลมีดุลพินิจอนุญาตได้
จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดศรีสะเกษ แต่โจทก์ยื่นคำฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาต ยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นศาลที่มูลคดีเกิด ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีสั่งคำร้องนี้ว่า'รวม' และรับคำฟ้อง ของโจทก์ไว้พิจารณา ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลย เพื่อแก้คดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาจนกระทั่งเสร็จการพิจารณา ถือว่าศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้อง ต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา4(2) ศาลจังหวัดอุบลราชธานีจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์: เจ้าของทรัพย์ที่เสียหายต่างจากผู้เสียหายที่ฟ้องร้อง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยทำให้เสื่อมค่าไร้ประโยชน์ เป็นของส. แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นทรัพย์ของ ศ. เกิดเหตุในร้านของศ.ซึ่งส.อาศัย อยู่และขณะนั้นส.อยู่ในร้านด้วย ก็ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะยกฟ้องในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ด้วย ข้อแตกต่างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะนำสืบอ้างฐานที่อยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างเจ้าของทรัพย์ที่เสียหายไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยทำให้เสื่อมค่าไร้ประโยชน์ เป็นของ ส. แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นทรัพย์ของ ศ. เกิดเหตุในร้านของ ศ. ซึ่ง ส. อาศัยอยู่และขณะนั้น ส.อยู่ในร้านด้วย ก็ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะยกฟ้องในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ด้วยข้อแตกต่างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะนำสืบอ้างฐานที่อยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3566/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใช้กระทำความผิดฐานพยายามฆ่า: การยุยงส่งเสริม vs. การใช้โดยตรง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด โดยการ ใช้ให้นายแอ๊ดใช้ปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเป็นแต่ยุยงให้นายแอ๊ดยิงปืนขึ้นในกลุ่มบุคคลที่อยู่รอบๆ ตัวนายแอ๊ดและจำเลยเท่านั้นถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ เป็นเรื่องข้อแตกต่างในรายละเอียดลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ โดยยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288,80 และ 84 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3555/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การยอมรับผิดในความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย
โจทก์ทำตั๋วรถยนต์โดยสารของจำเลยหาย ต่อมาโจทก์ทำหนังสือยอมรับผิดชดใช้เงินเท่าราคาตั๋วที่หายให้แก่จำเลย โดยขอผ่อนชำระจนครบเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายต้องรับผิดในเงินค่าตั๋วรถยนต์โดยสารที่หายได้ลงชื่อรับผิดไว้ในหนังสือนั้นถูกต้อง หนังสือดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร 851 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3555/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันลูกจ้าง แม้เกิดจากเหตุตั๋วรถหาย
โจทก์ทำตั๋วรถยนต์โดยสารของจำเลยหายต่อมาโจทก์ทำ หนังสือยอมรับผิดชดใช้เงินเท่าราคาตั๋วที่หายให้แก่จำเลยโดยขอผ่อนชำระจนครบเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายต้องรับผิดในเงิน ค่าตั๋วรถยนต์โดยสารที่หายได้ลงชื่อรับผิดไว้ในหนังสือนั้นถูกต้อง หนังสือดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างประจำโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย กรณีลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งและได้รับการตักเตือน
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างละทิ้งงานไปและถูกตักเตือนเป็นหนังสือซึ่งข้อความในหนังสือเตือนมีว่า โจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่การงานไป และได้รับการตักเตือนแล้ว โดยโจทก์จำเลยลงชื่อไว้ หนังสือดังกล่าวมีข้อความอยู่ในตัวเองแล้วว่าจำเลยผู้เป็นนายจ้างได้แสดงความผิดของโจทก์ให้ปรากฏว่าโจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่การงานไป จึงเตือนให้โจทก์ระมัดระวังสังวรณ์ ไว้ เป็นทำนองว่ามิให้ละทิ้งงานอีกจึงเป็นหนังสือเตือนของนายจ้างที่ได้ตักเตือนลูกจ้างที่ได้กระทำการฝ่าฝืนคำสั่ง โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยผู้เป็นนายจ้างและนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว นายจ้างก็ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เมื่อเลิกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างประจำโดยชอบด้วยกฎหมาย หากลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งและได้รับการตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างละทิ้งงานไปและถูกตักเตือนเป็นหนังสือซึ่งข้อความในหนังสือเตือนมีว่า โจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่การงานไป และได้รับการตักเตือนแล้ว โดยโจทก์จำเลยลงชื่อไว้หนังสือดังกล่าว มีข้อความอยู่ในตัวเองแล้วว่าจำเลยผู้เป็นนายจ้างได้แสดงความผิด ของโจทก์ให้ปรากฏว่าโจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่การงานไปจึงเตือนให้โจทก์ ระมัดระวังสังวรณ์ ไว้ เป็นทำนองว่ามิให้ละทิ้งงานอีกจึงเป็นหนังสือเตือนของนายจ้างที่ได้ตักเตือนลูกจ้างที่ได้กระทำการฝ่าฝืนคำสั่ง โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเมื่อโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยผู้เป็นนายจ้างและนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้วนายจ้างก็ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เมื่อเลิกจ้าง