พบผลลัพธ์ทั้งหมด 268 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบริการโรงแรมที่จ่ายให้ลูกจ้างถือเป็นค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
เดิมจำเลยจ่ายค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างต่อมาจำเลยยกเลิกเงินค่าครองชีพเปลี่ยนมาจ่ายเป็นเงินค่าบริการให้แก่ลูกจ้าง แทนโดยตกลงว่าค่าบริการที่ลูกจ้างจะได้รับจากจำเลย จะไม่น้อยกว่าเงินค่าครองชีพที่ลูกจ้างได้รับอยู่แต่เดิมเมื่อเงินค่าบริการนั้นคือเงินที่จำเลยได้มาโดยวิธีเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาใช้บริการโรงแรมของจำเลย แล้วนำเงินดังกล่าวมาเก็บรวบรวมไว้ เมื่อถึงวันสิ้นเดือนจำเลยจะนำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่ลูกจ้างพร้อมกับค่าจ้างเป็นประจำทุกเดือน เงินค่าบริการดังกล่าวจึงเป็นเงินของจำเลยซึ่งจ่ายตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานตามปกติของวันทำงานถือได้ว่าเป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบริการโรงแรมที่จ่ายให้ลูกจ้างถือเป็นค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
เดิมจำเลยจ่ายค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างต่อมาจำเลยยกเลิกเงินค่าครองชีพเปลี่ยนมาจ่ายเป็นเงินค่าบริการให้แก่ลูกจ้าง แทนโดยตกลงว่าค่าบริการที่ลูกจ้างจะได้รับจากจำเลย จะไม่น้อยกว่าเงินค่าครองชีพที่ลูกจ้างได้รับอยู่แต่เดิมเมื่อเงินค่าบริการนั้นคือเงินที่จำเลยได้มาโดยวิธีเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาใช้บริการโรงแรมของจำเลย แล้วนำเงินดังกล่าวมาเก็บรวบรวมไว้ เมื่อถึงวันสิ้นเดือนจำเลยจะนำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่ลูกจ้างพร้อมกับค่าจ้างเป็นประจำ ทุกเดือน เงินค่าบริการดังกล่าวจึงเป็นเงินของจำเลยซึ่งจ่ายตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานตามปกติของวันทำงานถือได้ว่าเป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดที่ดิน สินสมรส การซื้อทอดตลาดโดยไม่สุจริต และผลกระทบต่อการจดทะเบียน
การขออายัดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 83 นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับอายัดไว้แล้ว ผู้ขออายัดต้องไปดำเนินการ ทางศาลภายในเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ถ้าไม่ดำเนินการทางศาล การอายัดก็สิ้นผลเมื่อพ้นเวลา ดังกล่าว แต่ถ้าผู้ขออายัดดำเนินการทางศาล ภายในเวลาดังกล่าว การอายัดก็ยังคงมีผลอยู่ต่อไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล โดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่ 2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอ แบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล และโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการ แบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2 ฟ้องขอแบ่งไว้ ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้ โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล โดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่ 2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอ แบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล และโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการ แบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2 ฟ้องขอแบ่งไว้ ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้ โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดที่ดิน สินสมรส การซื้อที่ดินในการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
การขออายัดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 83 นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับอายัดไว้แล้วผู้ขออายัดต้องไปดำเนินการ ทางศาลภายในเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ถ้าไม่ดำเนินการทางศาล การอายัดก็สิ้นผลเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแต่ถ้าผู้ขออายัดดำเนินการทางศาล ภายในเวลาดังกล่าวการอายัดก็ยังคงมีผลอยู่ต่อไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอแบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2ฟ้องขอแบ่งไว้ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอแบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2ฟ้องขอแบ่งไว้ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดสัญญาซื้อขายอาคารพาณิชย์ ผู้ขายต้องรับผิดค่าเสียหาย แม้ผู้ซื้อยังไม่ได้ซื้ออาคารใหม่
โจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายอาคารพาณิชย์และที่ดินพร้อมกับชำระเงินงวดที่ 1 เมื่อการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ชั้นล่างแล้วเสร็จและกำลังก่อสร้างชั้นที่สอง ซึ่งตามผลงานก่อสร้างดังกล่าวสัญญาได้ระบุไว้ว่าต้องชำระเงินงวดที่ 2และงวดต่อไปแล้ว แต่ปรากฏว่าจำเลยก่อสร้างอาคารพาณิชย์นั้นต่อไปอีกประมาณ 7 วันก็หยุดการก่อสร้าง และทิ้งค้างไว้เนื่องจากเหตุขัดข้องอย่างอื่นที่มิใช่เพราะโจทก์ผิดนัดไม่ชำระราคาเป็นเวลานานกว่า 1 ปีจนกระทั่งโจทก์ฟ้องคดีก็ยังไม่ก่อสร้างต่อ และจำเลยก็มิได้ทวงถามให้โจทก์ชำระเงินงวดที่ 2 และงวดต่อๆ ไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา
การที่โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์และที่ดินเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา และโจทก์จะต้องซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินรายใหม่ในราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมที่ตกลงในสัญญาได้ และค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนี้ก็มิใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษแต่เป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ซึ่งแม้โจทก์จะยังมิได้ซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินใหม่ และไม่เป็นที่แน่นอนว่าโจทก์จะต้องเสียเงินเพิ่มเท่าไร ศาลก็มีอำนาจกำหนดจำนวนเงินค่าเสียหายให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์
การที่โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์และที่ดินเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา และโจทก์จะต้องซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินรายใหม่ในราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมที่ตกลงในสัญญาได้ และค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนี้ก็มิใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษแต่เป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ซึ่งแม้โจทก์จะยังมิได้ซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินใหม่ และไม่เป็นที่แน่นอนว่าโจทก์จะต้องเสียเงินเพิ่มเท่าไร ศาลก็มีอำนาจกำหนดจำนวนเงินค่าเสียหายให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยผิดสัญญาซื้อขายอาคารพาณิชย์ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย แม้ยังไม่ได้ซื้ออาคารอื่นแทน
โจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายอาคารพาณิชย์และที่ดินพร้อมกับชำระเงินงวดที่ 1 เมื่อการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ชั้นล่างแล้วเสร็จและกำลังก่อสร้างชั้นที่สอง ซึ่งตามผลงานก่อสร้างดังกล่าวสัญญาได้ระบุไว้ว่าต้องชำระเงินงวดที่ 2และงวดต่อไปแล้ว แต่ปรากฏว่าจำเลยก่อสร้างอาคารพาณิชย์นั้นต่อไปอีกประมาณ 7 วันก็หยุดการก่อสร้าง และทิ้งค้างไว้เนื่องจากเหตุขัดข้องอย่างอื่นที่มิใช่เพราะโจทก์ผิดนัดไม่ชำระราคาเป็นเวลานานกว่า 1 ปีจนกระทั่งโจทก์ฟ้องคดีก็ยังไม่ก่อสร้างต่อ และจำเลยก็มิได้ทวงถามให้โจทก์ชำระเงินงวดที่ 2 และงวดต่อๆ ไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา การที่โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์และที่ดินเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา และโจทก์จะต้องซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินรายใหม่ในราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมที่ตกลงในสัญญาได้ และค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนี้ก็มิใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษแต่เป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ซึ่งแม้โจทก์จะยังมิได้ซื้ออาคารพาณิชย์และที่ดินใหม่ และไม่เป็นที่แน่นอนว่าโจทก์จะต้องเสียเงินเพิ่มเท่าไร ศาลก็มีอำนาจกำหนดจำนวนเงินค่าเสียหายให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่า: การด่าทอในครอบครัวและการพิสูจน์เหตุฟ้องหย่าจากทัณฑ์บน
โจทก์จำเลยทะเลาะกันเกือบทุกวัน เพราะจำเลยหึงหวงโจทก์เข้าใจว่าโจทก์ซึ่งเป็นภริยามีชู้ เมื่อโจทก์จำเลยด่าทอกันเป็นปกติวิสัยตลอดจนสิ่งแวดล้อมและอุปนิสัยของโจทก์จำเลย โจทก์จะเอาข้อความที่จำเลยกล่าวในการด่าทอหลังกลับจากไปเที่ยวที่บางแสนโดยมีชายอื่นไปด้วยที่ว่า 'โคตรแม่มึงไม่สั่งสอน มึงมันดอกทอง' มาเป็นข้ออ้างว่าจำเลยดูหมิ่นโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง เพื่อเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการคัดค้านและเสนอผู้จัดการมรดก กรณีมีเหตุขัดข้องและทายาทไร้ความสามารถ
เมื่อปรากฏในคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และในคำคัดค้านของพนักงานอัยการว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกและทายาทบางคน มีจิตฟั่นเฟือนไม่สามารถจัดการมรดกได้ พนักงานอัยการผู้คัดค้าน จึงมีอำนาจคัดค้านคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก และมีอำนาจขอให้ศาลตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกร่วม
เมื่อปรากฏในคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และในคำคัดค้านของพนักงานอัยการว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกและทายาทบางคนมีจิตฟั่นเฟือนไม่สามารถจัดการมรดกได้ พนักงานอัยการผู้คัดค้านจึงมีอำนาจคัดค้านคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกและมีอำนาจขอให้ศาลตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การยิงปืนไปที่กองมะพร้าวสูงถึงหลังคารถ ไม่ถึงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายในรถ
จำเลยยิงปืนลูกซองยาว 1 นัดไปที่กองมะพร้าว 400 ลูกซึ่งบรรทุกอยู่ในกระบะรถยนต์สูงถึงหลังคารถเมื่อรถแล่นเลยตำแหน่งที่จำเลยยืนไม่ต่ำกว่า 3-4 วา จำเลยย่อมเล็งเห็นแล้วว่าไม่มีทางที่กระสุนปืนจะทะลุกองมะพร้าวซึ่งสูงถึงหลังคารถไปถูกผู้เสียหายที่นั่งในเก๋งหน้ารถได้ ฟังได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า