พบผลลัพธ์ทั้งหมด 364 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือเตือนของนายจ้าง: รูปแบบและความสมบูรณ์ทางกฎหมาย การเลิกจ้างที่เป็นธรรม
หนังสือเตือนของนายจ้างจะต้องมีรูปแบบอย่างใดจึงจะเป็นการสมบูรณ์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ฉะนั้นการจะวินิจฉัยว่าหนังสือใดเป็นหนังสือเตือน จึงพิจารณาโดยความคิดเห็นของบุคคลสามัญจะพึงเข้าใจโจทก์เคยมีแบบฟอร์มใบเตือนใช้อยู่ทั่วไปครั้นในคราวเตือนลูกจ้างมิได้ใช้แบบฟอร์มเช่นนั้นเมื่อหนังสือดังกล่าวมีข้อความเตือนลูกจ้างอย่างชัดแจ้ง ทั้งยังมีข้อความว่าต่อไปจะลงโทษหากปฏิบัติทำนองเดิมอีกดังนี้เป็นการว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือเตือนของนายจ้าง: รูปแบบและหลักเกณฑ์การวินิจฉัย ความชอบธรรมในการเลิกจ้าง
หนังสือเตือนของนายจ้างจะต้องมีรูปแบบอย่างใดจึงจะเป็นการสมบูรณ์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ฉะนั้นการจะวินิจฉัยว่าหนังสือใดเป็นหนังสือเตือน จึงพิจารณาโดยความคิดเห็นของบุคคลสามัญจะพึงเข้าใจ โจทก์เคยมีแบบฟอร์มใบเตือนใช้อยู่ทั่วไป ครั้นในคราวเตือนลูกจ้างมิได้ใช้แบบฟอร์มเช่นนั้น เมื่อหนังสือดังกล่าวมีข้อความเตือนลูกจ้างอย่างชัดแจ้ง ทั้งยังมีข้อความว่าต่อไปจะลงโทษหากปฏิบัติทำนองเดิมอีก ดังนี้ เป็นการว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296-1297/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือเตือนทางวินัยที่ไม่ใช่โทษทางวินัย ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิและไม่กระทบการจ่ายค่าชดเชย
ข้อบังคับองค์การจำเลยว่าด้วยวินัยฯ กำหนดโทษผิดวินัยไว้เพียง 5 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือนให้ออก ปลดออก แต่ไม่รวมถึงตักเตือนด้วยการที่จำเลยมีหนังสือเตือนโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการลงโทษโจทก์และหากโจทก์จะถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยเพราะกระทำการดังถูกตักเตือนมาแล้วโจทก์ก็ยกเป็นข้อต่อสู้ได้ว่าการเตือนเป็นหนังสือนี้ไม่ถูกต้องได้ดังนั้น กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิอันจะเป็นเหตุให้โจทก์นำคดีมาสู่ศาลขอให้เพิกถอนหนังสือเตือนดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296-1297/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตักเตือนทางวินัยที่ไม่เข้าข่ายการลงโทษ และผลกระทบต่อสิทธิในการเลิกจ้าง
ข้อบังคับองค์การจำเลยว่าด้วยวินัยฯ กำหนดโทษผิดวินัยไว้เพียง 5 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ให้ออก ปลดออก แต่ไม่รวมถึงตักเตือนด้วย การที่จำเลยมีหนังสือเตือนโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการลงโทษโจทก์ และหากโจทก์จะถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยเพราะกระทำการดังถูกตักเตือนมาแล้ว โจทก์ก็ยกเป็นข้อต่อสู้ได้ว่าการเตือนเป็นหนังสือนี้ไม่ถูกต้องได้ดังนั้น กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิอันจะเป็นเหตุให้โจทก์นำคดีมาสู่ศาลขอให้เพิกถอนหนังสือเตือนดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบพยานหลักฐานของผู้ฟ้องคดี และการรับรองข้อเท็จจริงของจำเลยในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้กู้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะผู้ค้ำประกัน และจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จำนอง ร่วมรับผิดต่อโจทก์ในมูลหนี้ที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และที่ 4 ยื่นคำให้การต่อสู้คดีส่วนจำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์โดยมิได้ชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทโจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องนำสืบพยานหลักฐานเต็มตามฟ้อง จะถือว่าจำเลยที่ 2 และที่ 4 มิได้ปฏิเสธข้อหาตามฟ้องต้องถือว่ายอมรับจึงไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบในข้อที่จำเลยที่ 2 และที่ 4 ยอมรับแล้วหาได้ไม่ เพราะจำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การ จะถือว่า จำเลยที่ 3 ยอมรับตามคำฟ้องไม่ได้ ข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84(1) ที่ว่าคู่ความไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงซึ่งศาลเห็นว่าคู่ความอีกฝ่ายได้รับแล้วนั้นเป็นกรณีที่ศาลเห็นมิใช่โจทก์เห็นหรือเข้าใจเอาเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยเลี้ยงลูกจ้างบนเรือบรรทุกน้ำมันเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง ต้องนำมารวมคำนวณเงินทดแทน
ส. ลูกจ้างโจทก์ทำงานในตำแหน่งคนครัวประจำเรือบรรทุกน้ำมัน ระหว่างปฏิบัติงานในเรือ โจทก์จะจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้โดยหนึ่งเดือนจะได้ หยุดงาน 7 วันติดต่อกันและไม่ได้เบี้ยเลี้ยง การปฏิบัติงานของ ส. ระหว่างเรือออกปฏิบัติงานขนส่งน้ำมันจึงมิใช่เป็นการไปทำงาน นอกสถานที่เป็นครั้งคราวเบี้ยเลี้ยงที่จ่ายเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างซึ่งจะต้อง นำมารวมเป็นฐานคำนวณเงินทดแทนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยเลี้ยงคนครัวเรือ: ค่าจ้างต้องนำมารวมคำนวณเงินทดแทน
ส. ลูกจ้างโจทก์ทำงานในตำแหน่งคนครัวประจำเรือบรรทุกน้ำมันระหว่างปฏิบัติงานในเรือ โจทก์จะจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ โดยหนึ่งเดือนจะได้หยุดงาน 7 วันติดต่อกันและไม่ได้เบี้ยเลี้ยง การปฏิบัติงานของ ส. ระหว่างเรือออกปฏิบัติงานขนส่งน้ำมันจึงมิใช่เป็นการไปทำงานนอกสถานที่เป็นครั้งคราว เบี้ยเลี้ยงที่จ่ายเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างซึ่งจะต้องนำมารวมเป็นฐานคำนวณเงินทดแทนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
น้ำท่วมไม่ใช่เหตุสมควรในการขาดงาน เลิกจ้างได้หากเตือนแล้วขาดงานซ้ำ
เหตุน้ำท่วมจะถือเป็นข้อที่ขาดงานได้โดยมีเหตุผลอันสมควรหาได้ไม่ และไม่ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน แม้ผู้คัดค้านจะหยุดงานเพราะเหตุดังกล่าว คัดค้านก็ยังต้องขอลาตามระเบียบข้อบังคับการทำงานก่อน ผู้คัดค้าน ไม่อาจหยุดได้โดยพลการ เมื่อผู้คัดค้านจำเป็นต้องขอลาดังกล่าว แล้ว เมื่อมีเหตุการณ์อย่างเดียวกันเกิดขึ้นอีก จึงไม่เป็นกรณีฉุกเฉินทำให้ผู้คัดค้าน มีสิทธิหยุดงานได้โดยมีเหตุผลอันสมควรและไม่ต้องลา
ผู้คัดค้านถูกตักเตือนเป็นหนังสือฐานหยุดงานโดยไม่มีเหตุผลมาแล้ว เมื่อผู้คัดค้านขาดงานอีก 2 ครั้ง ผู้ร้องจึงขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านได้
ผู้คัดค้านถูกตักเตือนเป็นหนังสือฐานหยุดงานโดยไม่มีเหตุผลมาแล้ว เมื่อผู้คัดค้านขาดงานอีก 2 ครั้ง ผู้ร้องจึงขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดงานเนื่องจากน้ำท่วมไม่ถือเป็นเหตุสมควรหรือไม่ฉุกเฉิน แม้ขอลาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ
เหตุน้ำท่วมจะถือเป็นข้อที่ขาดงานได้โดยมีเหตุผลอันสมควรหาได้ไม่ และไม่ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน แม้ผู้คัดค้านจะหยุดงานเพราะเหตุดังกล่าว คัดค้านก็ยังต้องขอลาตามระเบียบข้อบังคับการทำงานก่อน ผู้คัดค้านไม่อาจหยุดได้โดยพลการ เมื่อผู้คัดค้านจำเป็นต้องขอลาดังกล่าวแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์อย่างเดียวกันเกิดขึ้นอีก จึงไม่เป็นกรณีฉุกเฉินทำให้ผู้คัดค้านมีสิทธิหยุดงานได้โดยมีเหตุผลอันสมควรและไม่ต้องลา
ผู้คัดค้านถูกตักเตือนเป็นหนังสือฐานหยุดงานโดยไม่มีเหตุผลมาแล้ว เมื่อผู้คัดค้านขาดงานอีก 2 ครั้ง ผู้ร้องจึงขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านได้
ผู้คัดค้านถูกตักเตือนเป็นหนังสือฐานหยุดงานโดยไม่มีเหตุผลมาแล้ว เมื่อผู้คัดค้านขาดงานอีก 2 ครั้ง ผู้ร้องจึงขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดจากการซื้อลดเช็คของลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้ทราบแต่ยังยินยอม ทำให้หนี้นั้นไม่อาจบังคับชำระได้
เช็คที่ลูกหนี้เอาไปขายลดให้เจ้าหนี้เริ่มขาดความเชื่อถือเพราะขึ้นเงินไม่ได้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2523 ก่อนที่ลูกหนี้ จะนำเช็คพิพาทมาขายลดให้เจ้าหนี้ในเดือนตุลาคม 2523 โดยเช็คเหล่านั้นลูกหนี้เป็นผู้ลงชื่อสลักหลัง ซึ่งลูกหนี้จะต้องร่วมกับผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อเจ้าหนี้แต่ลูกหนี้ก็มิได้ชำระ จึงถือได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว การที่เจ้าหนี้ยินยอมซื้อลดเช็คพิพาทไว้อีก ย่อมเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้งๆที่เจ้าหนี้รู้ถึง การที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483