คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมสถิตย์ ธีรกุล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามส่งออกเฮโรอีน แม้มีเจตนาเสพเองก็เป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติด
หลังจากผ่านการตรวจค้นหาวัตถุระเบิดและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำท่าอากาศยานกรุงเทพ อันเป็นการตรวจขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจค้นพบเฮโรอีนของกลางบรรจุถุงพลาสติก 1 ถุง ซ่อนอยู่ในรองเท้าของจำเลย ส่อเจตนาที่จะนำของกลางออกนอกราชอาณาจักร จำเลยลงมือกระทำความผิดแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอดจึงมีความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาเรื่องฟ้องเคลือบคลุม, การยกประเด็นนอกฟ้อง, และประเด็นยุติในชั้นอุทธรณ์
ปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะยกขึ้นฎีกาหาได้ไม่
โจทก์จำเลยนำชี้ที่พิพาทและต่างก็รับรองแผนที่พิพาทว่าถูกต้อง เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งว่าที่พิพาทเป็นที่ดินนอกฟ้อง ดังนี้ที่ดินที่โจทก์หาว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกก็คือที่พิพาทตามที่ปรากฏในแผนที่พิพาท มิใช่พิพาทในที่แปลงอื่น จึงไม่ใช่เรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
ครั้งแรกศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ไม่ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี จึงขาดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าโจทก์ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้อง ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาตามประเด็นที่กำหนดไว้ จำเลยไม่ฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ก็มิได้พิพากษาในประเด็นข้อนี้ ประเด็นเรื่องอายุความเอาคืนซึ่งการครอบครองจึงยุติ จำเลยจะยกขึ้นฎีกาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องฟ้องเคลือบคลุม ประเด็นนอกฟ้อง และประเด็นยุติ
ปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะยกขึ้นฎีกาหาได้ไม่
โจทก์จำเลยนำชี้ที่พิพาทและต่างก็รับรองแผนที่พิพาทว่าถูกต้อง เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งว่าที่พิพาทเป็นที่ดินนอกฟ้อง ดังนี้ที่ดินที่โจทก์หาว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกก็คือที่พิพาทตามที่ปรากฏในแผนที่พิพาท มิใช่พิพาทในที่แปลงอื่น จึงไม่ใช่เรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
ครั้งแรกศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ไม่ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี จึงขาดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าโจทก์ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้องยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิพากษาตามประเด็นที่กำหนดไว้ จำเลยไม่ฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ก็มิได้พิพากษาในประเด็นข้อนี้ประเด็นเรื่องอายุความเอาคืนซึ่งการครอบครองจึงยุติ จำเลยจะยกขึ้นฎีกาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบริษัทขนส่งที่ใช้รถแท็กซี่ กรณีลูกจ้างของเจ้าของรถเป็นผู้กระทำละเมิด
บริษัทจำเลยที่ 3 ประกอบกิจการขนส่งคนโดยสารโดยใช้รถแท็กซี่ ต. เจ้าของรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ ได้ทำสัญญานำรถเข้าร่วมกิจการของจำเลยที่ 3 โดยชำระเงินให้จำเลยที่ 3 จำนวน 150 บาท และโอนทะเบียนรถเป็นชื่อจำเลยที่ 3 ทั้งพ่นสีตรารถเป็นของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ยังได้รับประโยชน์ตอบแทนอีกเดือนละ 70 บาท ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 34 (พ.ศ.2513) ข้อ 5 และฉบับที่ 36 (พ.ศ.2519) ข้อ 2 ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2473 ซึ่งใช้บังคับขณะเกิดเหตุกำหนดให้บริษัทจำเลยที่ 3 มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อประกอบการเดินรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และต้องไม่ยอมให้ผู้ขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างหรือบุคคลอื่นเช่ารถไปหารายได้ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทจำเลยที่ 3 รับผิดในทางแพ่ง จำเลยที่ 3 ทราบข้อกำหนดของกฎกระทรวงนี้ดี ทั้งไม่ปรากฏหลักฐานเป็นหนังสือว่า ได้มีการถอนคืนการครอบครองรถไปจากจำเลยที่ 3 คนขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ เป็นลูกจ้างของ ต.ถือได้ว่าเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย จำเลยที่ 3ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบริษัทขนส่งแท็กซี่ต่อละเมิดจากลูกจ้างตามกฎกระทรวงที่กำหนดวัตถุประสงค์และข้อจำกัดการเช่ารถ
บริษัทจำเลยที่ 3 ประกอบกิจการขนส่งคนโดยสารโดยใช้รถแท็กซี่ ต. เจ้าของรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ ได้ทำสัญญานำรถเข้าร่วมกิจการของจำเลยที่ 3 โดยชำระเงินให้จำเลยที่ 3 จำนวน 150 บาท และโอนทะเบียนรถเป็นชื่อจำเลยที่ 3 ทั้งพ่นสีตรารถเป็นของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ยังได้รับประโยชน์ตอบแทนอีกเดือนละ 70 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 34(พ.ศ.2513) ข้อ 5 และฉบับที่ 36(พ.ศ.2519) ข้อ 2 ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์พ.ศ.2473 ซึ่งใช้บังคับขณะเกิดเหตุกำหนดให้บริษัทจำเลยที่3 มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อประกอบการเดินรถยนต์รับจ้าง(รถแท็กซี่) และต้องไม่ยอมให้ผู้ขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างหรือบุคคลอื่นเช่ารถไปหารายได้ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทจำเลยที่ 3 รับผิดในทางแพ่งจำเลยที่ 3 ทราบข้อกำหนดของกฎกระทรวงนี้ดีทั้งไม่ปรากฏหลักฐานเป็นหนังสือว่า ได้มีการถอนคืนการครอบครองรถไปจากจำเลยที่ 3 คนขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ เป็นลูกจ้างของ ต.ถือได้ว่าเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย จำเลยที่ 3ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับสินค้าผสม: สินค้ามีส่วนประกอบพลาสติกเกินร้อยละ 50 จัดเป็นพลาสติกตามพิกัดอัตรา
พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2503 ภาค 2 หมวด 10 ตอนที่48 ว่าด้วยกระดาษและกระดาษแข็ง ของที่ทำด้วยเยื่อกระดาษทำด้วยกระดาษหรือกระดาษแข็ง ได้มีหมายเหตุไว้ในข้อ 1(จ)ใจความว่าตอนนี้ไม่คลุมถึงของที่ทำด้วยวัตถุจำพวกพลาสติกหรือไฟเบอร์แข็ง ตามพิกัดอัตราประเภทที่ 39.07 เมื่อปรากฏว่าสินค้ารายพิพาทมีส่วนประกอบของพลาสติกเกินกว่าร้อยละ 50การที่จำเลยจัดให้สินค้ารายพิพาทของโจทก์อยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 39.07 จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของที่ประกอบด้วยวัตถุหรือสารตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากรพ.ศ.2503 ภาค 1 ข้อ 2 วรรคท้าย ประกอบด้วยข้อ 3(ข) สินค้ารายพิพาทจึงเป็นสินค้าประเภทแผ่นพลาสติก อันจะต้องเสียอากรขาเข้าในพิกัดอัตราประเภทที่ 39.07 อัตราร้อยละ 60 มิใช่กระดาษแข็งสำหรับใช้ในการก่อสร้าง ตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 48.09

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับสินค้าผสม: สินค้ามีส่วนประกอบพลาสติกเกิน 50% จัดเป็นพลาสติก ไม่ใช่กระดาษ
พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2503 ภาค 2 หมวด 10 ตอนที่48 ว่าด้วยกระดาษและกระดาษแข็ง ของที่ทำด้วยเยื่อกระดาษ ทำด้วยกระดาษหรือกระดาษแข็ง ได้มีหมายเหตุไว้ในข้อ 1 (จ) ใจความว่า ตอนนี้ไม่คลุมถึงของที่ทำด้วยวัตถุจำพวกพลาสติกหรือไฟเบอร์แข็ง ตามพิกัดอัตราประเภทที่ 39.07 เมื่อปรากฏว่าสินค้ารายพิพาทมีส่วนประกอบของพลาสติกเกินกว่าร้อยละ 50 การที่จำเลยจัดให้สินค้ารายพิพาทของโจทก์อยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 39.07 จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของที่ประกอบด้วยวัตถุหรือสารตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2503 ภาค 1 ข้อ 2 วรรคท้าย ประกอบด้วยข้อ 3(ข) สินค้ารายพิพาทจึงเป็นสินค้าประเภทแผ่นพลาสติก อันจะต้องเสียอากรขาเข้าในพิกัดอัตราประเภทที่ 39.07 อัตราร้อยละ 60 มิใช่กระดาษแข็งสำหรับใช้ในการก่อสร้าง ตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 48.09

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คชำระหนี้การพนันที่ไม่มีมูลทางกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ป. กับ ย. สามีจำเลยเข้าหุ้นเล่นการพนัน เมื่อคิดบัญชี ย.ต้องชำระหนี้การพนันให้ ป. แต่ไม่มีเงินและเช็คจะออกชำระให้ ป.ให้จำเลยชำระแทน โดยจัดการให้จำเลยเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ธนาคารแล้วจำเลยออกเช็คชำระหนี้อันเกิดจากการพนันให้ ป. ซึ่งตามกฎหมายหามีมูลหนี้ไม่แม้โจทก์จะรับเช็คดังกล่าวไว้ด้วยประการใดก็ตาม เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: ความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาและการแสดงออกถึงการยอมรับว่าเป็นบิดา ทำให้บุตรมีสิทธิได้รับมรดก
ชายไปอยู่กินกับหญิง และแสดงความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาในที่ต่าง ๆ อย่างเปิดเผยเป็นการยอมรับว่าหญิงเป็นภริยา มีการจัดเลี้ยงฉลองการตั้งครรภ์ เป็นการแสดงออกถึงการรับรองว่าโจทก์ซึ่งเป็นทารกในครรภ์มารดาเป็นบุตรของตน โจทก์จึงเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับมรดกตามมาตรา 1629(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากสิ่งปลูกสร้างชำรุด: เจ้าของต้องชดใช้ค่าเสียหายจากท่อระบายน้ำแตก
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความเสียหายอันเกิดจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างของจำเลย มิใช่ให้รับผิดจากการทำละเมิดของลูกจ้างโจทก์จึงไม่ต้องนำสืบถึงฐานะความเกี่ยวพันของลูกจ้าง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าความเสียหายเกิดจากท่อระบายน้ำจากดาดฟ้าโรงแรมชำรุดบกพร่องหรือบำรุงรักษาไม่เพียงพอ จำเลยซึ่งเป็นทั้งผู้ครองและเจ้าของดาดฟ้าโรงแรมและท่อระบายน้ำดังกล่าว จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้รับประกันภัย ซึ่งได้ใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 ประกอบด้วยมาตรา 880
of 10