คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิชัย วุฒิจำนงค์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 449 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประพฤติเนรคุณต่อบิดาโดยการด่าทอถือเป็นการหมิ่นประมาททำให้เพิกถอนการให้ได้
จำเลยด่าโจทก์ซึ่งเป็นบิดาว่า"บักเฒ่าหัวหงอกบักเฒ่าตาบอดบักเฒ่าหูหนวกเฒ่าหนังยานเฒ่าหนังเหี่ยวหนีไปไหนก็ไปกูไม่เลี้ยงมึงดอกไปอยู่กับหมาโน่น"ทำให้โจทก์ได้รับความอับอายถือเป็นเหตุประพฤติเนรคุณโจทก์ถอนคืนการให้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามฆ่า: การยับยั้งการกระทำสำเร็จ และการพิจารณาเจตนาจากพฤติการณ์
จำเลยจ้องปืนไปยังธ. โดยใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในโกร่งไกปืนแต่เมื่อธ. วิ่งหนีขึ้นบ้านจำเลยก็ไม่ได้วิ่งตามกลับใจจ้องปืนมายังว. แทนทั้งที่มีโอกาสจะยิงะ. ได้และเมื่อว. พูดกับจำเลยว่าตนไม่เกี่ยวพร้อมกับยกมือขึ้นป้องแล้วเข้าไปหลังบ้านเข้าไปซ่อนตัวในป่าจำเลยก็ไม่ได้ตามว. ไปทั้งที่มีโอกาสจะยิงได้แสดงว่าจำเลยได้ยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอดจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามฆ่าธ. และว..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามฆ่าและการยับยั้งชั่วขณะ: การกระทำที่มิได้บรรลุผลสำเร็จย่อมไม่เป็นความผิด
เมื่อ ธ. วิ่งหนีจำเลยไปแล้ว จำเลยไม่ได้วิ่งไล่ตามไปยิงโดยกลับใจเอาปืนมาจ้อง ว. แทน ทั้งที่มีโอกาสจะยิง ธ. ได้ จึงเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด เมื่อจำเลยจ้องปืนไปทาง ว. แล้ว ว. พูดว่าไม่เกี่ยวและหลบเข้าไปทางหลังบ้าน จำเลยเดินไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ตามเข้าไปยิง ว.ทั้งที่มีโอกาสจะยิงได้ เป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามฆ่า ธ และ ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยับยั้งการกระทำความผิดพยายามฆ่า: การไม่ลงมือยิงหลังจากมีโอกาส ถือเป็นยับยั้งเสียเอง
เมื่อธ.วิ่งหนีจำเลยไปแล้วจำเลยไม่ได้วิ่งไล่ตามไปยิงโดยกลับใจเอาปืนมาจ้องว.แทนทั้งที่มีโอกาสจะยิงธ.ได้จึงเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอดเมื่อจำเลยจ้องปืนไปทางว.แล้วว.พูดว่าไม่เกี่ยวและหลบเข้าไปทางหลังบ้านจำเลยเดินไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ตามเข้าไปยิงว.ทั้งที่มีโอกาสจะยิงได้เป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอดจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามฆ่าธและว..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้สองสถานและการยื่นบัญชีระบุพยาน: ศาลมีอำนาจสั่งไม่ต้องชี้สองสถานหากคดีไม่ซับซ้อน และมีสิทธิไม่รับบัญชีระบุพยานหากจำเลยประมาทเลินเล่อ
ป.วิ.พ.มาตรา182ได้ให้อำนาจศาลไว้ว่าถ้าทำการชี้สองสถานแล้วจะทำให้การพิจารณาง่ายเข้าก็ให้ทำการชี้สองสถานได้ดังนั้นหากคดีไม่มีประเด็นข้อยุ่งยากศาลก็ไม่จำต้องชี้สองสถาน จำเลยยื่นคำให้การวันที่1เมษายน2526ศาลชั้นต้นกำหนดสืบพยานโจทก์ในวันที่2พฤษภาคม2526เป็นเวลาถึง1เดือนไม่ถือว่าเป็นการเร็วเกินไป จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานความว่าตัวจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัดทนายจำเลยไม่ทราบว่าจังหวัดไหนติดต่อกันไม่ได้จำเลยเพิ่งเดินทางกลับมาวันนี้เมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ทันภายใน3วันก่อนวันสืบพยานโจทก์เป็นเหตุผลอันไม่สมควรที่จะให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานของจำเลย จำเลยไม่ยื่นบัญชีระบุพยานถือว่าไม่มีพยานมาสืบไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาคดีใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้สองสถาน, กำหนดนัดสืบพยาน, และเหตุผลที่ไม่รับบัญชีระบุพยานของผู้จำเลย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา182ได้ให้อำนาจศาลไว้ว่าถ้าทำการชี้สองสถานแล้วจะทำให้การพิจารณาง่ายเข้าก็ให้ทำการชี้สองสถานได้ดังนั้นหากคดีไม่มีประเด็นข้อยุ่งยากศาลก็ไม่จำต้องชี้สองสถาน. จำเลยยื่นคำให้การวันที่1เมษายน2526ศาลชั้นต้นกำหนดสืบพยานโจทก์ในวันที่2พฤษภาคม2526เป็นเวลาถึง1เดือนไม่ถือว่าเป็นการเร็วเกินไป. จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานความว่าตัวจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัดทนายจำเลยไม่ทราบว่าจังหวัดไหนติดต่อกันไม่ได้จำเลยเพิ่งเดินทางกลับมาวันนี้เมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ทันภายใน3วันก่อนวันสืบพยานโจทก์เป็นเหตุผลอันไม่สมควรที่จะให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานของจำเลย. จำเลยไม่ยื่นบัญชีระบุพยานถือว่าไม่มีพยานมาสืบไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาคดีใหม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายหุ้นแบบโอนลอยไม่ขัดกฎหมาย หากมีเจตนาซื้อขายเพื่อหากำไร ไม่ใช่การพนัน
โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์เคยซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยและได้โอนหุ้นให้โดยยังไม่ได้ใส่ชื่อจำเลยหรือที่เรียกว่าโอนลอยให้แก่จำเลยหลายครั้งจำเลยไม่เคยทักท้วงการกระทำดังกล่าวแสดงอยู่ว่าคู่กรณีซื้อขายหุ้นกันเพื่อประสงค์จะขายต่อไปในทันทีในเมื่อมีกำไรไม่ประสงค์จะซื้อเก็บไว้เป็นกรรมสิทธิ์อย่างจริงจังนิติกรรมดังกล่าวระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายและไม่ใช่เป็นการพนันขันต่อแต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายหุ้นโดยโอนลอยเพื่อแสวงหากำไร ไม่เข้าข่ายพนันขันต่อหรือไม่
โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์เคยซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยและได้โอนหุ้นให้โดยยังไม่ได้ใส่ชื่อจำเลยหรือที่เรียกว่าโอนลอยให้แก่จำเลยหลายครั้งจำเลยไม่เคยทักท้วงการกระทำดังกล่าวแสดงอยู่ว่าคู่กรณีซื้อขายหุ้นกันเพื่อประสงค์จะขายต่อไปในทันทีในเมื่อมีกำไรไม่ประสงค์จะซื้อเก็บไว้เป็นกรรมสิทธิ์อย่างจริงจังนิติกรรมดังกล่าวระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายและไม่ใช่เป็นการพนันขันต่อแต่อย่างใด.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดแสดงความเห็นถึงยศของเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงขั้นดูหมิ่นหรือสบประมาท ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
จำเลยพูดโต้ตอบกับพลตำรวจ ม. ในระหว่างพลตำรวจ ม. ตรวจดูรถแท็กซี่คันที่จำเลยกับพวกนั่งมา เมื่อพลตำรวจ ม. บอกจำเลยว่าหัวหน้าด่านตรวจคือ ร้อยตำรวจโทปรีชา และพูดต่อไปว่า ถ้าหากจำเลยสงสัย (ว่าเป็นด่านตรวจรถที่ตั้งขึ้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่) ให้ไปสอบถามหัวหน้าด่านได้ จำเลยพูดว่า 'แค่ร้อยตำรวจโทนั้นกระจอก ไม่อยากคุยด้วยหรอก' ซึ่งแปลความหมายได้ว่า จำเลยพูดกับพลตำรวจ ม.ว่า จำเลยไม่อยากพูดคุยกับหัวหน้าด่านตรวจที่มียศแค่ร้อยตำรวจโท เพราะจำเลยเห็นว่าหัวหน้าด่านตรวจมียศต่ำไป จำเลยหาได้เจาะจงสบประมาทโจทก์ร่วมว่าเป็นคนต่ำต้อยหรือเลวแต่อย่างใดไม่ คำพูดดังกล่าวจึงเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพเท่านั้น หาใช่เป็นคำด่าหรือเป็นการสบประมาทเหยียดหยามโจทก์ร่วมให้ได้รับความอับอายแต่ประการใดไม่ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพูดถึงยศของผู้อื่นไม่เข้าข่ายดูหมิ่นหรือสบประมาท หากไม่ได้เจาะจงกล่าวถึงความประพฤติหรือลักษณะส่วนตัว
จำเลยพูดโต้ตอบกับพลตำรวจม.ในระหว่างพลตำรวจม.ตรวจดูรถแท็กซี่คันที่จำเลยกับพวกนั่งมาเมื่อพลตำรวจม.บอกจำเลยว่าหัวหน้าด่านตรวจคือร้อยตำรวจโทปรีชาและพูดต่อไปว่าถ้าหากจำเลยสงสัย(ว่าเป็นด่านตรวจรถที่ตั้งขึ้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ให้ไปสอบถามหัวหน้าด่านได้จำเลยพูดว่า'แค่ร้อยตำรวจโทนั้นกระจอกไม่อยากคุยด้วยหรอก'ซึ่งแปลความหมายได้ว่าจำเลยพูดกับพลตำรวจม.ว่าจำเลยไม่อยากพูดคุยกับหัวหน้าด่านตรวจที่มียศแค่ร้อยตำรวจโทเพราะจำเลยเห็นว่าหัวหน้าด่านตรวจมียศต่ำไปจำเลยหาได้เจาะจงสบประมาทโจทก์ร่วมว่าเป็นคนต่ำต้อยหรือเลวแต่อย่างใดไม่คำพูดดังกล่าวจึงเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพเท่านั้นหาใช่เป็นคำด่าหรือเป็นการสบประมาทเหยียดหยามโจทก์ร่วมให้ได้รับความอับอายแต่ประการใดไม่ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา136.
of 45