พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการขนส่งทางทะเล: การนำบทบัญญัติมาตรา 624 มาปรับใช้เมื่อไม่มีกฎหมายเฉพาะ
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการรับขนของทางทะเลของประเทศไทยยังไม่มี ในเรื่องอายุความฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนส่งทาง ทะเล ต้องนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 624 ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 8 หมวด 1 ว่าด้วยรับขนของ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับคดีตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสาม เมื่อปรากฏว่าผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งรับสินค้าไปเมื่อพุทธศักราช 2522 และ 2523 โจทก์รับช่วงสิทธิเรียกร้องจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งมาฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายและ บุบสลายของสินค้าเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2526 คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ
(วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2532)
(วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2532)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเสริมการขายและการตอบแทนไม่ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานที่แจ้งชัดมาแสดงโดยตรงว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกัน การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกเวชภัณฑ์ของบริษัท บ. ดำเนินการให้บริษัท บ. เพิ่มส่วนลดให้โจทก์พนักงานของบริษัท บ. ไม่นำฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มไปขายในท้องที่ที่โจทก์ขายอยู่ และบริษัท บ. ให้ของแถมเพื่อให้โจทก์นำไปแจกแก่ลูกค้าของโจทก์อีกต่อหนึ่งซึ่งทำให้โจทก์มีกำไรจากการซืสินค้าจากบริษัท บ. ไปขายมากขึ้น ล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการขายเพื่อทำให้บริษัท บ. ขายสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการค้า แม้โจทก์จ่ายเงินให้จำเลยร้อยละห้าของกำไรที่ได้จากการขายฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์ม ก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยตกลงเข้ากันเป็นหุ้นส่วนซื้อฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มจากบริษัท บ. ไปขายเพื่อประสงค์จะแบ่งปันกำไรแต่เป็นเรื่องจำเลยดำเนินการให้โจทก์มีกำไรจากกิจการค้ามากขึ้นและโจทก์ให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน จำเลยจึงไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากกิจการค้านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเสริมการขายและการตอบแทนไม่ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ศาลตัดสินว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในหนี้สิน
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานที่แจ้งชัดมาแสดงโดยตรงว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันการที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการดำเนินการให้บริษัท บ. เพิ่มส่วนลดให้โจทก์พนักงานของบริษัทบ. ไม่นำฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มไปขายในท้องที่ที่โจทก์ขายอยู่ และบริษัท บ. ให้ของแถมเพื่อให้โจทก์นำไปแจกแก่ลูกค้าของโจทก์อีกต่อหนึ่งซึ่งทำให้โจทก์มีกำไรจากการซื้อสินค้าจากบริษัท บ. ไปขายมากขึ้น ล้วนแต่เป็นการส่งเสริมการขายเพื่อทำให้บริษัท บ. ขายสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการค้า แม้โจทก์จ่ายเงินให้จำเลยร้อยละห้าของกำไรที่ได้จากการขายฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยตกลงเข้ากันเป็นหุ้นส่วนซื้อฟิล์มเอ็กซเรย์และน้ำยาล้างฟิล์มจากบริษัท บ. ไปขายเพื่อประสงค์จะแบ่งปันกำไร แต่เป็นเรื่องจำเลยดำเนินการให้โจทก์มีกำไรจากกิจการค้ามากขึ้น และโจทก์ให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานก่อนสืบพยาน: สิทธิในการเบิกความขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามขั้นตอน
จำเลยต้องยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก จึงจะมีสิทธิเข้าเบิกความ.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้การพนันสลากกินรวบ: เช็คพิพาทไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การเล่นพนันสลากกินรวบเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้การพนันสลากกินรวบเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การเล่นพนันสลากกินรวบเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้เกิดจากการพนันสลากกินรวบเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้ แม้จะมีการสั่งจ่ายเช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การพนันสลากกินรวบดังนี้ เป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ โจทก์ฟ้องบังคับไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้การพนันสลากกินรวบไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับได้หรือไม่
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การเล่นพนันสลากกินรวบเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ ฟ้องบังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย และการยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปร่วมกันยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินที่โจทก์ จำเลยและผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกัน จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าที่ดินส่วนของโจทก์มีบุคคลภายนอกครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว จำเลยจึงไม่อาจไปยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินร่วมกับโจทก์ได้ ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่า คำให้การจำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป พิพากษาให้จำเลยไปยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดิน ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยแล้วยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นวินิจฉัย ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามมาตรา 227 คู่ความไม่ต้องโต้แย้งคำสั่งตามมาตรา 226 ก็อุทธรณ์ฎีกาได้ และคำให้การจำเลยที่อ้างสิทธิของบุคคลภายนอกขึ้นต่อสู้นั้น เป็นการยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานเมื่อจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้อง และการอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งที่ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปร่วมกันยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินที่โจทก์ จำเลยและผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกัน จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าที่ดินส่วนของโจทก์มีบุคคลภายนอกครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว จำเลยจึงไม่อาจไปยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินร่วมกับโจทก์ได้ ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่า คำให้การจำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป พิพากษาให้จำเลยไปยื่นคำขอทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดิน ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยแล้วยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นวินิจฉัย ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔ คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามมาตรา ๒๒๗ คู่ความไม่ต้องโต้แย้งคำสั่งตามมาตรา ๒๒๖ ก็อุทธรณ์ฎีกาได้ และคำให้การจำเลยที่อ้างสิทธิของบุคคลภายนอกขึ้นต่อสู้นั้น เป็นการยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว.