คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
บุญส่ง คล้ายแก้ว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันและผู้จำนองตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี โดยจำกัดเฉพาะหนี้ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาสัญญา
จำเลยที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันและสัญญาจำนองต่อโจทก์เพื่อประกันหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีซึ่งจำเลยที่ 1 ทำไว้แก่โจทก์ สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีระบุว่าให้มีกำหนดระยะเวลา 12 เดือนนับแต่วันทำสัญญา ส่วนจำนวนเงินที่เบิกเงินเกินบัญชีให้ถือตามบัญชีกระแสรายวัน ไม่มีข้อความใดในสัญญาค้ำประกันและสัญญาจำนองว่าจำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดในหนี้เบิกเงินเกินบัญชีที่มีอยู่ก่อนและภายหลังที่ครบกำหนด 12 เดือนตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี ดังนั้นหนี้ที่จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดก็คือหนี้เบิกเงินเกินบัญชีที่เกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลา 12 เดือน นับแต่วันทำสัญญา กับดอกเบี้ยซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลานั้น ส่วนหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันทำสัญญาต้องนำมาหักออก
เมื่อโจทก์ชนะคดีจำเลยที่ 3 ซึ่งรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันไม่เต็มตามฟ้องความรับผิดของจำเลยที่ 3 ในค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้ให้โจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงควรมีเพียงเท่าค่าธรรมเนียมในทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีต่อจำเลยที่ 3 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนำรถยนต์เป็นประกันหนี้ ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินจากการขายทอดตลาดก่อนเจ้าหนี้อื่น
จำเลยมอบรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไว้เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ ถือได้ว่าเป็นการจำนำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 747 ผู้ร้อง จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่ไดจากการขายทอดตลาดรถยนต์คันนั้นก่อนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้นำยึดรถยนต์คันนั้นมาขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งขาดนัดพิจารณาและการจดแจ้งในรายงานกระบวนพิจารณา ศาลมีอำนาจดำเนินการได้ แม้จะจดแจ้งภายหลัง
การที่จำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลย่อมมีอำนาจสั่งและดำเนินกระบวนพิจารณาไป แล้วจึงจดแจ้งเรื่องที่กระทำหรือกระบวนพิจารณาที่ดำเนินไปนั้นลงไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาได้ ไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ของหมั้นหลังจดทะเบียนสมรส: ประเด็นนอกคำให้การและอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
โจทก์มิได้ให้การว่าได้มอบของหมั้นตามฟ้องแย้งให้กับจำเลยในภายหลังวันที่จดทะเบียนสมรสกันจึงไม่เป็นของหมั้นตามกฎหมาย ชั้นอุทธรณ์ก็มิได้ตั้งประเด็นข้อนี้ในอุทธรณ์ของโจทก์ ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้จึงเป็นเรื่องนอกประเด็นตามคำให้การแก้ฟ้องแย้งโจทก์ และไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานสนับสนุนการกระทำผิด: การรับฟังพยานหลักฐานและข้อสังเกตการปฏิบัติหน้าที่
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิด แต่โจทก์มิได้ฟ้องเป็นจำเลย กฎหมายมิได้ห้ามโจทก์อ้างผู้นั้นเป็นพยาน เมื่อเป็นผู้ได้เห็นหรือทราบเรื่องการกระทำผิด คำเบิกความก็ไม่ต้องห้ามมิให้รับฟัง แต่ต้องพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวังว่าพยานจะเบิกความเพียงเพื่อซัดทอดจำเลยเพื่อให้ตนรอดพ้นจากการถูกฟ้องร้องลงโทษหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549-1550/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกทรัพย์ มาตรา 354 ต้องแสดงว่าผู้กระทำความผิดกระทำในฐานะผู้มีอาชีพที่ไว้วางใจ
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 จะต้องได้ความว่าผู้กระทำการยักยอกได้กระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพและธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน มิใช่เป็นเรื่องความไว้วางใจกันเองระหว่างผู้เสียหายกับผู้กระทำความผิด
ฟ้องโจทก์เพียงแต่บรรยายอาชีพของจำเลยว่ารับราชการเป็นทหารอากาศเป็นอาชีพที่ไว้วางใจของประชาชน เป็นฟ้องที่ไม่แสดงให้เห็นว่ากิจการที่โจทก์มอบหมายให้จำเลยไปจัดการนั้นเกี่ยวข้องกับอาชีพรับราชการเป็นทหารอากาศของจำเลยอย่างไรพอที่จะให้เข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำความผิดในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจที่กล่าวในฟ้อง แต่กลับเข้าใจได้ว่าโจทก์มอบหมายให้จำเลยดำเนินการตามฟ้องเพราะมีความไว้วางใจกันเองโดยไม่เกี่ยวกับอาชีพหรือธุรกิจของจำเลยการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์บรรยายฟ้องนั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากทรัพย์: จำเลยไม่ได้เป็นผู้รับฝาก แต่จัดสถานที่จอดรถและเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย
ผู้นำรถยนต์เข้าไปจอดในสวนสัตว์ดุสิตของจำเลยจะต้องขับรถผ่านประตูเข้าไปหาที่จอดเอาเองและเป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ จำเลยเพียงแต่จัดที่จอดรถไว้ มิได้จัดพนักงานเฝ้าดูแลรถยนต์ที่นำมาจอด พนักงานของจำเลยมิได้ขับรถยนต์ไปหาที่จอดให้และมิได้เก็บกุญแจรถไว้ เมื่อจะกลับผู้ครอบครองรถยนต์จะต้องขับรถออกไปจากที่จอดเอง และเงินที่พนักงานของจำเลยเรียกเก็บเมื่อนำรถยนต์เข้าไปในสวนสัตว์ก็เป็นค่าธรรมเนียมผ่านประตูไม่ใช่บำเหน็จค่าฝาก การที่จำเลยจัดพนักงานไว้คอยฉีกหรือตรวจบัตรจอดรถยนต์ตอนนำรถออกจากสวนสัตว์เป็นเพียงมาตรการช่วยรักษาความปลอดภัยให้เท่านั้น ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับฝากรถยนต์ที่นำเข้ามาจอด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายของรถยนต์ดังกล่าว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับฝากทรัพย์มีบำเหน็จค่าฝาก ได้ประพฤติผิดหน้าที่ของผู้รับฝาก โดยแสดงรายละเอียดในฟ้องว่า พนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษารถยนต์ที่รับฝากไว้ได้ละเลยหน้าที่ปล่อยให้คนร้ายลักรถยนต์ไปจากบริเวณที่จอดรถของจำเลย จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในฐานะผู้รับฝากทรัพย์มีบำเหน็จค่าฝาก ปฏิบัติผิดหน้าที่ของผู้รับฝาก เป็นเหตุให้คนร้ายลักรถยนต์ไป ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องละเมิดไว้ ฟ้องโจทก์จึงมีแต่เรื่องผิดสัญญาฝากทรัพย์ เรื่อง พนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยกระทำละเมิดจึงไม่เป็นประเด็นในคดี โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งพนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยได้กระทำไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ได้เป็นผู้รับฝากทรัพย์ แม้จะเก็บค่าธรรมเนียมผ่านประตู จึงไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากรถหาย
ผู้นำรถยนต์เข้าไปจอดในสวนสัตว์ดุสิตของจำเลยจะต้องขับรถผ่านประตูเข้าไปหาที่จอดเอาเองและเป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ จำเลยเพียงแต่จัดที่จอดรถไว้ มิได้จัดพนักงานเฝ้าดูแลรถยนต์ที่นำมาจอด พนักงานของจำเลยมิได้ขับรถยนต์ไปหาที่จอดให้และมิได้เก็บกุญแจรถไว้ เมื่อจะกลับผู้ครอบครองรถยนต์จะต้องขับรถออกไปจากที่จอดเอง และเงินที่พนักงานของจำเลยเรียกเก็บเมื่อนำรถยนต์เข้าไปในสวนสัตว์ก็เป็นค่าธรรมเนียมผ่านประตูไม่ใช่บำเหน็จค่าฝากการที่จำเลยจัดพนักงานไว้คอยฉีกหรือตรวจบัตรจอดรถยนต์ตอนนำรถออกจากสวนสัตว์เป็นเพียงมาตรการช่วยรักษาความปลอดภัยให้เท่านั้น ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับฝากรถยนต์ที่นำเข้ามาจอด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายของรถยนต์ดังกล่าว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับฝากทรัพย์มีบำเหน็จค่าฝากได้ประพฤติผิดหน้าที่ของผู้รับฝาก โดยแสดงรายละเอียดในฟ้องว่า พนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษารถยนต์ที่รับฝากไว้ได้ละเลยหน้าที่ปล่อยให้คนร้ายลักรถยนต์ไปจากบริเวณที่จอดรถของจำเลย จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในฐานะผู้รับฝากทรัพย์มีบำเหน็จค่าฝาก ปฏิบัติผิดหน้าที่ของผู้รับฝากเป็นเหตุให้คนร้ายลักรถยนต์ไป ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องละเมิดไว้ ฟ้องโจทก์จึงมีแต่เรื่องผิดสัญญาฝากทรัพย์ เรื่อง พนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยกระทำละเมิดจึงไม่เป็นประเด็นในคดี โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งพนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยได้กระทำไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบศาสนสมบัติและเอกสารของวัดให้เจ้าอาวาสรูปใหม่หลังพ้นจากหน้าที่รักษาการ
ผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนอกจากจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามข้อ 6 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2506) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการแล้ว จะต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 26 ด้วย คือ (1) มีพรรษาพ้น 5 และ (2) เป็นผู้ทรงเกียรติคุณ เป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิตและคฤหัสถ์ในถิ่นนั้น ปรากฏว่าใน การประชุมปรึกษาเพื่อหาตัวผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระภิกษุในวัดโจทก์ร่วมประชุม 19 รูป ออกเสียงให้พระ น. เป็นเจ้าอาวาส 14 รูปออกเสียงให้จำเลย 5 รูป ใน 5 รูปนี้ มีพระ น. รวมอยู่ด้วย แม้จำเลยมีพรรษายุกาลสูงกว่าพระ น. แต่ตามพระวินัย กฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคมตลอดจนสังฆาณัติไม่ปรากฏเลยว่าจะต้องแต่งตั้งจากพระภิกษุที่มีพรรษาสูงสุด ในวัดนั้น การที่พระ น. ลงชื่อในตราตั้งพระ น. เป็นเจ้าอาวาสวัดโจทก์กระทำในฐานะเจ้าคณะจังหวัดมิใช่ในฐานะส่วนตัว พระ น. จึงเป็น เจ้าอาวาสวัดโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่ารถจากการซื้อขายโดยผ่อนชำระ เริ่มนับจากวันผิดนัดตามสัญญา
ฟ้องโจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นบุคคลผู้เป็นพ่อค้าขายรถยนต์ ได้ขายรถยนต์จำนวน 1 คันให้จำเลย ได้ส่งมอบรถยนต์ให้จำเลยรับไปแล้ว จำเลยผิดนัดไม่ชำระราคารถยนต์ที่ค้างชำระให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับ ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นกรณีที่โจทก์ผู้เป็นพ่อค้ารถยนต์เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบรถยนต์จากจำเลยตามสัญญาซื้อขายจึงมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1)
of 89