คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 310 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินจากบุคคลภายนอกต้องมีคำสั่งศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีใช้อำนาจสั่งอายัดเองไม่ได้
การอายัดให้บุคคลภายนอกชำระเงินแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีนั้นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311 เสียก่อน คดีนี้เจ้าหนี้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินให้โดยมิได้ขอให้ศาลมีคำสั่งอายัด ดังนั้นเมื่อบริษัทช. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ยอมชำระเงินตามคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องขอให้ศาลออกหมายอายัดให้จึงจะชอบ การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ดำเนินการให้ศาลออกหมายอายัดดังกล่าว และจำเลยได้รับเงินจากบริษัท ช. ไปแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงจะรายงานศาลให้ออกหมายบังคับคดีแก่บริษัท ช. หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5755/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์: อายัดไม่ได้หากยังมิได้ลาออก
เงินค่าหุ้นที่จำเลยได้ชำระให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ผู้ร้องไปแล้วนั้นเป็นเงินของผู้ร้อง จำเลยไม่มีอำนาจหรือสิทธิใด ๆ ในเงินนั้น และแม้จะมีระเบียบของผู้ร้องว่าเมื่อสมาชิกออกจากสหกรณ์แล้ว ผู้ร้องจะต้องจ่ายเงินค่าหุ้นคืนแก่สมาชิกก็ตามแต่เมื่อจำเลยยังมิได้ลาออกจากการเป็นสมาชิก สิทธิของจำเลยในการเรียกให้ผู้ร้องชำระเงินค่าหุ้นจึงยังไม่มี โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่อาจขออายัดเงินค่าหุ้นจากผู้ร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3671/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ที่มิได้แสดงเจตนาต่อทายาท แม้ก่อนอายัดเงิน แต่เป็นการหักกลบลบหนี้ที่ไม่ชอบ
การที่ผู้คัดค้านนำเงินฝากในบัญชีที่พิพาทของจำเลยไปหักชำระหนี้โดยมิได้แสดงเจตนาหักกลบลบหนี้ต่อทายาทของจำเลย เป็นการหักกลบลบหนี้ที่มิได้แสดงเจตนากับอีกฝ่ายหนึ่ง ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 342 จึงไม่ชอบ เงินฝากในบัญชีที่พิพาทยังเป็น ของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งโจทก์มีสิทธิขออายัดได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3099/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่มีร่วมกับบุคคลอื่น แม้คดีความยังไม่ถึงที่สุด
ผู้ร้องรับโอนสิทธิการเช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์พร้อมอาคารมาจากจำเลยและภริยาจำเลย แต่ยังค้างชำระค่าโอนสิทธิการเช่าอยู่อีกจำนวนหนึ่ง หลังจากการโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวแล้ว ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยหย่ากับภริยา คดียังไม่ถึงที่สุด และภริยาจำเลยฟ้องผู้ร้องให้ชำระค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระอยู่นั้น ดังนั้น จำเลยจึงยังเป็นเจ้าของรวมในเงินค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระดังกล่าวอยู่ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจึงมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องในค่าโอนสิทธิการเช่าของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 310(3) ประกอบด้วย มาตรา 311 แม้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจะยังพิพาทเป็นคดีกันอยู่ระหว่างผู้ร้องกับภริยาจำเลยก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3099/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อบุคคลภายนอก แม้สิทธิเรียกร้องนั้นยังพิพาทกันอยู่
ผู้ร้องรับโอนสิทธิการเช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์พร้อมอาคารมาจากจำเลยและภริยาจำเลย แต่ยังค้างชำระค่าโอนสิทธิการเช่าอยู่อีกจำนวนหนึ่ง หลังจากการโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวแล้ว ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยหย่ากับภริยา คดียังไม่ถึงที่สุด และภริยาจำเลยฟ้องผู้ร้องให้ชำระค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระอยู่นั้น ดังนั้น จำเลยจึงยังเป็นเจ้าของรวมในเงินค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระดังกล่าวอยู่ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจึงมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องในค่าโอนสิทธิการเช่าของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 310 (3) ประกอบด้วย มาตรา 311 แม้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจะยังพิพาทเป็นคดีกันอยู่ระหว่างผู้ร้องกับภริยาจำเลยก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คหลังอายัด: สิทธิเรียกร้องของผู้ทรงเช็คและการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้โดยรับผิด ชำระจากทรัพย์มรดกของ ส. ระหว่างบังคับคดีศาลชั้นต้นหมายเรียกจำเลยที่ 1 และ จ. มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับทรัพย์สินของ ส. เจ้ามรดกได้ความว่า จ. เช่าร้านอาหารอันเป็นทรัพย์มรดกของ ส. จากจำเลยที่ 1 และได้ออกเช็คชำระค่าเช่าลงวันที่ล่วงหน้าไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้แจ้งอายัดเงินตามเช็คดังกล่าวแก่ จ. ก่อนที่เช็คนั้นจะถึงกำหนดใช้เงิน โดยให้นำเงินค่าเช่ามาส่งแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแต่จ.ไม่ปฏิบัติตามเมื่อเช็คถึงกำหนดใช้เงินผู้ทรงได้นำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเพราะมีคำสั่งอายัดต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือเตือนให้ จ. ส่งเงินค่าเช่าตามเช็คอีก จ.ตอบขัดข้องว่าเช็คที่สั่งจ่ายให้จำเลยที่ 1 นั้นได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วดังนี้ เห็นได้ว่า จ. ได้ชำระหนี้กองมรดกด้วยเช็คให้จำเลยที่ 1 ก่อนจะได้รับคำสั่งอายัดจากเจ้าพนักงานบังคับคดี และเช็คนั้นได้โอนไปยังผู้ทรงซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแล้ว ซึ่ง จ. จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้ผู้ทรงอยู่และหนี้ยังไม่ระงับสิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคท้าย ก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ผู้ทรงเช็คจะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่ จ.เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่จ. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 312 วรรค 2 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คที่ถูกอายัด: สิทธิของผู้ทรงเช็คและการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้โดยรับผิดชำระจากทรัพย์มรดกของ ส. ระหว่างบังคับคดีศาลชั้นต้นหมายเรียกจำเลยที่ 1 และ จ. มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับทรัพย์สินของ ส. เจ้ามรดกได้ความว่า จ. เช่าร้านอาหารอันเป็นทรัพย์มรดกของ ส. จากจำเลยที่ 1 และได้ออกเช็คชำระค่าเช่าลงวันที่ล่วงหน้าไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้แจ้งอายัดเงินตามเช็คดังกล่าวแก่ จ. ก่อนที่เช็คนั้นจะถึงกำหนดใช้เงิน โดยให้นำเงินค่าเช่ามาส่งแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแต่ จ. ไม่ปฏิบัติตามเมื่อเช็คถึงกำหนดใช้เงินผู้ทรงได้นำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเพราะมีคำสั่งอายัดต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือเตือนให้ จ. ส่งเงินค่าเช่าตามเช็คอีก จ.ตอบขัดข้องว่าเช็คที่สั่งจ่ายให้จำเลยที่ 1 นั้นได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วดังนี้ เห็นได้ว่า จ. ได้ชำระหนี้กองมรดกด้วยเช็คให้จำเลยที่ 1 ก่อนจะได้รับคำสั่งอายัดจากเจ้าพนักงานบังคับคดี และเช็คนั้นได้โอนไปยังผู้ทรงซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแล้ว ซึ่ง จ. จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้ผู้ทรงอยู่และหนี้ยังไม่ระงับสิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคท้าย ก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ผู้ทรงเช็คจะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่ จ. เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่ จ. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 312 วรรค 2 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการอายัดสิทธิเรียกร้อง: ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน
เดิมศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องชั้นบังคับคดีของโจทก์ให้โดยอนุโลมว่าเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเป็นจำนวนเท่าใดแล้วยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้องอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอ ดังนี้ คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้องครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งตามมาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) แม้เดิมศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้วก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้เมื่อผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่โจทก์เรียกร้องศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนจะมีคำสั่งในเรื่องนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินจากกรมทางหลวงไม่ใช่การยึดทรัพย์ ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอเฉลี่ย
เงินค่าก่อสร้างที่จำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเบิกตามงวดจากกรมทางหลวงแผ่นดิน เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะขอให้อายัดไว้ ฉะนั้น เจ้าหนี้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องยื่นคำขอภายในบังคับตามมาตรา 290 วรรคสี่ มิใช่กรณียึดเงินซึ่งเจ้าหนี้จะอ้างว่ายังอยู่ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 290 วรรคห้า โดยนับแต่วันที่กรมทางหลวงส่งเงินมาให้กองบังคับคดีแพ่งดังที่อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินค่าก่อสร้าง vs. การยึดเงิน: สิทธิในการเฉลี่ยทรัพย์ของผู้มีหนี้อื่น
เงินค่าก่อสร้างที่จำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเบิกตามงวดจากกรมทางหลวงแผ่นดิน เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะขอให้อายัดไว้ ฉะนั้น เจ้าหนี้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องยื่นคำขอภายในบังคับตามมาตรา 290 วรรคสี่ มิใช่กรณียึดเงินซึ่งเจ้าหนี้จะอ้างว่ายังอยู่ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 290 วรรคห้า โดยนับแต่วันที่กรมทางหลวงส่งเงินมาให้กองบังคับคดีแพ่งดังที่อ้าง