คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
โกมล อิศรางกูร ณ อยุธยา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 116 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2129/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาของนิติบุคคลยังคงอยู่ที่เดิม แม้สำนักงานใหญ่จะถูกเพลิงไหม้ การส่งหมายเรียกโดยวิธีประกาศจึงไม่ชอบ
ภูมิลำเนาของนิติบุคคลได้แก่ถิ่นที่สำนักงานแห่งใหญ่ หรือที่ตั้งทำการหรือถิ่นที่ได้เลือกเอาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งเท่านั้น การที่สำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคลจำเลยที่ 1 ถูกเพลิงไหม้จะถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิมตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งหาได้ไม่ ดังนี้ จะถือว่ากรณีเป็นเรื่องไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาได้ยังไม่ชอบ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ประกาศ โฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 จะถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทราบประกาศการ ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้วโดยผลของกฎหมายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทเลินเล่อจากการใช้อาวุธปืน เสี่ยงต่ออันตราย และการแก้ไขโทษตามมาตรา 78
จำเลยถืออาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนไว้แล้วจ่อไปทาง ส.เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เป็นการเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น มิใช่วิสัยที่ปกติชนจะพึงกระทำ เมื่อ ส. ตกใจใช้มือปัดเป็นเหตุให้อาวุธปืนลั่น กระสุนปืนถูก ส. บาดเจ็บสาหัส การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสแม้ข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นการกระทำผิดโดยเจตนาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นเรื่องประมาทซึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 บัญญัติมิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญทั้งจำเลยไม่หลงต่อสู้ดังนี้ ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์ต้องมีเจตนาใช้กำลัง การรู้เห็นเป็นใจสำคัญ
จำเลยกับ ว.คบคิดกันมาลักทรัพย์เท่านั้นจำเลยไม่รู้ว่าว.จะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เมื่อจำเลยมิได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่ ว.ประทุษร้ายผู้เสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์คงมีความผิดฐานลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะผู้เสียหายที่แท้จริงในคดีชิงทรัพย์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกและชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ ๑ เส้น และ เงินสดของ ส. ผู้เสียหายได้ความว่า เงินสดที่ถูกจำเลยกับพวกชิงไปนั้นไม่ใช่ของ ผู้เสียหายแต่เป็นของ จ. บิดาผู้เสียหาย เช่นนี้จึงจะ บังคับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินแทนเงินสด ดังกล่าวแก่ผู้เสียหาย ไม่ได้ แต่มีคำสั่งให้คืนหรือใช้แก่ จ. บิดา ผู้เสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการชิงทรัพย์: การคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้เสียหายที่แท้จริง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกและชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ 1 เส้น และ เงินสดของ ส. ผู้เสียหายได้ความว่าเงินสดที่ถูกจำเลยกับพวกชิงไปนั้นไม่ใช่ของผู้เสียหายแต่เป็นของ จ. บิดาผู้เสียหาย เช่นนี้จึงจะบังคับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินแทนเงินสดดังกล่าวแก่ผู้เสียหายไม่ได้ แต่มีคำสั่งให้คืนหรือใช้แก่ จ. บิดาผู้เสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีความผิดต่อเนื่อง และการลงโทษฐานมีเครื่องตวงวัดไม่ถูกต้อง
จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ทุกประการของพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดไว้ในความครอบครองตั้งแต่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลกตลอดมาจนกระทั่งถูกจับที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่อง และกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ดังกล่าว เมื่อจำเลยถูกจับในท้องที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย และเมื่อได้มีการสอบสวนโดยชอบแล้ว พนักงานอัยการจังหวัดสุโขทัย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดสุโขทัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22
แม้จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในการพาณิชย์ ก็จะฟังว่าจำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าไปทีเดียวไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเจตนาเอาเปรียบในทางการค้าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีความผิดต่อเนื่อง และการลงโทษฐานมีเครื่องชั่งตวงวัดไม่ถูกต้อง
จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ทุกประการของพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดไว้ในความครอบครองตั้งแต่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลกตลอดมาจนกระทั่งถูกจับที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่อง และกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ดังกล่าว เมื่อจำเลยถูกจับในท้องที่อำเภอคีรีมาศจังหวัดสุโขทัย และเมื่อได้มีการสอบสวนโดยชอบแล้วพนักงานอัยการจังหวัดสุโขทัย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดสุโขทัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 แม้จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความ ครอบครองเพื่อใช้ในการพาณิชย์ ก็จะฟังว่าจำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าไปทีเดียวไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเจตนาเอาเปรียบในทางการค้าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมเกิดขึ้นจากการใช้สิทธิโดยต่อเนื่อง และการกระทำละเมิดต่อภารจำยอม
ที่ดินจำเลยเป็นที่ดินมีโฉนดแปลงใหญ่ แล้วจำเลยแบ่งขายเป็นแปลงเล็ก ๆ โดยเว้นที่ดินตรงกลางไว้เป็นถนนพิพาท พวกที่ซื้อที่ดินจากจำเลยเท่านั้นที่ใช้ถนนพิพาท ส่วนประชาชนทั่วไปไม่ได้ร่วมใช้ถนนพิพาทด้วยเพราะเป็นทางตัน แม้ขณะเมื่อซื้อที่ดินจำเลยบอกว่าให้ถนนพิพาทเป็นทางสาธารณะก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายให้ถนนพิพาทเป็นทางสาธารณะแต่โจทก์และผู้ซื้อที่ดินได้ใช้ถนนพิพาทด้วยการใช้สัญจรไปมาและนำรถยนต์เข้าออกโดยไม่ปรากฏว่าต้องขออนุญาตจากจำเลยและโจทก์ได้ใช้ติดต่อกันมาเกิน 10 ปีแล้วถนนพิพาทจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์
การที่จำเลยปักเสาสูงจากพื้นดิน 1 เมตรเศษ บนถนนพิพาทเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนตัวของโจทก์และของผู้อื่นแล่นสวนกันไม่ได้สะดวกเหมือนเมื่อครั้งยังไม่มีการปักเสา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยถอนเสาดังกล่าวออกไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. การศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลาย และการยื่นเอกสารเท็จ
การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ก.ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยนำข้อความในมาตรา 19 (1) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มากล่าวในคำร้องนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่า ก.มิใช่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นคำร้องที่ชัดแจ้ง ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
หลังจากจบชั้นประถมศึกษาแล้ว ก.ได้เข้าเรียนกวดวิชาที่โรงเรียนวัดราชนัดดาและสอบเทียบได้ชั้นมัธยมปีที่ 3 หลังจากนั้นได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาวัดสุทัศน์และสอบเทียบได้ชั้นมัธยมปีที่ 6 ซึ่งสามารถเข้าเรียนต่อในสายอาชีวะได้ เมื่อ ก.ได้เข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 3 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนพณิชยการพระนครซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ชั้นประโยคเตรียมอุดมศึกษา จึงถือได้ว่า ก.ได้เข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนหรือสถาบันอื่นในประเทศตามกำหนดเวลามาโดยตลอดจนมีความรู้ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่าหรือรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือตามแผนการศึกษาของชาติดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 19 (1) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 ก.จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. การศึกษาเทียบเท่า มัธยมศึกษาตอนปลาย และการรับสมัคร
การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ก.ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยนำข้อความในมาตรา 19(1) แห่งพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มากล่าวในคำร้องนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่า ก.มิใช่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นคำร้องที่ชัดแจ้ง ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว หลังจากจบชั้นประถมศึกษาแล้ว ก.ได้เข้าเรียนกวดวิชาที่โรงเรียนวัดราชนัดดาและสอบเทียบได้ชั้นมัธยมปีที่ 3 หลังจากนั้นได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาวัดสุทัศน์และสอบเทียบได้ชั้นมัธยมปีที่ 6 ซึ่งสามารถเข้าเรียนต่อในสายอาชีวะได้ เมื่อ ก.ได้เข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 3 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนพณิชยการพระนครซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ชั้นประโยคเตรียมอุดมศึกษาจึงถือได้ว่า ก.ได้เข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนหรือสถาบันอื่นในประเทศตามกำหนดเวลามาโดยตลอดจนมีความรู้ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่าหรือรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือตามแผนการศึกษาของชาติดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 19(1) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 ก.จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตามกฎหมาย
of 12