พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องมีผลถึงการแพ้ชนะคดี จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น จะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี หากศาลไม่ได้เชื่อถือคำเบิกความนั้น คู่ความจึงไม่ผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177นั้นจะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382แล้วโดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวดังนี้แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญ อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะได้ จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น จะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วย ศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วย ศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4291/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีค่าเสียหาย: จำเลยต้องระบุเหตุขาดอายุความชัดเจน มิฉะนั้นศาลไม่รับฟัง
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถของโจทก์ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์คว่ำได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซมและทำให้ใยบาสูบที่บรรทุกมาเสียหายโจทก์ต้องจ่ายค่าเสียหายในการซ่อมรถและชดใช้ค่าใบยาสูบให้โรงงานยาสูบจึงเป็นคดีที่มีหลายประเด็นอายุความมีหลายประเภทจำเลยให้การเพียงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความเท่านั้นมิได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความมาด้วยว่าขาดอายุความตามบทกฎหมายใดในเรื่องใดเหตุใดฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความดังนี้คำให้การของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสองและไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดีศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่แล้ววินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการนอกประเด็นและเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4291/2529 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความและประเด็นข้อกฎหมาย: จำเลยต้องยกเหตุขาดอายุความชัดเจนในคำให้การ ศาลไม่ควรวินิจฉัยนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถของโจทก์ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์คว่ำได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซม และทำให้ใบยาสูบที่บรรทุกมาเสียหาย โจทก์ต้องจ่ายค่าเสียหายในการซ่อมรถและชดใช้ค่าใบยาสูบให้ โรงงานยาสูบ จึงเป็นคดีที่มีหลายประเด็น อายุความมีหลายประเภท จำเลยให้การเพียงว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความเท่านั้น มิได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความมาด้วยว่าขาดอายุความตามบทกฎหมายใด ในเรื่องใด เหตุใดฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ดังนี้ คำให้การของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง และไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดี ศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ แล้ววินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการนอกประเด็นและเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4291/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยต่อสู้ขาดอายุความโดยไม่ระบุเหตุ ศาลไม่ควรวินิจฉัยเอง เพราะเป็นประเด็นที่จำเลยต้องยกขึ้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถของโจทก์ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์คว่ำได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซม และทำให้ ใบยาสูบที่บรรทุกมาเสียหายโจทก์ต้องจ่ายค่าเสียหายในการซ่อมรถและชดใช้ค่าใบยาสูบให้โรงงานยาสูบ จึงเป็นคดีที่มีหลายประเด็น อายุความมีหลายประเภท จำเลยให้การเพียงว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความเท่านั้นมิได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความมาด้วยว่าขาดอายุความตามบทกฎหมายใด ในเรื่องใด เหตุใดฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ดังนี้ คำให้การของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองและไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดี ศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ แล้ววินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการนอกประเด็นและเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4291/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องโดยอ้างอายุความแต่ไม่ระบุเหตุและบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นการไม่ชอบและเป็นการนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถของโจทก์ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์คว่ำได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซมและทำให้ใยบาสูบที่บรรทุกมาเสียหายโจทก์ต้องจ่ายค่าเสียหายในการซ่อมรถและชดใช้ค่าใบยาสูบให้โรงงานยาสูบจึงเป็นคดีที่มีหลายประเด็นอายุความมีหลายประเภทจำเลยให้การเพียงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความเท่านั้นมิได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความมาด้วยว่าขาดอายุความตามบทกฎหมายใดในเรื่องใดเหตุใดฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความดังนี้คำให้การของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสองและไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดีศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่แล้ววินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการนอกประเด็นและเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4282/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบตัวจำเลยหลังถูกจำคุกในคดีอื่น ถือเป็นการถอนประกันเดิม ศาลไม่สามารถปรับนายประกันได้
การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า จำเลยซึ่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันถูกศาลชั้นต้นนั้นพิพากษาให้จำคุกในอีกคดีหนึ่ง และตัวจำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ถือได้ว่าผู้ประกันได้ส่งมอบตัวจำเลยต่อศาลชั้นต้นแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นนั้นสั่งเบิกคืนหลักประกันให้ผู้ประกันในวันเดียวกันนั้นเอง ก็เป็นการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ประกันถอนประกันจำเลยแล้ว มิฉะนั้นศาลชั้นต้นคงไม่ยินยอมให้เบิกคืนหลักประกันที่ให้ไว้ไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4205/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ต้องเกี่ยวข้องกับความผิดอาญาหรือประเด็นสำคัญในคดี
การแจ้งความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172,173 และ 174 นั้น ความเท็จที่แจ้งต้องเป็นข้อความที่เกี่ยวกับความผิดอาญา เมื่อจำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนเพียงว่า จำเลยเป็นผู้แนะนำ ส. ให้รู้จักกับโจทก์และสามีซึ่งเป็นความเท็จโดยไม่มีข้อความว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาการกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
ส่วนการเบิกความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 นั้น ความเท็จที่เบิกความต้องเป็นข้อสำคัญในคดี คือเป็นข้อความในประเด็นหรือที่เกี่ยวแก่ประเด็นอันอาจจะทำให้คู่ความถึงแพ้ชนะกันในประเด็นนั้นในคดีที่โจทก์คดีนี้ถูกฟ้องว่าฉ้อโกง ข้อสำคัญแห่งคดีมีว่า โจทก์ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้โจทก์รับไปหรือไม่ ดังนั้น ที่จำเลยเบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยเคยแนะนำโจทก์ให้รู้จักกับผู้เสียหายนั้น ถึงหากจะเป็นความเท็จก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
ส่วนการเบิกความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 นั้น ความเท็จที่เบิกความต้องเป็นข้อสำคัญในคดี คือเป็นข้อความในประเด็นหรือที่เกี่ยวแก่ประเด็นอันอาจจะทำให้คู่ความถึงแพ้ชนะกันในประเด็นนั้นในคดีที่โจทก์คดีนี้ถูกฟ้องว่าฉ้อโกง ข้อสำคัญแห่งคดีมีว่า โจทก์ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้โจทก์รับไปหรือไม่ ดังนั้น ที่จำเลยเบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยเคยแนะนำโจทก์ให้รู้จักกับผู้เสียหายนั้น ถึงหากจะเป็นความเท็จก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4205/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ/เบิกความเท็จ ต้องเกี่ยวกับความผิดอาญา/ประเด็นสำคัญในคดี จึงจะมีความผิด
การแจ้งความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172,173 และ 174 นั้น ความเท็จที่แจ้งต้องเป็นข้อความที่เกี่ยวกับความผิดอาญา เมื่อจำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนเพียงว่า จำเลยเป็นผู้แนะนำ ส. ให้รู้จักกับโจทก์และสามีซึ่งเป็นความเท็จ โดยไม่มีข้อความว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาการกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
ส่วนการเบิกความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น ความเท็จที่เบิกความต้องเป็นข้อสำคัญในคดี คือเป็นข้อความในประเด็นหรือที่เกี่ยวแก่ประเด็นอันอาจจะทำให้คู่ความถึงแพ้ชนะกันในประเด็นนั้นในคดีที่โจทก์คดีนี้ถูกฟ้องว่าฉ้อโกง ข้อสำคัญแห่งคดีมีว่า โจทก์ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้โจทก์รับไปหรือไม่ดังนั้น ที่จำเลยเบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยเคยแนะนำโจทก์ให้รู้จักกับผู้เสียหายนั้น ถึงหากจะเป็นความเท็จ ก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
ส่วนการเบิกความเท็จอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น ความเท็จที่เบิกความต้องเป็นข้อสำคัญในคดี คือเป็นข้อความในประเด็นหรือที่เกี่ยวแก่ประเด็นอันอาจจะทำให้คู่ความถึงแพ้ชนะกันในประเด็นนั้นในคดีที่โจทก์คดีนี้ถูกฟ้องว่าฉ้อโกง ข้อสำคัญแห่งคดีมีว่า โจทก์ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้โจทก์รับไปหรือไม่ดังนั้น ที่จำเลยเบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยเคยแนะนำโจทก์ให้รู้จักกับผู้เสียหายนั้น ถึงหากจะเป็นความเท็จ ก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ