พบผลลัพธ์ทั้งหมด 435 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องเล่นไฟฟ้าสปริงดีดเข้าข่ายพนัน แม้ไม่มีการเล่นพนันโดยตรง ก็ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
เครื่องเล่นไฟฟ้าของกลางปรากฏว่าผู้เล่นใช้สปริงดีดลูกไปถูกหลักทำให้เกิดแต้มหรือคะแนนที่สกอร์บอร์ดซึ่งอาจใช้เล่นการพนันหรือไม่ก็ได้ แม้จะปิดสกอร์บอร์ดก็ยังนับแต้มหรือคะแนนได้โดยนับจำนวนครั้งที่ดีดลูกไปถูกหลัก แสดงว่ายังอาจใช้เล่นการพนันได้อีก จึงเข้าลักษณะเครื่องเล่นตามบัญชี ข.อันดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน และความผิดดังกล่าวเกิดจากการจัดให้มีการเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีกฎกระทรวงอนุญาตให้จัดขึ้นโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ไม่ต้องมีผู้เล่นการพนันก็มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องเล่นไฟฟ้าสปริงดีดเข้าข่ายการพนัน แม้ไม่มีการเล่นพนันก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
เครื่องเล่นไฟฟ้าของกลางปรากฏว่าผู้เล่นใช้สปริงดีดลูกไปถูกหลักทำให้เกิดแต้มหรือคะแนนที่สกอร์บอร์ดซึ่งอาจใช้เล่นการพนันหรือไม่ก็ได้แม้จะปิดสกอร์บอร์ดก็ยังนับ แต้มหรือคะแนนได้โดยนับจำนวนครั้งที่ดีดลูกไปถูกหลักแสดงว่ายังอาจใช้เล่นการพนันได้อีก จึงเข้าลักษณะเครื่องเล่นตามบัญชีข.อันดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนันและความผิดดังกล่าวเกิดจากการจัดให้มีการเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีกฎกระทรวงอนุญาตให้จัดขึ้นโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตไม่ต้องมีผู้เล่นการพนันก็มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีค่าจ้างและการจัดการสินสมรส ศาลไม่วินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายที่จำเลยไม่ได้อุทธรณ์
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าค่าจ้างที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นสินสมรส ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากคู่สมรสโจทก์มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ปัญหาข้อนี้ เมื่อโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อนี้แม้จะเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยแต่ศาลฎีกาเห็นไม่สมควรยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดหลังรับสารภาพ ศาลออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาลับหลังได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยให้การรับสารภาพและขอเวลาชำระเงินให้โจทก์ หากถึงกำหนดไม่สามารถชำระเงินได้ก็ให้ศาลพิพากษาไปได้ ศาลชั้นต้นจึงนัดฟัง คำพิพากษาจำเลยลงชื่อรับทราบ ครั้นถึงวันเวลานัด จำเลยซึ่ง ทราบนัดแล้วไม่มาศาลและไม่มีการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุจำเป็นแต่ประการใด จึงถือได้ว่าจำเลยหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟังคำพิพากษาซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 วรรคสาม ให้ศาลออกหมายจับจำเลย หากไม่ได้ ตัวจำเลยมาภายใน 1 เดือน นับแต่วันออกหมายจับก็ให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ หาจำต้องแจ้งวันนัดอ่านคำพิพากษาให้จำเลยทราบอีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงตามฟ้องในคดีอาญา การลงโทษต้องเป็นไปตามฟ้องเดิม
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ทางพิจารณาได้ความว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายเพราะมีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงสาระสำคัญในฟ้องคดีอาญา ศาลต้องลงโทษตามฟ้องเดิม
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ทางพิจารณาได้ความว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายเพราะมีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 299 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่รับอุทธรณ์โจทก์ในคดีอาญาที่ยังมิได้ประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ก่อนศาลชั้นต้นประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นคู่ความ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานะคู่ความจำเลยในคดีอาญา: สิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ก่อนศาลชั้นต้นประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นคู่ความ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3768/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การรักษาพยาบาลโดยผู้ไม่มีใบอนุญาตจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
จำเลยเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้ทำการตรวจบำบัดโรคโดยได้ทำการฉีดยาและให้ น.กินยาโดยประมาท เป็นเหตุให้ น. ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3768/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตและประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ทำการตรวจบำบัดโรคโดยได้ทำการฉีดยาและให้ น.กินยาโดยประมาท เป็นเหตุให้ น. ถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท