พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3486/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ลดโทษตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองกับพวกดื่มสุราอยู่ด้วยกัน แล้วจำเลยที่ 2 ให้ผู้ตายดื่มสุรา ผู้ตายไม่ดื่ม พวกจำเลยพูดว่าถ้าไม่ดื่มจะถูกตบ ผู้เสียหายพูดว่าไม่ดื่มแค่นี้จะถูกตบด้วยหรือ จำเลยที่ 1 ใช้แก้วสุราตบหน้าผู้เสียหายจนล้มลงแล้วลุกขึ้น จำเลยที่ 1 ชักปืนออกมา ผู้ตายวิ่งหนีผู้เสียหายวิ่งตาม จำเลยที่ 1 ยิงปืน 2 นัด ถูก ผู้ตายถึงแก่ความตาย จากนั้นจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป เมื่อถึงคอสะพานก็จอดให้จำเลยที่ 2นั่งซ้อนท้ายไปด้วย ดังนี้ การยิงผู้ตายและเอารถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหายไปเป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียว จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมกระทำความผิดด้วย ทั้งเหตุที่ จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายก็เนื่องจากผู้ตายไม่ยอมดื่มสุรา มิใช่ประสงค์จะแย่งชิงรถของผู้เสียหาย การเอารถไปก็เพื่อ จะหลบหนีให้พ้นจากการจับกุมหลังจากที่ได้กระทำผิด ฐานฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 335 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3294/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตำรวจติดยาชิงทรัพย์ยิงคนตาย ศาลฎีกายืนประหารชีวิต เหตุรับสารภาพเพราะหลักฐาน ไม่ใช่สำนึกผิด
จำเลยเป็นตำรวจติดเฮโรอีน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ และยิงเข้าไปในร้านค้าทองในเวลากลางวัน ถูกคนในร้านถึงตาย ถูกจับในวันเดียวกัน และค้นได้ของกลางที่บ้านบิดาจำเลย เหตุที่จำเลยยอมรับสารภาพก็เพราะจำนนต่อหลักฐาน หาใช่เพราะสำนึกผิดและเพื่อบรรเทาผลร้ายไม่ จึงไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2848/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์, เอาตัวไปเรียกค่าไถ่, และการใช้บทลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 316 และ 340
เมื่อจำเลยกับพวกปล้นทรัพย์ผู้เสียหายแล้ว ได้คุมตัวผู้เสียหายไปเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ ต่อมาอีกประมาณ 3ชั่วโมงจำเลยกับพวกได้ปล่อยตัวผู้เสียหาย เพราะทราบว่าตำรวจกำลังออกติดตาม แม้จำเลยกับพวกจะยังไม่ทันได้มาซึ่งเงินค่าไถ่ ก็เป็นความผิดฐานเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่อันเป็นความผิดสำเร็จแล้วและเป็นความผิดคนละกระทงกันกับความผิดฐานปล้นทรัพย์แต่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ถือได้ว่าจำเลยกับพวกได้จัดให้ผู้เสียหายได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา ซึ่งกฎหมายให้ลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดไว้แต่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งตามมาตรา 316 และการลดโทษตามมาตรานี้เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกา พิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 3 และที่ 5 ที่มิได้ฎีกาด้วย มาตรา 340 ตรี มุ่งหมายที่จะลงโทษให้หนักขึ้นเฉพาะ ผู้ที่มีหรือใช้อาวุธปืนเท่านั้น มิใช่ว่าผู้ที่ร่วมกระทำการปล้นทรัพย์รายเดียวกัน จะต้องระวางโทษหนักขึ้นทุกคน จำเลยทั้งห้าไม่ได้ใช้อาวุธปืนในขณะกระทำการปล้นทรัพย์ กรณีจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 340 ตรี จำเลยทั้งห้าคงมีความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงตาม มาตรา 340 วรรคสี่เท่านั้น และศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ 5 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วย เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบด้วย มาตรา225 ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 2 ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก 1 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษผู้ใช้จ้างวานกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ต้องรับโทษเสมือนตัวการ แม้มีการใช้ยานพาหนะ
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้ใช้ให้จำเลยอื่นปล้นทรัพย์เมื่อศาลลงโทษจำเลยอื่นซึ่งเป็นตัวการฐานปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 วรรคสองแม้โจทก์จะนำสืบว่าจำเลยที่ 4 นำรถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะไปใช้ให้จำเลยอื่นกระทำความผิดก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยที่ 4ซึ่งเป็นผู้ใช้ตามมาตรา 340 ตรี ไม่ได้เนื่องจากตามมาตรา 84 ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมปล้นทรัพย์ด้วยการช่วยเหลือ แต่ไม่มีอาวุธ ไม่ผิดตาม ม.340 ตรี ศาลยืนตามอุทธรณ์
คนร้าย 2 คน มีปืนพกคนละกระบอกขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายใช้ปืนจี้ขู่บังคับเอาวิทยุเทปไป เมื่อคนร้ายลงไปถึงรั้วบ้านมีจำเลยเดินตามไปด้วย ดังนี้ จำเลยซึ่งมิได้มีอาวุธปืนไม่มีความผิดตามมาตรา 340 ตรี ซึ่งมุ่งหมายลงโทษเฉพาะตัวผู้มีอาวุธปืนเท่านั้นคงมีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3462/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่เข้าข่ายฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์ แม้มีการลักทรัพย์ภายหลัง
ก่อนเกิดเหตุ 15 นาที จำเลยเดินเข้ามาดูลาดเลาในร้านอาหาร 3 รอบ โดยมีพวกของจำเลย 2 คนจอดรถอยู่หน้าร้าน ขณะนั้นผู้ตายนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านเมื่อผู้ตายขับรถจากร้านอาหารจำเลยกับพวกก็ขับรถตามมาฆ่าผู้ตายห่างจากร้านอาหารเพียง 200 เมตร แสดงว่าจำเลยกับพวกมีแผนการนัดหมายกันมาก่อนลงมือกระทำผิด ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ข้อที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา289(6),340,340ตรี เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตายมาแต่แรกแต่ต้องการฆ่าผู้ตายเพียงอย่างเดียว จำเลยกับพวกไม่มีเจตนาปล้นทรัพย์ของผู้ตายมาก่อนเลย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ จำเลยกับพวกเพิ่งจะมีเจตนาลักเอารถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขี่ภายหลังเมื่อความผิดฐานฆ่าคนได้สำเร็จลงเด็ดขาดแล้ว จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ความผิดฐานนี้เป็นคนละกรรมกับความผิดฐานฆ่าคนตายและปล้นทรัพย์ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องรวมเป็นกรรมเดียวกันมา จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
ข้อที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา289(6),340,340ตรี เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตายมาแต่แรกแต่ต้องการฆ่าผู้ตายเพียงอย่างเดียว จำเลยกับพวกไม่มีเจตนาปล้นทรัพย์ของผู้ตายมาก่อนเลย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ จำเลยกับพวกเพิ่งจะมีเจตนาลักเอารถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขี่ภายหลังเมื่อความผิดฐานฆ่าคนได้สำเร็จลงเด็ดขาดแล้ว จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ความผิดฐานนี้เป็นคนละกรรมกับความผิดฐานฆ่าคนตายและปล้นทรัพย์ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องรวมเป็นกรรมเดียวกันมา จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3221/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เข้าข่ายกรรโชก แม้ฟ้องในข้อหาปล้นทรัพย์ ศาลต้องยกฟ้องตามข้อหาเดิม
จำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกขู่เข็ญผู้เสียหายเรียกเอาเงิน 6,000 บาทโดยอ้างว่ามีผู้ร้องเรียนไปทางกรมตำรวจว่าผู้เสียหายเป็นพระจรจัด จะเอาเงินไปปิดปากผู้ร้องเรียน ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงิน จำเลยที่ 2ว่ามีเท่าใดให้เอามาก่อน พร้อมกับทำมือแสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจลักษณะจะทำร้าย ผู้เสียหายกลัว จึงชี้บอกเงิน 2,000 บาทใส่ซองวางไว้บนโต๊ะให้เอาไปก่อน เช่นนี้ กรณีเป็นความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชก ซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่ออกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชก ซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่ออกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์: การรวมกระทงความผิด
จำเลยและพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธ พยายามปล้นโคของส.และผ.ผู้ตาย เมื่อผ.ขัดขวางจำเลยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผ. จนถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และการริบของกลาง
จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ที่บรรทุกสินค้า โดยพวกจำเลยขับรถยนต์กระบะตามหลังรถบรรทุกที่จะปล้นไปในระยะกระชั้นชิด แล้วจำเลยได้ปีนจากรถกระบะขณะที่แล่นตามหลังรถบรรทุกขึ้นไปบนรถบรรทุก เห็นได้ว่าจำเลยได้ใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะเพื่อกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์รายนี้แล้ว และถือได้ว่ารถยนต์กระบะนั้นเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำผิดศาลจึงมีอำนาจสั่งริบเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการกระทำผิด ยิงผู้อื่น และขับรถหลบหนี
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันกระทำผิด โดยมาขอนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ อ. ขับขี่ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพวกของจำเลยสั่งให้หยุดแล้วใช้อาวุธปืนยิง อ. ที่ท้ายทอยตกจากรถจากนั้นจำเลยขับรถจักรยานยนต์พาพวกหลบหนีไป ดังนี้ จำเลยไม่ใช่ผู้กระทำผิดโดยมีหรือใช้อาวุธปืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี คงมีความผิดตามมาตรา 339 และ มาตรา 288,80,83 เท่านั้น