พบผลลัพธ์ทั้งหมด 535 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549-2550/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างถนนที่ไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ตามระเบียบของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีว่าการขุดถนนจะต้องปักป้ายบอกว่าบริเวณนั้นมีการขุดถนน ตลอดจนมีสัญญาณต่าง ๆ แสดงให้ผู้สัญจรไปมาทราบ ทั้งในเวลากลางคืนต้องมีโคมไฟติดไว้เพื่อให้รถที่ขับขี่ไปมารู้การที่จำเลยที่2 ขุดถนนเพื่อวางท่อโดยจำเลยที่ 1 เป็นนายช่างควบคุมแล้วละเลยไม่ติดตั้งโคมไฟจึงเป็นความประมาท แม้ว่าทางนั้นจะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะและมีป้ายเตือนผู้ใช้ทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีป้ายห้ามเข้าและมีรถแล่นอยู่ตลอดเวลาดังนี้เมื่อ ส. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตกคูที่จำเลยขุดไว้จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549-2550/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างถนนสาธารณะ การละเลยติดตั้งสัญญาณเตือนและโคมไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ตามระเบียบของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีว่าการขุดถนนจะต้องปักป้ายบอกว่าบริเวณนั้นมีการขุดถนน ตลอดจนมีสัญญาณต่าง ๆ แสดงให้ผู้สัญจรไปมาทราบ ทั้งในเวลากลางคืนต้องมีโคมไฟติดไว้เพื่อให้รถที่ขับขี่ไปมารู้การที่จำเลยที่ 2 ขุดถนนเพื่อวางท่อโดยจำเลยที่ 1 เป็นนายช่างควบคุมแล้วละเลยไม่ติดตั้งโคมไฟจึงเป็นความประมาท แม้ว่าทางนั้นจะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะและมีป้ายเตือนผู้ใช้ทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีป้ายห้ามเข้าและมีรถแล่นอยู่ตลอดเวลาดังนี้เมื่อ ส. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตกคูที่จำเลยขุดไว้ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีหลังลักทรัพย์สำเร็จแล้ว ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยเข้าไปเอาทรัพย์สินซึ่งเก็บรักษาอยู่ในบ้านได้แล้วออกจากบ้านวิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพวกที่จอดรอดอยู่หลบหนีไปเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้วจึงหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลังกระทำผิดลักทรัพย์: ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ต้องริบ
จำเลยทั้งสองเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหายแล้วเปิดประตูระเบียง หน้าบ้านผู้เสียหายวิ่งไปนั่งซ้อน ท้าย รถจักรยานยนต์ซึ่งจอดรออยู่หลบหนีไป การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้ววิ่งหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ของกลางมิได้มีไว้เพื่อใช้หรือได้ใช้การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงมิใช่ทรัพย์อันพึงริบตาม ป.อ. มาตรา 33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลังการลักทรัพย์สำเร็จ: ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด
จำเลยเข้าไปเอาทรัพย์สินซึ่งเก็บรักษาอยู่ในบ้านได้แล้วออกจากบ้านวิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพวกที่จอดรอดอยู่หลบหนีไปเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้วจึงหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาการเลือกตั้ง: จำเป็นต้องระบุหน้าที่และอำนาจของจำเลย
การกระทำของข้าราชการที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2522 มาตรา 15 จะต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยเป็นปลัดกระทรวงการคลังและเป็นประธานกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยตำแหน่งไม่ได้บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างไร การให้ข่าวแก่นักหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในสมัยที่โจทก์ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดังกล่าวตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำในหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ และการให้ข่าวเช่นนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงบรรยายไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง: การใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อเป็นคุณ/โทษแก่ผู้สมัคร
การกระทำของข้าราชการที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2522 มาตรา 15จะต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยเป็นปลัดกระทรวงการคลัง และเป็นประธานกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยตำแหน่งไม่ได้บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างไร การให้ข่าวแก่นักหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในสมัยที่โจทก์ดำรง ตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดังกล่าวตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำในหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ และการให้ข่าวเช่นนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงบรรยายไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 158(5).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การบรรยายฟ้องต้องครบองค์ประกอบ
การกระทำของข้าราชการที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2522 มาตรา 15 จะต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยเป็นปลัดกระทรวงการคลังและเป็นประธานกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยตำแหน่งไม่ได้บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างไร การให้ข่าวแก่นักหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในสมัยที่โจทก์ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดังกล่าวตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำในหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ และการให้ข่าวเช่นนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงบรรยายไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างขับรถโดยสารประจำทาง ไม่ถือเป็นผู้ประกอบการขนส่งตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก
รถยนต์ที่จำเลยขับในขณะเกิดเหตุเป็นของบริษัท ย. นำมาเดินร่วมกับบริษัทขนส่งจำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางสายที่ 34 จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถยนต์คันดังกล่าวจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถเท่านั้น ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งแม้รถที่จำเลยขับจะไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งจากนายทะเบียน จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานะลูกจ้างขับรถ vs. ผู้ประกอบการขนส่ง: ไม่ผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบก หากไม่ใช่ผู้ประกอบการ
รถยนต์ที่จำเลยขับในขณะเกิดเหตุเป็นของบริษัท ย. นำมาเดินร่วมกับบริษัทขนส่งจำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางสายที่ 34 จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถยนต์คันดังกล่าว จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถเท่านั้น ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งแม้รถที่จำเลยขับจะไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งจากนายทะเบียน จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23.