พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากสัญญากู้เป็นสัญญาขายฝาก ทำให้หนี้เดิมระงับสิ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
ทำสัญญากู้เงินกันแล้วตกลงเปลี่ยนสัญญานั้นเป็นสัญญาขายฝากเรือนเป็นการทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งของซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ทำให้หนี้เงินกู้เป็นอันระงับสิ้นไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากสัญญากู้เป็นสัญญาขายฝาก ทำให้หนี้เงินกู้ระงับสิ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
ทำสัญญากู้เงินกันแล้วตกลงเปลี่ยนสัญญานั้นเป็นสัญญาขายฝากเรือนเป็นการทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งของซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ ทำให้หนี้เงินกู้เป็นอันระงับสิ้นไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากสัญญากู้เป็นสัญญาขายฝาก ทำให้หนี้เดิมระงับสิ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
ทำสัญญากู้เงินกันแล้วตกลงเปลี่ยนสัญญานั้นเป็นสัญญาขายฝากเรือนเป็นการทำสัญญษเปลี่ยนสิ่งของซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ทำให้หนี้เงินกู้เป็นอันระงับสิ้นไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา349.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอซื้อที่ดินเช่าเพื่อเกษตรกรรมต้องปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายก่อน และประเด็นพืชล้มลุกเป็นพืชไร่หรือไม่
การฟ้องขอให้ผู้รับโอน โอนนาหรือที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่น ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกาควบคุมให้แก่ผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้ให้เช่าขายไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบนั้น ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเสียก่อนกล่าวคือ ต้องมีการร้องขอต่อคชก.ตำบลเพื่อวินิจฉัยให้จำเลยขายที่ดินให้แก่โจทก์เสียก่อน เมื่อ คชก.ตำบลวินิจฉัยเป็นประการใด ผู้ไม่พอใจมีสิทธิอุทธรณ์ต่อ คชก.จังหวัดภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัย แต่ต้องไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่คชก. ตำบลมีคำวินิจฉัย มิฉะนั้นให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นถึงที่สุดหากคชก.จังหวัดวินิจฉัยแล้วยังไม่เป็นที่พอใจจึงจะมีสิทธิฟ้องคดีได้เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีทันทีโดยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบังคับไว้ เช่นนี้ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องและอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
จำเลยฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่พิพาท โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งไว้ว่า โจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อการเกษตรกรรม ปลูกพืชล้มลุกเช่นกล้วยเป็นพืชหลักและเป็นรายได้หลักตลอดมาปัญหาจึงอยู่ที่ว่าต้นกล้วยเป็นพืชไร่หรือไม่การปลูกต้นกล้วยของโจทก์ถึงขนาดเป็นการทำนาหรือไม่ถ้าเป็นที่ดินที่ทำก็ถือได้ว่าเป็นนาตามบทบัญญัติในมาตรา 21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โจทก์จึงอาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวให้ยังไม่ต้องถูกขับไล่ออกจากที่เช่าก็ได้ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะพึงพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายก่อน ไม่ควรที่จะงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
จำเลยฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่พิพาท โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งไว้ว่า โจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อการเกษตรกรรม ปลูกพืชล้มลุกเช่นกล้วยเป็นพืชหลักและเป็นรายได้หลักตลอดมาปัญหาจึงอยู่ที่ว่าต้นกล้วยเป็นพืชไร่หรือไม่การปลูกต้นกล้วยของโจทก์ถึงขนาดเป็นการทำนาหรือไม่ถ้าเป็นที่ดินที่ทำก็ถือได้ว่าเป็นนาตามบทบัญญัติในมาตรา 21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โจทก์จึงอาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวให้ยังไม่ต้องถูกขับไล่ออกจากที่เช่าก็ได้ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะพึงพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายก่อน ไม่ควรที่จะงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม: ขั้นตอนการฟ้องร้องขอซื้อ และการคุ้มครองผู้เช่าตามกฎหมาย
การฟ้องขอให้ผู้รับโอน โอนนาหรือที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่น ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกาควบคุมให้แก่ผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้ให้เช่าขายไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบนั้น ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเสียก่อนกล่าวคือ ต้องมีการร้องขอต่อ คชก. ตำบลเพื่อวินิจฉัยให้จำเลยขายที่ดินให้แก่โจทก์เสียก่อน เมื่อ คชก.ตำบลวินิจฉัยเป็นประการใด ผู้ไม่พอใจมีสิทธิอุทธรณ์ต่อ คชก.จังหวัดภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัย แต่ต้องไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ คชก. ตำบลมีคำวินิจฉัย มิฉะนั้นให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นถึงที่สุดหาก คชก.จังหวัดวินิจฉัยแล้วยังไม่เป็นที่พอใจจึงจะมีสิทธิฟ้องคดีได้ เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีทันทีโดยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบังคับไว้ เช่นนี้ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องและอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
จำเลยฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่พิพาท โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งไว้ว่า โจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อการเกษตรกรรม ปลูกพืชล้มลุกเช่นกล้วยเป็นพืชหลักและเป็นรายได้หลักตลอดมาปัญหาจึงอยู่ที่ว่าต้นกล้วยเป็นพืชไร่หรือไม่ การปลูกต้นกล้วยของโจทก์ถึงขนาดเป็นการทำนาหรือไม่ ถ้าเป็นที่ดินที่ทำก็ถือได้ว่าเป็นนาตามบทบัญญัติใน มาตรา 21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โจทก์จึงอาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวให้ยังไม่ต้องถูกขับไล่ออกจากที่เช่าก็ได้ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะพึงพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายก่อน ไม่ควรที่จะงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
จำเลยฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่พิพาท โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งไว้ว่า โจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อการเกษตรกรรม ปลูกพืชล้มลุกเช่นกล้วยเป็นพืชหลักและเป็นรายได้หลักตลอดมาปัญหาจึงอยู่ที่ว่าต้นกล้วยเป็นพืชไร่หรือไม่ การปลูกต้นกล้วยของโจทก์ถึงขนาดเป็นการทำนาหรือไม่ ถ้าเป็นที่ดินที่ทำก็ถือได้ว่าเป็นนาตามบทบัญญัติใน มาตรา 21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โจทก์จึงอาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวให้ยังไม่ต้องถูกขับไล่ออกจากที่เช่าก็ได้ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะพึงพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายก่อน ไม่ควรที่จะงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอซื้อที่ดินเช่าต้องปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายก่อน และประเด็นการคุ้มครองผู้เช่าที่ดินเกษตรกรรม
การฟ้องขอให้ผู้รับโอนโอนนาหรือที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่นซึ่งมีพระราชกฤษฎีกาควบคุมให้แก่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้ให้เช่าขายไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบนั้นผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเสียก่อนกล่าวคือต้องมีการร้องขอต่อคชก.ตำบลเพื่อวินิจฉัยให้จำเลยขายที่ดินให้แก่โจทก์เสียก่อนเมื่อคชก.ตำบลวินิจฉัยเป็นประการใดผู้ไม่พอใจมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคชก.จังหวัดภายใน30วันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยแต่ต้องไม่เกิน60วันนับแต่วันที่คชก.ตำบลมีคำวินิจฉัยมิฉะนั้นให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นถึงที่สุดหากคชก.จังหวัดวินิจฉัยแล้วยังไม่เป็นที่พอใจจึงจะมีสิทธิฟ้องคดีได้เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีทันทีโดยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบังคับไว้เช่นนี้โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องและอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ จำเลยฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกจากที่พิพาทโจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งไว้ว่าโจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อการเกษตรกรรมปลูกพืชล้มลุกเช่นกล้วยเป็นพืชหลักและเป็นรายได้หลักตลอดมาปัญหาจึงอยู่ที่ว่าต้นกล้วยเป็นพืชไร่หรือไม่การปลูกต้นกล้วยของโจทก์ถึงขนาดเป็นการทำนาหรือไม่ถ้าเป็นที่ดินที่ทำก็ถือได้ว่าเป็นนาตามบทบัญญัติในมาตรา21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524โจทก์จึงอาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวให้ยังไม่ต้องถูกขับไล่ออกจากที่เช่าก็ได้จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะพึงพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายก่อนไม่ควรที่จะงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาลศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริตและเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้วจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสอง จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่21มกราคม2527จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่29มกราคม2527แต่วันที่29มกราคม2527เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา161ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่30มกราคม2527.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่เกินกำหนดและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2591/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวชำระหนี้ต้องมีระยะเวลาพอสมควร หากไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นวันชี้สองสถานไว้ 2 ข้อคือ จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระเงิน 12,800 บาท ตามที่ตกลงกันต่อหน้าศาลหรือไม่และโจทก์เสียหายเพียงใด เมื่อสืบพยานเสร็จ ศาลชั้นต้นกำหนด ประเด็นขึ้น 4 ข้อ แล้วพิพากษาไปในวันนั้นคือ 1. จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระเงิน 12,800 บาท ตามที่ตกลงกับโจทก์ในวันที่ 1 กันยายนหรือไม่ 2. โจทก์มีสิทธิเลิกสัญญาโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนหรือไม่ 3. โจทก์ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงโอนที่ดินให้จำเลยตามฟ้องแย้งของจำเลยหรือไม่ 4. โจทก์เสียหายหรือไม่ เพียงใด ดังนี้ประเด็นข้อ 1 เป็นการเน้นให้ชัดลงไปว่าจำเลยผิดสัญญาในวันที่ 1 กันยายน 2524 หรือไม่ เพราะประเด็นเดิมกล่าวไว้กว้าง ๆ ว่าผิดสัญญาตามที่ตกลงกันต่อหน้าศาลหรือไม่ ซึ่งการนัดชำระราคาหลังจากตกลงกันที่ศาลแล้วมีครั้งเดียวคือวันที่ 1 กันยายน 2524 เท่านั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการกำหนดขึ้นใหม่
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินนัดจำเลยไปรับโอนที่ดินที่ซื้อในวันที่1 กันยายน 2524 โดยเจ้าพนักงานที่ดินออกหนังสือเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2524 เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือนั้นแก่จำเลยวันถัดมา โจทก์จึงมิได้เป็นผู้แจ้งให้จำเลยปฏิบัติการชำระหนี้เอง จะถือว่าเจ้าพนักงานที่ดินเป็นตัวแทนหาได้ไม่กำหนดเวลาที่ให้จำเลยชำระหนี้เพียง 4 วัน นับว่ากระชั้นชิดเกินไปไม่ใช่ระยะเวลาพอสมควรตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 387 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์การบอกกล่าวแจ้งให้จำเลยชำระหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาโจทก์ยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาซื้อขายกับจำเลยและยังไม่มีอำนาจฟ้อง
ประเด็นข้อ 3 ที่ศาลชั้นต้นกำหนดเพิ่มเติม ไม่ขัดต่อวิธีพิจารณาเพราะรวมอยู่ในประเด็นแรกที่กำหนดไว้แต่เดิมแล้ว คือหากจำเลยไม่ผิดสัญญาย่อมมีประเด็นตามมาว่าโจทก์ต้องโอนที่ดินให้จำเลยตามฟ้องแย้งหรือไม่
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินนัดจำเลยไปรับโอนที่ดินที่ซื้อในวันที่1 กันยายน 2524 โดยเจ้าพนักงานที่ดินออกหนังสือเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2524 เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือนั้นแก่จำเลยวันถัดมา โจทก์จึงมิได้เป็นผู้แจ้งให้จำเลยปฏิบัติการชำระหนี้เอง จะถือว่าเจ้าพนักงานที่ดินเป็นตัวแทนหาได้ไม่กำหนดเวลาที่ให้จำเลยชำระหนี้เพียง 4 วัน นับว่ากระชั้นชิดเกินไปไม่ใช่ระยะเวลาพอสมควรตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 387 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์การบอกกล่าวแจ้งให้จำเลยชำระหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาโจทก์ยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาซื้อขายกับจำเลยและยังไม่มีอำนาจฟ้อง
ประเด็นข้อ 3 ที่ศาลชั้นต้นกำหนดเพิ่มเติม ไม่ขัดต่อวิธีพิจารณาเพราะรวมอยู่ในประเด็นแรกที่กำหนดไว้แต่เดิมแล้ว คือหากจำเลยไม่ผิดสัญญาย่อมมีประเด็นตามมาว่าโจทก์ต้องโอนที่ดินให้จำเลยตามฟ้องแย้งหรือไม่