คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อภินย์ ปุษปาคม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 496 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์: จำเลยรับเด็กกลับเพราะกลัวถูกทำโทษ ไม่เข้าข่ายความผิด
ผู้เยาว์อายุไม่เกินสิบสามปีออกจากบ้านไปคนเดียว จำเลยซึ่งเป็นป้ารับกลับมาแล้วไม่พาไปหาบิดามารดาเพราะผู้เยาว์กลัวถูกทำโทษไม่ยอมกลับ จนย่า ของผู้เยาว์ต้องนำไปบวชเณรเพื่อไม่ให้ถูกบิดามารดาทำโทษแล้วจึงให้ ส. ไปบอกบิดามารดาไปรับกลับเอง ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ป.อ. มาตรา 317.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนขายฝากที่ไม่จดทะเบียนมีผลใช้ยันกันระหว่างคู่กรณี โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทไว้กับ ซ.สามีโจทก์ 1 ปีจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากแล้ว แม้การไถ่ถอนจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม ก็เป็นเพียงทำให้การกลับคืนมาซึ่งทรัพย์สิทธิในที่ดินยังไม่บริบูรณ์เท่านั้น แต่ในระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยกันเอง ย่อมมีผลใช้ยันกันได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของ ซ. จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝากแม้ไม่จดทะเบียน ก็มีผลใช้ยันระหว่างคู่กรณี โจทก์ในฐานะทายาทไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทไว้กับ ซ.สามีโจทก์ 1 ปีจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากแล้ว แม้การไถ่ถอนจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม ก็เป็นเพียงทำให้การกลับคืนมาซึ่งทรัพย์สิทธิในที่ดินยังไม่บริบูรณ์เท่านั้น แต่ในระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยกันเอง ย่อมมีผลใช้ยันกันได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของ ซ. จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2155/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต้องพิจารณาจากพฤติการณ์ประกอบ การพูดข่มขู่เพียงอย่างเดียวไม่พอฟัง
การที่จำเลยชักมีดปลายแหลมยาวทั้งตัวด้ามประมาณ 1 ศอกออกมาแล้วพูดขึ้นว่า'มึงตายเสียเถอะ'จะถือเอาเป็นจริงจังตามคำพูดนั้นไม่ได้ ต้องดูพฤติการณ์อื่นที่เกิดขึ้นประกอบด้วยฉะนั้นแม้จำเลยจะใช้มีดแทง ส.และท. ก็ตามแต่จำเลยก็หาได้พยายามที่จะทำให้บุคคลทั้งสองได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสจะกระทำได้ เพราะเมื่อคนทั้งสองล้มแล้ว จำเลยก็มิได้แทงซ้ำเติมแต่อย่างใดและลักษณะบาดแผลที่คนทั้งสองได้รับก็ไม่มีลักษณะฉกรรจ์พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวประกอบกับที่ต่อมาจำเลยได้ไล่แทง ฉ.แต่ฉ.หลบหนีไปได้ เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงเป็นเพียงทำร้ายร่างกาย ส.และท. และพยายามทำร้ายร่างกายฉ. เท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องขอใช้สิทธิปักเสาพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของผู้อื่น ต้องเสนอค่าทดแทนที่สมควร หากประเด็นค่าทดแทนเปลี่ยนแปลง ถือว่ามิใช่การฟ้องซ้ำ
คดีแรกโจทก์ฟ้องจำเลยให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลยจึงไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยประเด็นซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีแรกจึงมีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีหลังโจทก์กล่าวอ้างว่าในการที่โจทก์จะปักเสาและพาดสายไฟฟ้าดังกล่าว โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้ว จึงมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยหรือไม่ และด้วยค่าทดแทนเพียงใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีแรก จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่: ประเด็นค่าทดแทนในการปักเสาพาดสายไฟฟ้าที่ดิน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามขอให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยศาลฎีกาในคดีก่อนวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยไม่ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีนี้โจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยทั้งสามแล้วเป็นเงิน 4,000 บาท คดีจึงมีประเด็นว่า จำเลยทั้งสามจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสามหรือไม่และด้วยค่าทดแทนเท่าใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีก่อน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทดแทนเพื่อปักเสาพาดสายไฟฟ้าบนที่ดินผู้อื่น แม้เคยฟ้องแล้ว แต่หากมีการเสนอค่าทดแทนเพิ่มเติม ถือเป็นประเด็นใหม่ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
คดีแรกโจทก์ฟ้องจำเลยให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย จึงไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลย ประเด็นซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีแรกจึงมีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีหลังโจทก์กล่าวอ้างว่าในการที่โจทก์จะปักเสาและพาดสายไฟฟ้าดังกล่าว โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้ว จึงมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยหรือไม่ และด้วยค่าทดแทนเพียงใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีแรก จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ทรัพย์สินขายฝากสงวนเฉพาะผู้ขายเดิม/ผู้รับโอนสิทธิ/ผู้ที่ระบุในสัญญาเท่านั้น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 497 บุคคลที่จะใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากต้องเป็นผู้ขายเดิม ทายาทผู้ขายเดิม ผู้รับโอนสิทธิหรือบุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้ เป็นการกำหนดตัวผู้มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินไว้โดยเฉพาะเจาะจงแล้ว โจทก์มิใช่บุคคลที่มีสิทธิในการไถ่ที่ดินพิพาทตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนั้นแม้โจทก์จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2 ผู้ขายฝากหรือไม่ก็ตาม โจทก์จะอ้างเหตุว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสและขอใช้สิทธิไถ่ที่พิพาทหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่การขายฝาก: กำหนดเฉพาะผู้ขายเดิม, ทายาท หรือผู้รับโอน/ได้รับอนุญาตตามสัญญา
ผู้มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากย่อมเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 497ได้แก่ ผู้ขายเดิม หรือทายาทผู้ขายเดิม ผู้รับโอนสิทธินั้นหรือบุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะ ว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้ กฎหมายกำหนดตัวผู้มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินไว้โดยเฉพาะ เจาะจงแล้ว แม้โจทก์จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ขายฝากหรือไม่ก็ตามหามีสิทธิไถ่ถอนที่ดินพิพาทไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ทรัพย์สินขายฝากสงวนเฉพาะผู้ขายเดิม/ผู้รับโอนสิทธิ/ผู้ที่ระบุในสัญญาเท่านั้น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 497 บุคคลที่จะใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากต้องเป็นผู้ขายเดิมทายาทผู้ขายเดิมผู้รับโอนสิทธิหรือบุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้เป็นการกำหนดตัวผู้มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินไว้โดยเฉพาะเจาะจงแล้ว โจทก์มิใช่บุคคลที่มีสิทธิในการไถ่ที่ดินพิพาทตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนั้นแม้โจทก์จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2 ผู้ขายฝากหรือไม่ก็ตามโจทก์จะอ้างเหตุว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสและขอใช้สิทธิไถ่ที่พิพาทหาได้ไม่.
of 50