คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อภินย์ ปุษปาคม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 496 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4721/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่และการกีดขวางการจราจร: ผู้ขับขี่ที่จอดรถเสียและเปิดไฟเตือนไม่ต้องรับผิด
ขณะเกิดเหตุรถของจำเลยที่2กำลังจอดอยู่กลางถนนจำเลยที่2พยายามจะเคลื่อนรถให้พ้นจากการกีดขวางบนถนนแต่ทำไม่ได้จึงได้เปิดไฟกะพริบหน้าหลังและเปิดไฟใหญ่หน้ารถไว้เป็นที่สังเกตุนับว่าเป็นการกระทำตามสมควรที่จำเลยที่2จะกระทำได้ในสถานการณ์เช่นนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถของตนกีดขวางการจราจรบนถนนอยู่การที่จำเลยที่1ขับรถมาโดยเร็วแล้วชนรถของจำเลยที่2เป็นเหตุให้มีคนได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัสจึงเป็นเพราะความประมาทของจำเลยที่1ฝ่ายเดียวมิใช่เป็นผลจากการกระทำของจำเลยที่2ด้วยจำเลยที่2จึงไม่มีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4721/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ชนรถที่จอดเสียบนถนน ผู้ขับรถที่จอดเสียไม่มีความผิด
ขณะเกิดเหตุรถของจำเลยที่ 2 กำลังจอดอยู่กลางถนนจำเลยที่ 2 พยายามจะเคลื่อนรถให้พ้นจากการกีดขวางบนถนน แต่ทำไม่ได้ จึงได้เปิดไฟกะพริบหน้าหลังและเปิดไฟใหญ่หน้ารถไว้เป็นที่สังเกต นับว่าเป็นการกระทำตามสมควรที่จำเลยที่ 2 จะกระทำได้ใน สถานการณ์เช่นนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถของตนกีดขวางการจราจร บนถนนอยู่ การที่จำเลยที่ 1 ขับรถมาโดยเร็ว แล้วชนรถของ จำเลยที่ 2 เป็นเหตุให้มี คนได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส จึงเป็นเพราะความประมาทของจำเลยที่ 1 ฝ่ายเดียว มิใช่เป็นผลจาก การกระทำของจำเลยที่ 2 ด้วยจำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4665/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาโดยบันทึกในศาลแขวง และการลดโทษในคดีพนัน
คำพิพากษาของศาลแขวงสามารถกระทำได้โดยเพียงบันทึกไว้เท่านั้น แม้คำพิพากษามิได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยก่อน แต่เมื่ออ่านประกอบกันโดยตลอดแล้ว เป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงไว้เท่าใด ทั้งได้อ้างมาตราที่ลดโทษให้จำเลยไว้ด้วยแล้ว ไม่มีทางที่จะเข้าใจหรือแปลความหมายเป็นอย่างอื่นไปได้ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลแขวงจึงชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ดังนี้จำเลยจะฎีกาเถียงเป็นอย่างอื่น หาได้ไม่เพราะขัดกับคำรับสารภาพ ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือใน การกระทำผิดมีมากถึง 46 ตู้ เงินเหรียญบาทถึง 30,231 เหรียญ ถือได้ว่าเป็นการเล่นการพนันรายใหญ่ อาจเป็นการมอมเมาเยาวชน ให้หลงไหลในการพนัน เป็นผลเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะลดหย่อนโทษและรอการลงโทษให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4665/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาของศาลแขวงโดยบันทึกคำพิพากษา และการลงโทษการพนันรายใหญ่
คำพิพากษาของศาลแขวงสามารถกระทำได้โดยเพียงบันทึกไว้เท่านั้นแม้คำพิพากษามิได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยก่อนแต่เมื่ออ่านประกอบกันโดยตลอดแล้วเป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงไว้เท่าใดทั้งได้อ้างมาตราที่ลดโทษให้จำเลยไว้ด้วยแล้วไม่มีทางที่จะเข้าใจหรือแปลความหมายเป็นอย่างอื่นไปได้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลแขวงจึงชอบแล้ว โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพดังนี้จำเลยจะฎีกาเถียงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่เพราะขัดกับคำรับสารภาพทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดมีมากถึง46ตู้เงินเหรียญบาทถึง30,231เหรียญถือได้ว่าเป็นการเล่นการพนันรายใหญ่อาจเป็นการมอมเมาเยาวชนให้หลงไหลในการพนันเป็นผลเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะลดหย่อนโทษและรอการลงโทษให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4665/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาโดยบันทึกของศาลแขวง และการลดโทษในคดีพนัน
คำพิพากษาของศาลแขวงสามารถกระทำได้โดยเพียงบันทึกไว้เท่านั้น แม้คำพิพากษามิได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยก่อน แต่เมื่ออ่านประกอบกันโดยตลอดแล้ว เป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลได้ตั้งกำหนดโทษที่จะลงไว้เท่าใด ทั้งได้อ้างมาตราที่ลดโทษให้จำเลยไว้ด้วยแล้ว ไม่มีทางที่จะเข้าใจหรือแปลความหมายเป็นอย่างอื่นไปได้ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลแขวงจึงชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ดังนี้จำเลยจะฎีกาเถียงเป็นอย่างอื่น หาได้ไม่เพราะขัดกับคำรับสารภาพ ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือใน การกระทำผิดมีมากถึง 46 ตู้ เงินเหรียญบาทถึง 30,231 เหรียญ ถือได้ว่าเป็นการเล่นการพนันรายใหญ่ อาจเป็นการมอมเมาเยาวชน ให้หลงไหลในการพนัน เป็นผลเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะลดหย่อนโทษและรอการลงโทษให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4312/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์เพื่อเป็นตัวประกันโดยไม่ได้มีเจตนาพรากจากผู้ดูแล ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317
จำเลยเป็นโรคประสาทหลอนกลัวคนจะทำร้าย ได้อุ้มเอาผู้เสียหายซึ่งอยู่กับบิดาในสวนจตุจักรไปเป็นตัวประกันโดยเมื่อถึงสถานีขนส่งสายเหนือฝั่งถนนตรงกันข้ามแล้วก็จะปล่อย จำเลยหาได้มีเจตนาพรากผู้เสียหายไปจากความดูแลของบิดาไม่ เพียงแต่กระทำไปโดยประสงค์ที่จะเอาตัวผู้เสียหายไปเป็นตัวประกันในระยะเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งบิดาผู้เสียหายก็ยังคงติดตามไปด้วย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4312/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากเด็กหญิงเพื่อใช้เป็นตัวประกันโดยมีเจตนาปล่อยตัว ไม่ถือเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์
จำเลยเป็นโรคประสาทหลอนกลัวคนจะทำร้าย ได้อุ้มเอาผู้เสียหายซึ่งอยู่กับบิดาในสวนจตุจักรไปเป็นตัวประกันโดยเมื่อถึงสถานีขนส่งสายเหนือฝั่งถนนตรงกันข้ามแล้วก็จะปล่อย จำเลยหาได้มีเจตนาพรากผู้เสียหายไปจากความดูแลของบิดาไม่ เพียงแต่กระทำไปโดยประสงค์ที่จะเอาตัวผู้เสียหายไปเป็นตัวประกันในระยะเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งบิดาผู้เสียหายก็ยังคงติดตามไปด้วย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4312/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์เพื่อเป็นตัวประกัน: ไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 317 หากไม่มีเจตนาพรากจากความดูแล
จำเลยเป็นโรคประสาทหลอนกลัวคนจะทำร้ายได้อุ้มเอาผู้เสียหายซึ่งอยู่กับบิดาในสวนจตุจักรไปเป็นตัวประกันโดยเมื่อถึงสถานีขนส่งสายเหนือฝั่งถนนตรงกันข้ามแล้วก็จะปล่อยจำเลยหาได้มีเจตนาพรากผู้เสียหายไปจากความดูแลของบิดาไม่เพียงแต่กระทำไปโดยประสงค์ที่จะเอาตัวผู้เสียหายไปเป็นตัวประกันในระยะเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทั้งบิดาผู้เสียหายก็ยังคงติดตามไปด้วยยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา317.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4015/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งหมายนัด และผลกระทบต่อการดำเนินคดีอาญา
ศาลสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องโดยให้โจทก์นำส่งหมายนัดภายใน 7 วันทนายโจทก์ทราบนัดแล้ว ครั้นถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ศาลจึงสั่งให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ต่อมาในวันเดียวกันนั้นเจ้าพนักงานศาลรายงานให้ศาลทราบว่า โจทก์มิได้ดำเนินการส่งหมายนัดให้จำเลยตามคำสั่งศาลขั้นตอนของการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ล่วงเลยมาถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้ว จึงไม่มีกรณีที่ศาลจะต้องย้อนไปสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 (1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 อีก กรณีมิได้เป็นการข้ามขั้นตอนและมิได้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4015/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดและการยกฟ้องคดีอาญา: ศาลชอบที่จะยกฟ้องมากกว่าจำหน่ายคดี
ศาลสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องโดยให้โจทก์นำส่งหมายนัดภายใน7วันทนายโจทก์ทราบนัดแล้วครั้นถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดีศาลจึงสั่งให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166ต่อมาในวันเดียวกันนั้นเจ้าพนักงานศาลรายงานให้ศาลทราบว่าโจทก์มิได้ดำเนินการส่งหมายนัดให้จำเลยตามคำสั่งศาลขั้นตอนของการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ล่วงเลยมาถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วจึงไม่มีกรณีที่ศาลจะต้องย้อนไปสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา132(1)ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา15อีกกรณีมิได้เป็นการข้ามขั้นตอนและมิได้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ.
of 50